Special Short CommentOur Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022)"ยองอ๊ก-ยองฮี และจองจุน ความรักที่อาจไม่ใช่การมีเพียงสองเรา"ท่านผู้อ่านที่ติดตามดูไปบ่นไปมานานอาจสงสัยว่าเหตุใดผู้เขียนถึงเขียนถึงซีรีส์เรื่องนี้ได้ในทุกแง่มุมที่เรื่องนี้เล่าออกมา อาจเพราะความธรรมดาของชีวิตคนธรรมดาที่ถูกเล่ามาแต่เหมือนไม่ธรรมดาสักเรื่อง เท่าที่ดูมาปฏิเสธได้หรือไม่ว่าในแต่ละเรื่องทั้งเรื่องของฮันซูกับอึนฮี เรื่องของโฮซิกกับอินกวอนผ่านปัญหาการท้องก่อนเวลาอันควรของยองจูกับฮยอน หรือล่าสุดเรื่องของเพื่อนที่ทุกคนต้องมีเพื่อนแบบนี้ผ่านอึนฮีกับมีรัน และเรื่องปลีกย่อยมากมายที่เหมือนถูกเล่าไว้ที่ฉากหลังที่อาจไม่เด่นมาก แต่ถ้าคิดให้ดีคนเขียนบทกำลังบอกอะไรกับเราเช่นเรื่องของความรักที่อยู่เหนือความพิการของกีจุนกับบยอนอี หรือถ้าจะนับเรื่องของการให้ความเคารพอาชีพที่เป็นฟันเฟืองชิ้นเล็กๆอย่างคนขายกาแฟในตลาดก็ล้วนมีความหมายโดยนัย และมันคือเรื่องสามัญที่ถูกบอกเล่าออกมาอย่างเห็นภาพและสะกิดหัวใจเพราะมันคือเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับมนุษย์ธรรมดาทั่วไปเช่นเดียวกับเรื่องของอียองอ๊ก (ฮันจีมิน) หญิงสาวที่มีอดีตเป็นปริศนาผู้มาประกอบอาชีพแฮนยอหรือนักดำน้ำหาของทะเลที่เกาะเชจู ที่เรื่องเผยว่าเธอมีความลับที่ใหญ่เกินจะบอกใครทำให้คนอื่นคิดไปต่างกันและส่วนมากไปในทางมิดี ทำให้เธอกลายเป็นขี้ปากจนกลายเป็นถูกรังเกียจ แต่มีสายตาหนึ่งคู่ที่มองเธอในมุมที่ต่างไปคือสายตาของพัคจองจุน (คิมอูบิน) ที่มองเข้าไปในความเป็นยองอ๊กผ่านการคิดพิจารณา และเมื่อเสียงของหัวใจมันดังกว่าสมองเขาจึงตัดสินใจคบกับเธอโดยไม่สนสายตาผู้ใด และมันก็ควรเป็นเรื่องปกติถ้าความจริงที่ซ่อนอยู่หลังความเป็นขี้ปากชาวบ้านคือยองอ๊กมีพี่สาวฝาแฝดชื่ออียองอี (จองอึนฮเย) ที่เป็นผู้พิการด้วยภาวะดาวน์ซินโดรม และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยองอ๊กต้องเร่ร่อนมานานก่อนจะมาเจอกับจองจุนที่เกาะเชจู เมื่อความรักถูกแทรกกลางด้วยความไม่ปกติบทสรุปของความรักในสามมิติจะลงเอยเช่นไรเหนืออื่นใดสิ่งแรกที่ต้องชื่นชมคือการเขียนบทที่ซ่อนความลับและชี้นำให้คิดในเรื่องของยองอ๊กได้อย่างยอดเยี่ยม ต่อมาคือการเลือกเล่าเรื่องผู้พิการกับการอยู่ในสังคมคนปกติที่ทิ่มแทงด้วยความแหลมคมและสวยงามไม่ทำร้ายใคร และสามคือการวางพัฒนาการทางด้านหัวใจให้คนดูพรึงเพริดไปกับความรักที่นี่คือโลกของคนสองคนโนสนโนแคร์ขี้ปาก แล้วให้ทั้งหมดมาสัมผัสกันในบั้นปลายแบบที่คงไม่มีใครคิดว่าความลับของยองอ๊กที่ไม่กล้าบอกใครจะเป็นแบบนี้ จนทุกอย่างที่เคยจินตนาการไว้ได้สูญสลายไปจนสิ้นไม่ต่างจากป้านาอาแฮนยอเพราะเรื่องของยองอ๊กไม่ใช่เรื่องที่ใครจะผ่านมันมาได้โดยที่หัวใจไม่เป็นอะไรเลย ซึ่งบทในมิตินี้ที่เล่าเรื่องยองอ๊กเป็นแกนกลางได้พาสมองคนดูคิดไปหลายทางเพื่อที่จะปล่อยหมัดเด็ดเมื่อทุกอย่างเปิดเผย ทำให้ทุกคนเข้าใจเธอ เห็นใจเธอ สงสารเธอ แม้อาจมีบ้างที่โกรธเธอแต่เรื่องแบบนี้ใครไม่เคยเจออาจไม่รู้เพราะการบอกไม่หมดไม่ใช่การโกหกและสำหรับยองอ๊กมันคือการหลีกหนีความจริงที่เธอหนีเรื่อยมาผ่านข้ออ้างมากมาย แต่เธอก็เข้มแข็งพอที่จะรับคำประนามทุกอย่างเพราะคนไม่ถามหรือถามในสิ่งที่เธอแค่ตอบได้ก็ไม่ใช่ว่าเธอโกหก แต่มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เมื่อได้ยินไม่ชัดก็คิดเมื่อคิดก็ต่อยอดและโชคร้ายที่ความเป็นมนุษย์มักไม่มองในแง่ดี แต่ใครจะรู้ว่าหลังรอยยิ้มและความพยายามมีความสุขโดยการลืมอดีตมันคือการฝังความเจ็บปวด กระทั่งมีคนมาช่วยแบ่งเบาความเจ็บปวดคือกัปตันจองจุนแต่ยองอ๊กยังตั้งกำแพงไว้ด้วยการบอกไม่หมด เพียงแต่คราวนี้จองจุนฟังเสียงหัวใจมากว่าสมองที่รับรู้มาจากปากคำคนอื่น ความสัมพันธ์ของคนสองคนจึงเกิดขึ้นได้โดยฝ่ายหนึ่งไม่รู้ทั้งหมดจนความจริงเดินเข้ามาสร้างบาดแผลแต่ใครจะคิดว่ามันจะออกมาแบบนี้ เพราะบางครั้งบางเรื่องก็ไม่อาจเอ่ยมันออกมาเพราะประสบการณ์และรอยแผลมันห้ามไว้แต่ไม่ใช่การโกหกหรือความรักคือเรื่องเปราะบางสำหรับยองฮี ความรักอาจฝังแน่นยากลบเลือนแต่ภาวะบางอย่างทำให้ไม่สามารถดูแลความรักได้ หรืออาจเพราะยองฮีไม่คิดซับซ้อนเลยเปราะบางก็ยากที่จะเข้าใจ แต่ถึงที่สุดก็คือต้องทำความเข้าใจพวกเขาว่าพวกเขาก็คือมนุษย์ที่ต้องได้รับการเคารพในฐานะมนุษย์ไม่ว่าทางอารมณ์หรือความรู้สึกของพวกเขาจะเปราะบางหรือไม่ เช่นเดียวกับยองฮีที่ความจริงความเป็นดาวน์ซินโดรมของเธอไม่ได้หมายความว่าเธอคือคนโง่แต่มันคือความผิดปกติที่คนปกติไม่มีทางรู้ว่ายองฮีรู้ทุกอย่าง รู้ว่าความรักคืออะไรความโกรธคืออะไรความชอบคืออะไรความอร่อยคืออะไร และแน่นอนความคิดถึงและความเหงาคืออะไร ซึ่งบางอย่างก็แสดงออกมาได้แต่บางอย่างก็ไม่แสดงออกแต่มีสิ่งหนึ่งที่สัมผัสไม่ได้เลยคือความเกลียดและการมองโลกในแง่ร้ายจากยองฮี หรืออาจเป็นเพราะยองฮีคิดไม่ซับซ้อนและมีพระอาทิตย์ดวงเดียวคือยองอ๊กเพราะยองฮีมีแค่ยองอ๊กและยองอ๊กมีแค่ยองฮี แต่ด้วยภาวะความจำเป็นเลยทำให้ยองอ๊กต้องหนีความจริงไปเรื่อยๆเพราะบางอารมณ์การได้อยู่ตัวคนเดียวโดยไม่ต้องดูแลยองฮีอาจเป็นชีวิตที่ปกติที่สุดแล้วสำหรับคนที่ต้องแบกภาระนี้มาตั้งแต่เด็ก ภาระที่หนักหน่วงทั้งกายใจเพราะไม่ใช่ต้องรับมือกับความแปรปรวนและอาการป่วยของยองฮีแต่ต้องต่อสู้กับสายตาและการปฏิบัติจากคนรอบข้างที่เป็นคนปกติ แต่ยองอ๊กก็ยังเป็นมนุษย์ที่ไม่ว่ายังไงก็เลี่ยงความรักไม่ได้ กระนั้นภาระที่เธอมีจึงทำให้ความรักเลยกลายเป็นไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเสมอไป กำแพงที่เธอตั้งไว้จึงทั้งสูงทั้งหนาเพราะประสบการณ์ได้สร้างบาดแผลลึกที่ยากจะสมาน การเข้ามาของกัปตันจึงเป็นของขวัญอันตรายที่เธอไม่กล้ารับแต่ความรักบางครั้งก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่สามารถทลายทุกอย่างได้ถ้าเรารักใครสักคนมากพอและยอมรับสิ่งที่คนคนนั้นเป็น และโลกยังมีผู้ชายอย่างกัปตันจองจุนเพราะยองฮีจะวาดรูปเมื่อคิดถึงยองอ๊กและความคิดถึงย่อมมาจากความเหงา แม้ยองฮีจะไม่ปกติทางกายภาพและทางสมองแต่สิ่งที่ยังเป็นปกติคือหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักน้องและสามารถทำให้น้องสบายใจได้ด้วยการหลบไปให้พ้นหน้าในบางช่วงเวลา ไม่ใช่ยองอ๊กไม่รู้แต่ก็คือการที่ไม่ทำร้ายจิตใจพี่สาวมิตินี้จึงได้ใจมากมายทั้งการที่ยองฮีต้องมานั่งวาดรูปท่ามกลางความหนาว การถ่ายทอดความรักผ่านแกลลอรี่ภาพวาดในรถบ้านที่ไม่ต้องเวิ่นเว้อแต่จับขั้วหัวใจ การโบกมือและเอ่ยคำว่า "อันยอง" ที่ง่ายๆแต่หัวใจรู้สึกเว้าแหว่ง ที่สำคัญมันมาจากการแสดงที่ได้เพราะถ่ายทอดอารมณ์ได้จำบทได้แม่นของคนที่เป็นดาวน์ซินโดรมจริงๆ ซึ่งทีแรกผู้เขียนคิดว่าการคัดเอาจองอึนฮเยมาแสดงเพราะหน้าเธอคล้ายฮันจีมิน แต่เมื่อรู้ข้อมูล (จากท่านผู้อ่าน) ว่าบทตั้งใจเล่าเรื่องจริงของจองอึนฮเยเลยกลายเป็นว่าเหมือนคัดเอาฮันจีมินมาแสดงเพราะหน้าคล้ายจองอึนฮเย แต่เหนืออื่นใดนักแสดงระดับฮันจีมินกับคิมอูบินกลับโดนจองอึนฮเยขโมยซีนไปจนสิ้นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจึงเป็นความกล้าที่จะเล่าเรื่องแบบนี้ที่แสนธรรมดา เพราะความรักที่ติดกับเรือพ่วงคือเรื่องที่เห็นได้ทั่วไปแต่เล่าได้ไม่ธรรมดาเพราะว่ามันลึกมากกว่าที่เคยเป็น และการเล่นกับความพิการหรือการเจ็บป่วยมันหมิ่นเหม่จึงต้องทำให้ดีเพราะมันคือเรื่องละเอียดอ่อน แต่บทละครของเรื่องนี้กลับเล่าได้อย่างเข้าถึงเห็นว่าพวกเขาคือมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจมีความสามารถ เช่นเดิมที่เรื่องในมุมของความรักที่เป็นสองบวกหนึ่งคราวนี้มีมุมสวยงามมาจากความจริงใจของคนหนึ่งคนอย่างบริสุทธิ์ใจ เรื่องอาจจะซาบซึ้งกินใจในแง่มุมของความรักที่ไม่เคยมองเห็นที่ยองอ๊กได้เจอแต่โลกยังไม่สวยงามพอที่จะมีคนอย่างจองจุนทุกคน เรื่องของพวกเขาจึงกะเทาะเปลือกหัวใจคนปกติเพื่อที่หัวใจจะยอมรับและมองพวกเขาเหมือนคนปกติ เพราะกระทั่งยองฮียังอยากทำศัลยกรรมเพราะอยากสวย เพราะเหตุผลที่ผู้ชายชอบคนสวยและยองฮีอยากมีแฟนคารวะในการเขียนบทที่ละเอียดอ่อนได้สวยงามลงตัวดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 /ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 จาก Facebook tvN drama บทความที่เกี่ยวข้องกับ Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่นชวนชม Our Blues: เวลาฟ้าสีหม่น (2022) "ทุกคนอาจมีเหตุผลของตัวเอง คนดูก็เช่นกัน"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) Ep.1-3 "ฮันซู-อึนฮี เพื่อนและรักแรกตลอดกาล"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "ยองจู-ฮยอน กุญแจไขมิตรภาพที่ถูกกักขังของ โฮซิก-อินกวอน"ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "ดงซอก-ซอนอา แค่หันหลังมาดู... แค่หันหลังมาก็เจอโลกใบใหม่แล้ว..."ความเห็น(พิเศษ)หลังชม Our Blues : เวลาสีฟ้าหม่น (2022) "อึนฮี-มีรัน ทุกคนล้วนมีเพื่อนแบบนี้"คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน