สวัสดีค่ะทุกคนเนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้นะคะที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงอาจจะทำให้หลาย ๆ คนนั้นต้องกักตัวอยู่แต่บ้านทำให้ต้องหากิจกรรมทำยามว่างเผื่อไม่ให้ตนเองนั้นเครียดหรือฟุ้งซ่านในยามวิกฤตแบบนี้ และ Netflix ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของใครหลาย ๆ คนที่สมัครไว้ดูหนังหรือดูซีรีส์ในยามว่าง แต่ก็อาจจะพบกับความท้าทาย ของ Netflix ในยามวิกฤตแบบนี้ที่อาจทำให้ต้องทำการโฆษณาอย่างหนักมากยิ่งขึ้นขอบคุณภาพจาก : https://bit.ly/3b8rRHPเพราะทั้งในเรื่องของ Self Quarantine ที่คนส่วนใหญ่นั้นอาจจะเบื่อการดูหนัง ดูซีรีส์ออนไลน์ทั้งวันก็อาจจะหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น เข้าครัวไปทำอาหารไปเป็นเชฟฝึกหัดกันบ้างเพื่อถ่ายรูปอาหาร หรือรูปการจัดจานที่ดูสวยงามดูน่ารับประทาน และโพสต์ลงโซเชียลหรือบางส่วนก็หันไปเต้นใน Application TikTok ที่กำลังเป็นที่นิยมของเหล่าดารา นักร้องหรือเน็ตไอดอลกันอย่างมากในช่วงเวลานี้และมีการทำ Challenge แฮชแท็กต่อ ๆ จนเกิดเป็นไวรัลและทำตามกันอย่างต่อเนื่องดังนั้น จึงเกิดเป็นความท้าทายของ Netflix ที่ต้องหาวิธีให้กลุ่มคนเหล่านี้นั้นหันมาสนใจการดูซีรีส์ หรือดูหนังมากยิ่งขึ้นขอบคุณภาพจาก : https://bit.ly/2ygJkPuนอกจากนี้การดูหนัง หรือดูซีรีส์ออนไลน์นั้นก็คงจะไม่ได้มีแค่ Netflix เพียงช่องทางเดียวเพราะเดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่หันมาทำหนัง ทำซีรีส์ผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้นเช่น LINE TV , AIS PLAY , True ID หรือ YOUTUBE ที่มีให้ดูแบบฟรี ๆ ไม่ต้องเสียตังค์เหมือนของ Netflixและในปัจจุบันก็ยังมี Streaming Media เพิ่มขึ้นอีกมากมาย เช่น VIU ที่จะรวมซีรีส์ รายการทีวี และรายการเพลงของเกาหลีไว้อย่างมากมายโดยมีจุดเด่นคือเขาจะฉายซีรีส์เกาหลีในช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับประเทศเกาหลีจริง ๆ จึงทำให้มีซีรีส์ที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลาMonomaxx ที่ได้มีการขยายตลาดโดยเพิ่มซีรีส์จีนเข้าไป และก็ยังมีหนังเก่าของไทยให้เราได้ย้อนดูที่สำคัญคือเขาได้นำหนังดีมีคุณภาพที่ได้รางวัลจากต่างประเทศแต่ไม่ได้มีฉายในไทยนำเข้ามาให้ดูที่ Monomaxx อีกด้วยค่ะHBO Go ที่จะมีหนังดังทั้งเรื่อง Band of Brothers,The Wire และอีกหลายเรื่องที่ใน Netflix ไม่มี นอกจากนี้ก็ยังมีซีรีส์ รายการต่างประเทศอีกด้วย จุดเด่นคือจะเน้นหนักในเรื่อง มีหนังให้ชมค่อนข้างเยอะและเข้าใหม่อยู่เรื่อย ๆ ไม่ต้องรอตามรอบแต่ละเดือนและสุดท้าย Hulu ที่เป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษัทหนังยักษ์ใหญ่อย่าง Walt Disney, 21st Century Fox, Comcast และ Time Warner ที่ส่วนมากจะเป็นหนังดีมีคุณภาพที่มีฉายเฉพาะที่ทีวีในอเมริกาเท่านั้นและใครที่เป็นสาวก Disney ก็ไม่ควรพลาด เพราะ Disney เขาจะมีให้ดูที่ Hulu เท่านั้นจึงทำให้เห็นว่า Streaming Media ตอนนี้นั้นมีการแข่งขันค่อนข้างสูงบวกกันช่วงเศรษฐกิจวิกฤตแบบนี้ที่ผู้คนต่างก็หันมา Save cost มากยิ่งขึ้นจึงทำให้ต้องแข่งขันกันลดราคาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าไม่ปรับตัวแล้วก็อาจจะเป็นเหมือน Hooq ที่ถึงแม้จะมี Sony Pictures ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย แต่ก็ยังต้องเลิกกิจการ เพราะข้อเสียคือเขาไม่ผลิต Original Content ที่มีเฉพาะใน Hooq เท่านั้นจึงทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าหนังไม่มีอะไรโดดเด่น สามารถดูได้จากช่องทางอื่นจนทำให้ต้องประกาศเลิกกิจการในที่สุดขอบคุณภาพจาก : https://bit.ly/2z1R2O3โดยช่วงนี้รัฐบาลก็ได้มีนโยบายในเรื่องของ Social Distancing ที่เป็นการเว้นระยะห่างกันทางสังคมโดยการรวมตัวกันกับเพื่อนเพื่อดูหนังรวมกัน สังสรรค์กัน หรือมาสนุกด้วยกันในกิจกรรมต่าง ๆ นั้นก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้น้อยลงผู้คนส่วนมากก็ต่างกักตัวอยู่ในที่ของตนเองไม่มีการรวมกลุ่มกันจึงอาจทำให้ไม่มีอารมณ์ที่จะดูหนังเหมือนเคยเพราะการดูรวมกันนั้นจะสนุกมากกว่า และมีเรื่องเล่ามากกว่าการดูคนเดียวขอบคุณภาพจาก : https://bit.ly/2RC3r1wและคนส่วนใหญ่นั้นอยู่บ้านเพื่อ Work from Home โดยที่งานนั้นอาจจะเยอะและล้นมากกว่าการไปทำงานที่ออฟฟิศเพราะทั้งการที่เราสื่อสารกันได้ไม่ทั่วถึงก็อาจส่งผลให้งานเกิดความล่าช้าไม่ทันเวลาที่กำหนดจึงอาจจะต้องใช้เวลาทำงานมากกว่าการไปทำที่ออฟฟิศแบบปกติ ส่งผลให้มีเวลาที่ผ่อนคลายโดยการดูหนังหรือ ดูสื่อออนไลน์น้อยลงนั่นเองค่ะขอบคุณภาพจาก : https://bit.ly/34Fd051จึงทำให้ Netflix นั้นต้องปรับตัวเป็นอย่างมากทั้งในเรื่องของการโฆษณา หรือการทำการตลาดออนไลน์ที่ต้องเจาะกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายให้ได้อย่างตรงกลุ่มมากยิ่งขึ้น ต้องหาความต้องการที่ผู้บริโภคต้องการให้ได้อย่างแท้จริงจึงจะทำให้ Netflix นั้นอยู่รอดต่อไปได้ขอบคุณภาพหน้าปกจาก : https://bit.ly/2yhDDRjข้อมูลอ้างอิงMarketeer: 4 ยักษ์ใหญ่ Video Content ผู้แย่งชิง “เวลานอน” คนทั่วโลกMarketeer: ทำไม HOOQ-iflix ที่มาก่อนใครถึงยังไม่เวิร์กในไทย