สวัสดีทุกคน ยุคโควิดแบบนี้การหาซีรีส์ตลกๆ ดูช่วยคลายเครียดได้รวมถึงยังฝึกภาษาได้อีกด้วย วันนี้นักเขียนมีซีรีส์แนว Comedy feel good ฝั่งอเมริกันที่ฉายบน Netflix อยู่ในปี 2021 มาแนะนำเเละชวนดูกัน ใครอยากฝึกฟัง พูด สำเนียงอเมริกกันไปด้วยและดูซีรีส์สนุกๆ ไปด้วย วันนี้นักเขียนมาเเนะนำ 5 ซีรีส์ Comedy feel good บน Netflix มาให้ได้ดูกัน เลื่อนลงไปอ่านกันเลย 1. FRIENDS (1994-2004) แน่นอนเรื่องแรกสุดคลาสสิค FRIENDS ซีรีส์ Sitcom ที่โด่งดังมากๆ เรื่องนึงในอเมริกัน เรื่องนี้ค่อนข้างเก่าพอสมควร ฉายซีซันแรกปี 1994 (พ.ศ.2537) เล่าเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก ทั้ง 5 ตัวละครต่างมีคาร์แรคเตอร์เพี้ยนๆเฉพาะตัวที่ต่างกันแต่ลงตัว ทำให้เรื่องราวทั้งสนุกปนซึ่ง ซีรีส์ได้ดำเนินมาถึงตอนจบแล้วเรียบร้อยมีทั้งหมด 10 ซีซัน ล่าสุดในปี 2021 ทาง HBO เจ้าของลิขสิทธ์ได้สร้างภาคพิเศษนำนกเเสดงมาพูดคุยถึงเบื้องหลังการถ่ายทำทั้ง 10 ซีซันจากชื่อของซีรีส์ FRIENDS เเน่นอนว่าซีรีส์มีสื่อสารให้เห็นถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อนให้เราได้รู้สึก Feel good เเละยิ้มตามไปกับซีรีส์ทุกตอน ในส่วนของด้านภาษาเรื่องนี้ตัวละครพูดไม่เร็วมาก ใครอยากฝึกการฟังเพื่อนำไปใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันนักเขียนแนะนำเลย 2. How I met your mother (2005-2014)ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้คือการเล่าเรื่องของตัวละคร Ted Mosby สถาปนิกหนุ่มที่อาศัยอยู่ในนิวยอร์ก โดยตลอดทั้งซีรีส์จะเป็นเล่าเรื่องของ Ted ให้กับลูกๆ ของเค้าฟังว่า Ted นั้นพบกับแม่ของลูกๆ เค้าได้อย่างไร ซึ่งเล่าไปเล่ามากลายเป็นว่า Ted เรื่องราววีรกรรมแสนสนุกของ Ted และเพื่อนๆ ซะมากกว่า กว่าจะเจอแม่ก็ซีซันสุดท้ายซะแล้ว (ขอสปอยล์นิดนึง) แต่ไม่ต้องห่วงนักเขียนรับรองว่าวีรกรรมของ Ted และเพื่อนๆไม่น่าเบื่อแน่นอน ซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งหมด 9 ซีซัน ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำการฉายหลังซีรีส์เรื่อง FRIENDS จบแล้ว จากที่นักเขียนเห็นรีวิวของชาวต่างชาติ เรื่องนี้ถือว่าสนุกเทียบเท่าเรื่อง FRIENDS เเละล่าสุดผู้สร้างในปี 2021 ผู้สร้างประกาศทำภาคแยกเป็น Spinoff ใช้ชื่อว่า How I meet your father ใช้เเล้วคราวนี้ฝั่งเเม่จะเป็นคนเล่าเรื่องบ้าง โดยไม่ใช่ภาคต่อเเต่อย่างใด จะใช้นักเเสดงชุดใหม่ทั้งหมด มี Hilary Duff นักเเสดงชื่อดังเป็นหนึ่งในตัวละครหลัก เรื่องนี้ให้ความ Feel good เรื่องมิตรภาพระหว่างเพื่อนคล้ายๆ เรื่อง FRIENDS เเต่เรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของเเต่ตัวละครมากกว่าเรื่อง FRIENDS ทำให้นอกจากจะได้ Feel good เรื่องมิตรภาพระหว่างเพื่อนเเล้วยังเพิ่มเติมด้วยความ Feel good ของเรื่องราวความสัมพันธ์ในรูปเเบบอื่นๆด้วย เช่น คนรัก ครอบครัว เป็นต้น ด้านภาษาของซีรีส์เรื่องนี้สำหรับประโยคและคำศัพท์เป็นคำที่ใช้พูดและสื่อสารในชีวิตประจำวัน ตัวละครพูดไม่เร็วมากเหมาะกับการฝึกฟังและจำประโยคต่างๆไปใช้ในชีวิตประจำวันกับชาวต่างชาติ 3. Modern Family (2009-2020)ซีรีส์แนวครอบครัวใหญ่สัญชาติอเมริกา ว่าด้วยความที่เป็นครอบครัวใหญ่แน่นอนว่าต้องตามมาด้วยความวุ่นวาย สนุกสนานและอบอุ่นของสมาชิกหลายคนในครอบครัว โดยครอบครัวหลักของซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งหมด 3 ครอบครัวซึ่งเป็นญาติกัน แต่ละครอบครัวมีความ Modern สมชื่อ เริ่มที่ครอบครัวเเรก ครอบครัว Jay Pritchett สมาชิกรุ่นใหญ่สุดในบ้านซึ่งแต่งงานใหม่กับสาวละตินที่มีลูกชายติด 1 คน ครอบครัวที่ 2 ครอบครัวคู่รักเกย์ประกอบด้วยสมาชิก Mitchell (ลูกชายของ Jay) กับ Cameron มาพร้อมลูกสาวบุญธรรมชาวเอเชีย 1 คน และครอบครัวสุดท้าย วุ่นวายสุดเพราะพ่วงมาด้วยสมาชิกที่มากที่สุด ครอบครัว Dunphy ครอบครัวของ Claire (ลูกสาวของJay) กับ Phil และลูก 3 คน แต่ละครครอบครัวมีความตลกที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกันเลยนอกจากการนำเสนอด้านความรักเเละความสัมพันธ์เเล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังมีการนำเสนอเรื่องยอมรับความเเตกต่างของสมาชิกในครอบครัวทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ Feel good ยิ่งขึ้นไปอีก ดูเรื่องนี้นอกจากจะได้ฝึกภาษาและคลายเครียดแล้ว ยังได้เห็นการใช้ชีวิตของครอบครัวใหญ่สไตล์อเมริกันอีกด้วย 4. The big bang theory (2007-2014)ใครเป็นแฟนหนังฮีโร่มาทางนี้เลย เเต่เรื่องนี้ไม่ใช่ซีรีส์ฮีโร่เเต่อย่างไรหรอกนะ เเต่เป็นเรื่องของกลุ่มเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ที่ออกเเนวเนิร์ด บ้าเกมส์เเละการ์ตูนฮีโร่ทั้งค่าย MARVELเเละDC ตลอดเรื่องเลยมีมุขฮาๆเกี่ยวกับฮีโร่แทรกมาอยู่บ่อยๆ อีกทั้งยังฮาด้วยความไม่ประสาเรื่องการจีบผู้หญิงของพวกหนุ่มเนิร์ดอีกด้วย โดยเรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีสาวฮอต Penny ย้ายมาอยู่ตรงข้ามห้องของ Sheldon และ Leonard ซึ่ง Leonard ตกหลุกรัก Penny เต็มๆ จากนั้นเรื่องก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Leonard เริ่มตามจีบ Penny เเละเเน่นอนตามมาด้วยเรื่องฮาๆมากมาย ซีรีส์เรื่องนี้ feel good ด้วยเรื่องราวความมิตรภาพของเพื่อน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ค่อนข้างเก็บตัว (introvert) ซึ่งเรื่องนี้ถ่ายถอดให้เห็นว่าการเปิดใจและยอมรับความเเตกต่างของผู้อื่นก็ทำให้เราพบมิตรภาพดีๆได้ สำหรับซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งหมด 12 ซีซัน ด้านภาษาจะยากหน่อย เพราะจะมีคำศัพท์วิทยาศาสตร์เยอะ เเต่หากมองในอีกเเง่ก็สามารถเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆจากเรื่องนี้ได้เยอะ อีกทั้งมีตัวละคร Sheldon เป็นคนที่เนิร์ดที่สุด ฉลาดที่สุดอีกตัวเเละฮาสุดๆ (ในความเห็นของนักเขียน) ตัวละครนี้จะพูดค่อนข้างเร็วถึงเร็วมาก เหมาะกับการฝึกฟังเป็นอย่างมากเพราะในชีวิตจริงชาวต่างชาติก็พูดกันเร็วเป็นธรรมชาติ 5. Brooklyn Nine-Nine (2013–2021)ซีรีส์ตำรวจแห่งเมืองนิวยอร์ก แค่เมืองก็แสดงถึงความวุ่นวายแล้ว เสริมความฮากับเหล่าตำรวจหน่วยสืบสวนแห่ง สน.99 เขตบรูคลิน ที่เต็มไปด้วยเหล่าตำรวจสุดเพี้ยนที่มีเรื่องราวแปลกๆให้สืบสวน และมุกตลกเสียดสีวิถีชีวิตของชาวเมืองนิวยอร์กมาให้ฮากันกระจาย นักเขียนได้คุยกับเพื่อนต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่นิวยอร์ก เค้าชอบซีรีส์เรื่องนี้มากเพราะคดีต่างๆในเรื่องเหมือนกับคดีที่เกิดขึ้นจริงๆที่นิวยอร์ก ยิ่งทำให้ซีรี่ส์น่าสนใจหากใครอยากเห็นวิถีชีวิตชาวนิวยอร์กผ่านมุมมองการเล่าเรื่องของตำรวจ ซีรีส์เรื่องนี้เน้นความฮาซะส่วนใหญ่ เเต่ก็ยังมีเรื่องมิตรภาพระหว่างเพื่อน คนรัก เเละครอบครัวเเทรกมาให้ Feel good อยู่เรื่อยๆ ด้านการฝึกภาษาเรื่องนี้เหมาะกับการฝึกฟังอย่างยิ่ง เนื่องจากขณะที่สืบสวนคดีเหล่าตำรวจค่อนข้างพูดกันเร็วพอสมควรเลย ตอนนี้มีฉายทั้งหมด 8 ซีซัน ครบทั้ง 5 เรื่องที่นักเขียนอยากจะแนะนำว่าห้ามพลาดเพราะเเต่ละเรื่องมีความน่าสนใจและการดำเนินเรื่องที่ต่างกัน อีกทั้ง 5 เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ดังมากที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวอเมริกัน หากอยากมีเพื่อนต่างชาติหรือกำลังสร้างมิตรภาพกับเพื่อนต่างชาติอยู่ลองใช้หัวข้อที่ว่าคุณเคยดูเรื่องนี้มั้ย (ลองเลือกสักเรื่องที่นักเขียนเเนะนำ) เป็นหัวข้อสนทนาดูเพื่อทำให้บทสนทนาน่าสนใจขึ้น แอบบอกว่านักเขียนใช้วิธีนี้ make friends กับเพื่อนต่างชาติมาหลายคนเเล้ว เอาละใครสนใจเรื่องไหนกันบ้างอย่าลืมไปหาดูกันนะ ทั้ง 5 เรื่องติดตามได้ทาง Netflix ขอให้ทุกคนสนุกกับการดูและการฝึกภาษาอังกฤษ เครดิตภาพปก:ภาพปก จาก Facebook FRIENDS (TV Show) เครดิตภาพประกอบ: ภาพที่1 จาก Facebook FRIENDS (TV Show)ภาพที่2 จาก Facebook How I Met Your Mother CBSภาพที่3 จาก Facebook Modern Familyภาพที่4 จาก Facebook The Big Bang Theoryภาพที่5 จาก Facebook Brooklyn Nine-Nineเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !