สวัสดีนักอ่านทุกท่านนะครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำซีรี่ย์อิงประวัติศาสตร์เรื่องนึงให้เพื่อนๆได้รับชมกัน นั่นก็คือเรื่อง The Last Kingdom ครับ สำหรับใครที่ชื่นชอบซีรี่ย์ ประเภท แนวอิงประวัติศาสตร์ กำลังเบื่อๆ อยากหาซีรี่ย์มันส์ๆ ซักเรื่องมาดูแก้เซ็ง ห้ามพลาดซีรี่ย์เรื่องนี้เลยครับ(คำเตือนเนื้อหาของบทความนี้ มีการเปิดเผยขอมูลของซีรี่ย์) เรื่อง The Last Kingdom เป็นซี่รี่ที่สร้างมากจากหนังสือ นวนิยายเรื่อง The Saxon Stories ประพันธ์โดย Bernard Cornwell's On Air ครั้งแรกวันที่ 10 ตุลาคม ปี 2015 ทางช่อง BBC America ,Season แรกมีด้วยกันทั้งหมด 8 Ep. ตอนนี้มีทั้งหมด 4 Season เรื่องราวมันเริ่มต้นขึ้นที่ ประเทศอังกฤษ ในสมัยปลายศตวรรษที่ 8 ประเทศอังกฤษถูกรุกรานจากพวกชาว Danes หรือ ที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “ไวกิ้ง” นั่นเอง อังกฤษสูญเสียดินแดนไปจนเกือบหมด เหลือเพียง อาณาจักรสุดท้ายนั่นก็คือ Kigdom Of Wessex ตัวเอกของเรื่อง Uhtred of Bebbanburg ชื่อเดิม (Osbert) เป็นลูกชายคนรองของ Lord Uhtred of Bebbanburg ผู้สืบเชื้อสาย โดยชอบธรรมแห่งบัลลังก์ Bebbanburg ,Lord Uhtred of Bebbanburg (คนพ่อ) ถูกสังหารในการรบที่สมรภูมิ Eoferwic กับพวก DanesUhtred เองที่แอบตามพ่อไปสนามรบ ก็ถูกจับไปเป็นทาสโดยชาวไวกิ้ง นามว่า Earl Ragnar the Fearless ซึ่งเป็นผู้ที่สังหารพ่อของ Uhtred นั่นเองUhtred ใช้ชีวิตเยี่ยงทาสอยู่เพียงไม่นาน Lord Elfric อาแท้ๆของเขา ก็ได้ทราบข่าวว่า Uhtred นั้น ยังไม่ตาย จึงต้องการจะประกันตัว Uhtred มา เพื่อนำไปสังหาร เพื่อที่ตนเองจะได้อ้างสิทธิ์โดยชอบธรรมในการเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แห่ง Bebbanburg ซะเอง แต่ด้วยความกล้าหารของ Uhtred ครั้งนึง เขาได้ช่วยชีวิตลูกสาว ของ Earl Ragnar จากเงื้อมมือของ Sven Kjartans Son ไว้ ให้พ้นจากการถูกย่ำยี Earl Ragnar ได้มองเห็นความกล้าหาญราวกับชาว Danes ที่อยู่ในตัวของเด็กชายชาว Saxons ผู้นี้ Earl Ragnar จึงรับ Uhtred เข้ามาเป็นลูกบุญธรรมของตน แล้วได้ทำการเนรเทศ Kjartan และ Sven ออกจากดินแดนของตนไป ตำนานของ Uhtred Ragnar Son จึงถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Uhtred Ragnar Son ในวัยหนุ่ม เติบโต และก้าวผ่านความเจ็บปวดมากมาย ต้องสูญเสียทั้งครอบครัว ทั้งบ้าน กลายเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า เพราะถูกกล่าวหาว่า เป็นคน ฆ่า Earl Ragnar ผู้ที่เป็นพ่อบุญธรรมตัวเอง Uhtred ต้อง หลบหนีจากทั้งพวก Danes และ Elfric of Bebbanburg ที่ตามไล่ล่าเขา จนไปถึง ณ อาณาจักสุดท้ายของชาว Saxons และ ที่นั่นเอง ที่โชคชะตาได้นำพาเส้นทางของขุนศึกหนุ่มผู้ไร้ดินแดน (Uhtred) กับ กษัตริย์องค์ใหม่แห่งอาณาจักรสุดท้ายของชาว Saxons (Alfred the Great) ได้มาบรรจบกัน และได้ก่อกำเนิดตำนานของนักรบผู้ไม่ถูกจำรึก กับ กษัตริย์ผู้มีปณิธานอันแรงกล้าที่จะรวบรวมประเทศให้เป็นปึกแผ่น ประเด็นที่น่าสนใจคือ ซีรี่ย์แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่าง 2 ตัวละครหลักอย่าง Ulthred และ Alfred ที่ขัดแย้งกันตลอดเวลา Ulthred นั้น แข็งแกร่ง กล้าหาญ มุทะลุ ดุดันส่วน Alfred นั้น เฉลียวฉลาด รอบคอบ ใฝ่รู้ และ ทรงปัญญา เป็นความแตกต่างอย่างสุดขั้ว เปรียบเสมือน น้ำแข็ง กับ เปลวไฟ แต่การจะรวบรวมอาณาจักให้เป็นหนึ่งเดียวและขับไล่ผู้รุกรานนั้น จะใช้เพียงสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องมีทั้ง ความกล้าหาญ และ สติปัญญา ทั้ง 2 คนจึงจำเป็นต้องพึ่งพากันไป (น้ำต้องพึ่งเรือเสือต้องพึ่งป่า) เรียกได้ว่าทั้ง 2 คนนั้น ทั้งรัก ทั้งเกลียด แต่ก็ขาดกันไม่ได้ เลยทีเดียว . . . เรียกได้ว่า The Last Kingdom นั้นมีให้คุณได้คุณเสพย์ครบทุกรสชาติเลยทีเดียว เรื่องราวของความรักและการล้างแค้นขุนศึกนอกศาสนา กับกษัตริย์ผู้กังขาในความภัคดีเลือด Saxsons ที่ไหลเวียนร่างกาย จะข้นยิ่งกว่า จิตวิญญาญ ของชาว Danes หรือไม่ ?Uthred จะเลือกเส้นทางไหน ?Wessex จะล่มสลาย หรือ ชาว Danes จะเป็นฝ่ายแพ้พ่ายไป ?Uthred จะทวงคืนสิทธิ์อันชอบธรรมแห่งบัลลังก์ Bebbanburg ได้หรือไม่ ?จุดจบของเรื่องราวจะเป็นเช่นไร ไปติดตามต่อได้ใน The Last Kingdom ทาง Netflix สรุปคะแนนเนื้อเรื่อง/บท ผมขอให้คะแนน 9/10 ถือว่าดี การดำเนินเรื่อง รวดเร็วทันใจ ไม่เอื่อยเฉื่อย ยืดยาด เหมือน ซีรี่ย์คู่แข่งอยาง Vikings แต่เรื่องความ บู๊ หรือ ความโหดดิบ อาจจะไม่มันส์สะใจเท่า Vikingความสนุก ผมขอให้คะแนน 10/10 สนุกมาก สนุกลืมวันลืมคืน ดูจนตาแจ้งทุกวัน ชอบความขัดแย้งระหว่าง Ulthred และ Alfred ที่ทั้งรักทั้งเกลียดกัน แต่ก็ขาดกันไม่ได้ความคุ้มค่า ผมขอให้คะแนน 10/10 คุ้มแน่นอนครับ ถ้าคิดจะติดซีรี่ย์ซักเรื่อง The Last Kingdom จะไม่ทำให้คุณรู้สึกเสียดายเวลาเลยซักวินาทีเดียวครับ Credit : ภาพปก และภาพประกอบบทความจาก http://www.thelastkingdom.tv/