รีเซต

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ๕ ตอน ยุทธหัตถี - หนังน่าดูที่ทรูไอดี (Movie of the Day)

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ๕ ตอน ยุทธหัตถี - หนังน่าดูที่ทรูไอดี (Movie of the Day)
Entertainment Report_2
15 เมษายน 2567 ( 09:00 )
5.4K

ดูหนังออนไลน์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน 5 ยุทธหัตถี

มาพบกันเป็นประจำในทุก ๆ เช้ากับการแนะนำหนังน่าดูประจำวันที่ TrueID และ TrueID+ หลากหลายอรรถรสความบันเทิงไร้ขีดจำกัดกับช่วง "Movie of the Day" ในวันนี้ Movie.TrueID ขอเสนอ ภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน 5 ยุทธหัตถี ถึงครารบในช่วงเวลาสำคัญ เมื่อสมเด็จพระนเรศวร ทรงฟันพระแสงของ้าวถูกพระมังสามเกียด พระมหาอุปราชาเข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง พม่าจึงยกทัพกลับกรุงหงสาวดีไป นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของอยุธยาในครานั้น และเป็นภาคที่สำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ และเผยถึงพระปรีชาสามารถด้านการรบของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช


ในปีพุทธศักราช 2129 พระองค์จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์ไพร่พลกว่า 2 แสนข้ามแดนเข้าตีกรุงศรีอยุธยาหมายชิงคืนเป็นประเทศราช ครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศทรงใช้พระนครเป็นยุทธภูมิรับศึก และวางยุทธศาสตร์ตั้งรับในเชิงรุก คือมิทรงปล่อยให้ทัพหงสาที่ล้อมกรุงเป็นฝ่ายรุกรบแต่ฝ่ายเดียว แต่ทรงแต่งกองโจรบุกปล้นค่ายศัตรูให้ต้องตกเป็นฝ่ายรับจนมิอาจรุกเข้าเหยียบถึงคูพระนคร เมื่อล้อมกรุงนานเข้า ทัพหงสาวดีก็ขาดเสบียง สมเด็จพระนเรศก็ทรงนำเรือปืนขึ้นไปยิงถล่มค่ายหลวงพระเจ้านันทบุเรงจนพม่าแตกระส่ำระสาย จอมทัพพม่าบาดเจ็บสาหัสถึงกับเสียพระสิริโฉมและทุพพลภาพ พม่าต้องถอนทัพกลับหงสาวดี และขณะเมื่อค่ายหลวงพม่าแตกนั้น “แม่นางเลอขิ่น” (อินทิรา เจริญปุระ) ก็ได้ช่องช่วย “พระราชมนู” (นพชัย ชัยนาม) จากพันธนาการคืนเข้าอยุธยาได้

พระเจ้านันทบุเรงทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชัยต่อสมเด็จพระนเรศอย่างย่อยยับ จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์ “พระสุพรรณกัลยา” (เกรซ มหาดำรงค์กุล) ซึ่งตกเป็นองค์ประกันอยู่หงสาด้วยอารมณ์รักและแค้นระคนกัน พระองค์ได้ล่วงประเวณีพระพี่นางพระนเรศและยังทำร้ายพระนางถึงตกพระโลหิต เมื่อ “สมเด็จพระมหาธรรมราชา” (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) พระราชบิดาทราบความก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระราชธิดาและแผ่นดินของอยุธยา ทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ที่ต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้หงสาวดีกระทำการย่ำยีก็ด้วยเป็นเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้างศัตรู อยู่มาสมเด็จพระมหาธรรมราชาก็ตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศจึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา

ข่าวการผลัดแผ่นดินของอยุธยารู้ไปถึงพระเจ้านันทบุเรง พระองค์สำคัญว่าราชอาณาจักรสยามจะไม่เป็นปกติสุข เป็นช่องชวนชิงเชิงจึงโปรดให้ “มังสามเกียด” (นภัสกร มิตรเอม) อุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ ครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศทรงดำริจะนำกำลังออกไปรับศึกถึงหนองสาหร่ายแดนเมืองสุพรรณบุรี ด้วยเห็นว่าทัพพระมหาอุปราชานั้นถึงแม้จะมากด้วยกำลังรี้พลแต่ทหารหาญที่เกณฑ์มาหากมิเยาว์ด้วยวัยวุฒิก็ชราภาพ กำลังพลมิได้เข้มแข็งดั่งทัพพระเจ้านันทบุเรง ข้างพระมหาอุปราชานั้นยกทัพเข้ามาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ผ่านลงมาถึงเมืองกาญจนบุรีก็ได้แต่เมืองเปล่า ให้ไพร่พลออกเที่ยวลาดหาจับผู้คนก็ไม่ได้ จึงยกพลล่วงลงมาปักค่ายที่ตะพังตรุ

ข้างสมเด็จพระนเรศทรงโปรดให้พระราชมนูแต่งพลเป็นทัพหน้าขึ้นไปดูกำลังข้าศึกถึงหนองสาหร่าย ทัพหน้าพระราชมนูปะทะเข้ากับทัพพม่าถึงขั้นตะลุมบอน แต่กำลังข้างพระราชมนูน้อยกว่าจึงแตกพ่ายถอยลงมาเป็นอลหม่าน สมเด็จพระนเรศทราบความจึงออกอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นช้างทรงของสมเด็จพระนเรศคือ “เจ้าพระยาไชยานุภาพ” และช้างทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือ “เจ้าพระยาปราบไตรจักร” ต่างตกน้ำมันวิ่งร่าเบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญ ไพร่พลข้างอยุธยาตามไม่ทันช้างทรง จะมีก็เพียงพลจุกช่องล้อมข้างที่โดยเสด็จไปทัน

ช้างทรงของสมเด็จพระนเรศและสมเด็จพระเอกาทศรถฝ่าเข้ามากลางวงล้อมข้าศึกและมาหยุดอยู่หน้าช้างพระมหาอุปราชา สมเด็จพระนเรศวรจึงประกาศท้าอุปราชหงสาให้ออกมากระทำยุทธหัตถีให้ก่อเกิดเป็นเกียรติแก่แผ่นดิน ด้วยขัตติยมานะ พระมหาอุปราชาก็ไสพระคชาธารออกทำคชยุทธด้วยสมเด็จพระนเรศ ขณะที่พระพี่เลี้ยง “มังจาปะโร” (ชลัฏ ณ สงขลา) ได้ออกทำยุทธหัตถีกับ “สมเด็จพระเอกาทศรถ” (พันเอก วินธัย สุวารี) สัประยุทธ์กันเป็นสองคู่ ท้ายที่สุดสมเด็จพระมหาอุปราชาก็ปราชัยสิ้นพระชนม์ด้วยคม ง้าวของสมเด็จพระนเรศ ข้างมังจาปะโรก็พ่ายแพ้แก่สมเด็จพระเอกาทศรถตายกับคอช้าง ทัพหงสาก็มีอันปราชัยต้องถอยทัพนำพระศพพระมหาอุปราชาคืนสู่นครหงสาวดี

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ยุทธหัตถี ออกฉายเป็นการทั่วไปในวันที่ 29 พฤษภาคม โดยภาพยนตร์ทำรายได้ 4 วันแรก 97 ล้านบาท(นับรายได้เฉพาะโรงภาพยนตร์ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดเชียงใหม่) และในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.00 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้จัดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรีในโรงภาพยนตร์จำนวน 160 โรงทั่วประเทศ หนึ่งคนต่อหนึ่งที่นั่ง และฉายเพียงโรงเดียว รอบเดียวเท่านั้น
ปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ถึงขนาดที่บางคนไปยืนรอตั้งแต่เช้าก่อนโรงภาพยนตร์เปิด แต่ที่นั่งเต็ม ทำให้ต่อมาได้จัดให้มีการซื้อหนึ่งที่นั่งแถมฟรีอีกหนึ่งที่นั่งระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายน พ.ศ. 2557 และ ภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วประเทศ 201.9 ล้านบาท

  • ประเภท : ประวัติศาสตร์ ,สงคราม
  • นำแสดงโดย : พันเอกวันชนะ สวัสดี , ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ , นพชัย ชัยนาม ,อินทิรา เจริญปุระ , นภัสกร มิตรเอม (นภัสรัญชน์ มิตรธีรโรจน์) ,จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ , ฉัตรชัย เปล่งพานิช , เกรซ มหาดำรงค์กุล,สรพงษ์ ชาตรี,ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ,พันเอกวินธัย สุวารี,ชลัฏ ณ สงขลา
  • กำกับโดย : หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล
  • ความยาว : 118 นาที
  • เข้าฉายครั้งแรก : 29 พฤษภาคม 2557

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa