ส่องฟีดแบกแรก "Indiana Jones and the Dial of Destiny" นักวิจารณ์หนังทั่วโลกว่ายังไง?

"Indiana Jones and the Dial of Destiny" เป็นการกลับมาสานต่อตำนานการผจญภัยของอินดี้ และเป็นภาคที่ 5 ของหนังชุดนี้ ที่ได้ฤกษ์ฉายรอบปฐมทัศน์โลกไปแล้วอย่างเป็นทางที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2023 ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พร้อมกับได้รับการยืนปรบมือให้นานถึง 5 นาที หลังจากที่หนังฉายจบลง พร้อมกับสดุดีให้กับการอำลาบทนี้ของ "แฮร์ริสัน ฟอร์ด" ที่ขึ้นรับรางวัลเกียรติยศแห่งปีด้วย

แต่กว่าที่ Indiana Jones and the Dial of Destiny จะได้ลงโรงฉายอย่างเป็นทางการไปทั่วโลก คอหนังอาจจะต้องเฝ้ารอคอยไปจนกว่าจะถึงสุดสัปดาห์สิ้นเดือนมิถุนายนกันเลยทีเดียว แต่จากการฉายรอบปฐมทัศน์โลกที่ผ่านมานั้น ก็มีผู้ชมกลุ่มแรก ๆ ได้มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักวิจารณ์ชื่อดังจากสื่อชั้นนำของโลก และดูเหมือนว่าฟีดแบกชุดแรกของหนังที่มีออกมานั้น ก็มีเสียงความคิดเห็นที่แตกต่างปะปนกันออกไป

สำหรับในภาพรวมนั้น นักวิจารณ์ต่างลงความคิดเห็นที่ค่อนข้างคล้ายกันว่า ภาคนี้ค่อนข้างดีขึ้นกว่าภาคที่แล้ว อย่าง  Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull เมื่อปี 2008 แต่ก็ยังไม่ได้เป็นความดีงามที่มากกว่านั้นสักเท่าไหร่ เพราะดูทรงแล้วจะยังมีปัญหาเกี่ยวกับความแนบเนียนในการใช้เทคนิคพิเศษในหนังที่หลายเสียงว่ายังไม่ดีพอ แต่ทั้งนี้ก็มีเสียงชื่นชมการแสดงของ "ฟีบี วอลเลอร์-บริดจ์" ออกมาหนาหู และบอกว่าประทับใจกับการทิ้งทวนบทนี้ครั้งสุดท้ายของ แฮร์ริสัน ฟอร์ด ที่เขาได้สร้างตำนานไปเรียบร้อย

บทความวิจารณ์ของ The Hollywood Reporter ให้ความคิดเห็นว่าบทหนังที่ได้นักเขียนระดับหัวกะทิมาช่วยกันระดมสมองกัน เป็นเหมือนการพาคนดูย้อนกลับไปสู่อดีตที่หอมหวาน แต่ยังน่าเสียดายที่องก์อื่น ๆ ของหนังยังทำได้ไม่ถึงมือ และกลายเป็นว่าบทสรุปของเรื่องราวนี้มีหลายส่วนที่ดูปลอมเปลือกไปอย่างสัมผัสได้ชัด

ขณะที่นักวิจารณ์จาก The Guardian ค่อนข้างชอบหนังภาคนี้ เขาบอกว่าหนังฉลาดและเล่าเรื่องได้สนุก แม้ว่าตอนจบของหนังจะค่อนข้างไร้สาระไปหน่อย แต่มันสร้างความบันเทิงได้ดี แม้จะพยายามที่ท้าทายด้วยการนำเอากฎแรงดึงดูดของเวลามาใช้ใหนังเรื่องนี้ แต่ก็ดูเหมือนว่าอินดี้แบบเก่า ๆ ก็ยังคงคลาสสิกดั้งเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ทางด้านบทความวิจารณ์จาก IndieWire ระบุว่าหนังไม่ได้ดึงดูดความสนใจใด ๆ เขาได้เลย เกือบจะเป็นหนังที่ทำให้รู้สึกเสียเวลาเปล่า หนังยังคงวนอยู่ในอ่างเกี่ยวกับการย้ำเตือนเรื่องอดีต อีกทั้งยังพบปัญหาหลาย ๆ จุดในหนังเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม หนังก็แลนดิ้งด้วยตัวของมันเองแบบสูตรสำเร็จที่อยู่ในเซฟโซนไปเสียหน่อย

นักวิจารณ์ชื่อดังของ Empire ที่ค่อนข้างคาดหวังกับหนังภาคนี้สูงพอสมควร เขารู้สึกยินดีที่ได้เห็นโทนความมืดมนที่เกิดขึ้นในหนังภาคนี้ และยกย่องว่า เจมส์ แมนโกลด์ ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างเวิร์ก กับการผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับแนวคิดสร้างหนังในยุคปัจจุบัน แม้ว่ามันจะเหมือนมาเดตครั้งสุดท้ายกับอินดี้สักหน่อยก็ตาม

ผิดต่างจากนักวิจารณ์จาก Vanity Fair ที่เขามีความคิดเห็นที่ค่อนข้างแย่กับหนังเรื่องนี้ เขาบอกว่าหนังมีวัตถุดิบที่ดีอยู่ในมือ แต่เหมือนกับคำนวณอะไรบางอย่างผิดพลาดไป ทำให้เรื่องราวต่าง ๆ ยังไปชวนคลิกและดูเพ้อเจ้อร่ายมนตร์เกินไป เขายังบอกว่าความสมเหตุสมผลของตัวละครก็น่าขัดใจ อินดี้ที่โรยรายไม่เหมาะกับการไปอยู่ในแวดล้อนของหนังเรื่องนี้ได้ ทำให้เขาเหมือนถูกดึงลากเข้าไปในที่ที่เขาไม่ค่อยจะอยู่อีกต่อไปแล้ว

แต่กระนั้น นักวิจารณ์หนังจาก Total Film กลับชอบหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เขาชื่นชอบความพยายามของ เจมส์ แมนโกลด์ ในการสร้างพัฒนาการเติบโตของตัวละครหลักได้ดีและลื่นไหล นี่เป็นหนังภาคที่จะทำให้คนดูน้ำตาคลอตามไปด้วย สัมผัสได้ว่าตัวละครโตขึ้น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องฉลาดขึ้นตาม มันทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยความทรงจำดี ๆ เอาไว้มากมายในหนังเรื่องนี้

Indiana Jones and the Dial of Destiny อินเดียน่า โจมส์ กับกงล้อแห่งโชคชะตา
ฉายวันพุธที่ 28 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa