พรหมลิขิต ละครไทยแนวย้อนยุคครบรสทั้งโรแมนติก-ดราม่า-ตลก (เอาให้ครบ) นี่เป็นภาคที่ 2 ต่อจาก "บุพเพสันนิวาส" ที่สร้างกระแสความนิยมไปทั่วโลกในปี 2561 โดยนำแสดงโดย โป๊ป ธนวรรธน์ และเบลล่า ราณี ครั้งนี้พระนางทั้งสองได้ลงจอกันอีกครั้งอีกครั้งใน "พรหมลิขิต" ผ่านบทบาทของ พระยาวิสูตรสาคร (พ่อเดช) กับ คุณหญิงการะเกด (เกศสุรางค์) ออกอากาศทางช่อง 3HD และ Netflix ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านไป 2 ตอนแล้วสำหรับละครเรื่องนี้ ความน่าสนใจ ความสนุก ความตลก และอีกหลากหลายอารมณ์ที่เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดอันเป็นเอกลักษณ์ของละครเรื่องนี้เลยเนื้อเรื่องพาเราไปช่วงหลังที่พระนางทั้งสองของเรื่องพระยาวิสูตรสาคร และคุณหญิงการะเกดได้เข้าเรือนหอ ทั้งคู่ได้อยู่ร่วมกัน และมีลูกด้วยกันถึง 4 คน แฝดชาย 2 คน (พ่อริด และพ่อเรือง) หญิง 2 คน (แม่แก้ว และแม่ปรางค์)ไฮไลท์ในภาคนี้คงจะเป็นเรื่องของแม่หญิงการะเกด (ตัวจริง) ที่ได้เกิดใหม่ในร่างพุดตาล (หลังจากเกิดอุบัติเหตุทำให้พุดตาลตัวจริงต้องเสียชีวิต) จากนั้นเวลาก็ผ่านไปจนพุดตาลโตขึ้น (แสดงโดยเบลล่า ราณี) สาวยุคปัจจุบันที่ทำงานเป็นคนดูแลเรื่องการจัดสวน (อันนี้ผมไม่ชัวร์ว่าจะเรียกว่าอย่างไร) จากนั้นเธอได้พบกับหีบโบราณที่บรรจุคัมภีร์กฤษณะกาลี เมื่อเธอเปิดหีบก็พบว่าตัวเองได้ทะลุมิติมายังยุคอยุธยา พบกับพ่อริด (โป๊ป ธนวรรธน์) ชายหนุ่มผู้เป็นทายาทของพระยาวิสูตรสาคร (พ่อเดช) กับ คุณหญิงการะเกด ทั้งคู่ต้องร่วมกันไขปริศนาของคัมภีร์ และหาทางกลับไปยังยุคปัจจุบัน (แต่จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องรอดูแหละ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเดายากสำหรับผมนะ)พรหมลิขิตเป็นละครที่ทำให้เราประทับใจในความรักแท้ของความรักระหว่างพ่อเดชกับแม่หญิงการะเกดที่ทั้ง 2 คนมีความรักที่มั่นคง และบริสุทธิ์ ทั้งคู่ต่างมีความเชื่อในพรหมลิขิต และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อความรักของพวกเขาทำให้เนื้อเรื่องของละครนี้ได้รับการเติมเต็มไปด้วยรสอารมณ์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะเรื่องของความรัก และความรักระหว่างพุดตาล และพ่อริดนั้นในละครยังดำเนินเรื่องไปไม่ถึง ก็คงอาจจะต้องรอดูกันอีกทีในเรื่องตั้งแต่ตอนที่ 3 ขึ้นไปนอกจากนี้พรหมลิขิตเป็นละครที่ทำให้เรารู้สึกถึงเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย ละครเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมไทยในยุคอยุธยาออกมาได้อย่างสวยงาม และน่าประทับใจ ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี และศิลปะวัฒนธรรมของไทยในยุคนั้น ตลอดจนความเป็นมาของเรื่องราวต่างๆ ในสมัยนั้นด้วย เรียกว่าเรียนประวัติศาสตร์ชาติไทยไปด้วยกันกับการดูละครที่ทั้งสนุก และมีสาระเลยครับโดยรวมแล้ว พรหมลิขิตเป็นละครที่สนุก และน่าประทับใจ ถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อติเลยนะสำหรับผม (ภาคที่แล้วก็ไม่มีข้อติใดๆ ติอย่างเดียวคือที่ทำให้คนไม่ค่อยชอบดูละครอย่างผมมาติดซะนี่) ละครเรื่องนี้ทำให้เรามีความสุข และสนุกได้ตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้ยังแฝงไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทยในสมัยก่อน ซึ่งผมเชื่อว่าใครที่ยังไม่ได้ดูจะต้องติดใจอย่างแน่นอน เหมาะสำหรับคนที่ชอบดูละครแนวย้อนยุค-โรแมนติก-ดราม่า ละครเรื่องนี้จะทำให้ใครหลายๆ คนประทับใจในความรัก และเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทยอย่างแน่นอนตัวอย่างละครhttps://www.youtube.com/watch?v=E-kYmRbauH8&ab_channel=Ch3Thailandเครดิตขอขอบคุณภาพจาก Facebook | Ch3Thailandตัวอย่างละครโดย Ch3Thailand | พรหมลิขิต พบกัน 18 ตุลาคมนี้ หนาออเจ้า | Ch3Thailandภาพปกโดยผู้เขียน immark | ภาพปก (ภาพประกอบภาพปก จาก Facebook | Ch3Thailand)ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6, ภาพที่ 7, ภาพที่ 8, และภาพที่ 9 จาก Facebook | Ch3Thailandคอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน