เดินทางมาถึงภาคสุดท้ายซึ่งเป็นภาคที่ 4 ของอีวาเกเลียนในภาคชุด Rebuild และเป็นบทสรุปมหากาพย์อีวานเกเลี่ยนมาตั้งแต่เรืองแรกที่จะเป็นซีรีส์อย่าง Neon Genesis Evangelion จนมาสู่เรื่องนี้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าอีวาเกเลี่ยนได้เปิดโลกของการดูอนิเมะและหนังของเราไปอีกขั้นเลย คือถ้าดูแล้วงงก็ถือว่าเรื่องปกติ ฮะ 55555 สำหรับภาคสุดท้ายก็ทำเราประทับใจเกินคาดมาก ๆ ส่วนตัวดูมาแล้ว 2 รอบ และรอบที่เขียนรีวิวนี้คือรอบที่ 3 ที่ได้ดูในโรง IMAX ซึ่งก็ยังคงเอ็นจอยกับมันในทุก ๆ ครั้งภาคนี้ก็ยังคงเป็นหนังที่สนุกและจัดเต็มในซีนแอ็คชั่นมาก ๆ เปิดมาซีนแรกของหนังก็ถือว่าจัดหนักจัดเต็ม ทั้งโชว์ของ งานวิชวลสุดอลังการ และในช่วงครึ่งหลังที่ดุเดือดเข้มข้นแบบไม่มีพักหายใจ โดยในส่วนของเนื้อหาก็ยังคงมีความบียอนด์ไปไกล ซึ่งหนังก็ยังจับประเด็นอันนามธรรมที่มากขึ้นกว่า 3 ภาคแรก ที่ว่าด้วยประเด็นของชีวิต ความตาย การมีตัวตนอยู่บนโลกที่เชื่อมโยงสู่สิ่งต่าง ๆ โดยภาคนี้ก็ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มตัวละครที่ต้องการการยับยั้งอิมแพคใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมีพลังที่จะทำลายล้างโลกและมนุษยชาติจนหมดสิ้น ในเชื้อเนื้อหาคอนเซ็ปต์ความไซไฟและแฟนตาซี แน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้เข้าใจในทั้งหมด แต่ภาพรวมก็ยังคงจับทางได้ว่ามันกำลังเชื่อมไปสู่ใด อีกทั้งมันก็ไม่ละทิ้งหัวใจตัวละครเลยที่สามารถผูกเรื่องกับตัวเรื่องและปมเรื่องราวตัวละครได้ดีอย่างยิ่งส่วนที่ต้องชื่นชมในภาคนี้คืองานดนตรีประกอบภาพยนตร์ที่ยังคงได้ ชิโร ซางิซุ มาทำเพลงและดนตรีประกอบ เหมือนการเอาดนตรีของซีรีส์มาทำใหม่ให้ทันสมัยและมีเสน่ห์มากขึ้น มีการใช้ดนตรีจากภาค Rebuild ทั้ง 3 ภาค รวมทั้ง Neon Genesis Evangelion และ The End of Evangelion มากลมกลืนให้หนังดูมีพลังและงดงาม อีกทั้งเพลงภาคนี้ก็งดงามเช่นกันในหลายๆเพลง อย่างเช่นในช่วงซีนหมู่บ้านในครึ่งแรก ส่วนเพลงปิดทั้งอย่าง Voyager, One Last Kiss และ Beautiful World ในเวอร์ชั่นท้ายเครดิตภาคนี้ก็งดงามอย่างที่สุดจนทำให้เราต้องนั่งฟังเพลงในโรงไปจนจบเครดิตส่วนที่ชอบมาก ๆ คือกลิ่นอายพาร์ทดราม่าในช่วงครึ่งแรกที่ถ่ายทอดออกได้อย่างสามัญและมีหัวใจ อีกทั้งมันก็มีความแปลกใหม่พอสมควรสำหรับเราอีวานเกเลี่ยนที่เราไม่ค่อยได้เห็นในโหมดนี้ ซึ่งเรื่องราวความสัมพันธ์และมิตรภาพสามารถถ่ายทอดถึงความอบอุ่น เรียบง่าย จริงใจ ที่มันพาไปสำรวจถึงการเติบโตของตัวละครหลัก ตัวละครรอง รวมทั้งทุก ๆ ตัวละครที่ผ่านมา ถึงเรื่องของการเติบโตของตัวละคร ชีวิตอันเรียบง่ายที่ปราศจากอีวานเกเลี่ยนของผู้คนบนโลกแต่ที่ทำให้ภาคนี้มีหัวใจมากที่สุดก็คงไม่พ้นเรื่องราวตัวละครหลักของ “อิคาริ ชินจิ” ตัวละครวัยรุ่นที่เติบโตมาจากการที่ถูกครอบครัวทอดทิ้ง การจมปรักอยู่กับอดีตและการเผชิญหน้ากับความสูญเสีย ซึ่งแม้ว่าตัวเรื่องราวหลักจะใหญ่โต แต่หัวใจของเรื่องนี้ก็พูดถึงเรื่องเล็ก ๆ การเติบโตจากการที่จะได้เผชิญหน้ากับความหนักหนาสาหัสของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง การมาของทุกตัวละครที่เกี่ยวพันตั้งแต่ภาคก่อนหน้าก็เป็นการปรากฎที่ส่งต่อประเด็นหนังได้อย่างมาก อีกทั้งมันก็เติมเต็มหัวใจในความเป็นมนุษย์สุด ๆ สำหรับตัวละครในหนัง นอกจากครึ่งหลังท่ามกลางฉากแอ็คชั่นสุดอลังการ มันก็ว่าด้วยเรื่องราวของการพาตัวละคร “ชินจิ” ไปสู่การเรียนรู้ถึงการเติบโต การเผชิญหน้ากับพ่อ จากที่ภาคก่อนหน้าเราจะไม่ได้เห็นในจุดนี้ รวมถึงการยอมรับในสิ่งเลวร้ายและหนักหนาที่เกิดขึ้นก็ถ่ายทอดได้อย่างน่าประทับใจและงดงามสิ่งนึงที่กลับมาดูแล้วชอบมากคือ ความหมายของคำว่า “ราตรีสวัสดิ์ อรุณสวัสดิ์ สวัสดี ลาก่อน” มันมีความหมายมากจริง ๆ ที่เป็นเหมือนคำที่ทั้งบอกตัวละครและคนดูอย่างเรา ๆ ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมากับแฟรนไชส์นี้ เลยทำให้คำว่า "ซาโยนาระ" หรือคำว่า ลาก่อน ของหนัง มันไม่ใช่คำที่ไว้บอกลาอย่างเดียว แต่มันเป็นคำและคาถาที่ไว้บอกว่าเราจะได้พบกันใหม่อีกครั้ง"Evangelion 3.0+1.01 Thrice Upon a Time" ก็เป็นหนังอนิเมะที่ปิดท้ายของแฟรนไชส์อีวานเกเลี่ยนได้อย่างน่าประทับใจ น่าจดจำและงดงามอย่างมากที่สุด แม้ว่าหนังจะพูดถึงเรื่องราวที่ใหญ่โตขนาดไหน แต่สุดท้ายแล้ว มันก็ว่าด้วยเรื่องราวการเติบโตของชายหนุ่มวัยรุ่นภายในโลกแห่งความหนักหนาสาหัสและหม่นหมอง ทุกสิ่งทุกอย่างมันพาคนดูที่ติดตามมาเพื่อจุดนี้ เสมือนตัวละครและเราคนดูได้เติบโตไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งเราเองก็ดีใจที่หนังได้พาบทสรุปมาสู่จุดนี้ที่มันเปี่ยมไปด้วยความสุขและความงดงามในอย่างที่มันจะสามารถจะเป็นได้มากที่สุดแล้ว จึงทำให้มันคืออนิเมะที่ดีที่สุดตลอดกาลสำหรับเรา สำหรับเราให้คะแนนหนังเรื่องนี้ที่ 10 เต็ม 10 ครับ***ที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นของผู้เขียน รสนิยมและความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังไงก็ไปลองดูและพิสูจน์กันได้ครับ ภาพยนตร์: Evangelion: 3.0+1.01 Thrice Upon a Time (2021)ชื่อหนังต้นฉบับ: シン・エヴァンゲリオン劇場版:||ประเภทหนัง: แอ็คชั่น, ผจญภัย, แฟนตาซี, ดราม่าผู้กำกับ: Hideaki Anno, Kazuya Tsurumaki, Katsuichi Nakayama, Mahiro Maedaผู้เขียนบท: Hideaki Annoคะแนนจากผู้เขียน: 10/10ขอบคุณภาพจากFacebook: Japan Anime Movie Thailand - ภาพปก / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 6Twitter: @evangelion_co - ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 5คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน