ผู้อ่านที่รัก ผมขอโทษที่ต้องกล่าวว่าบทความที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ ไม่มีความเพลิดเพลินเจริญใจยิ่งนัก เพราะการรีวิวนวนิยายเกี่ยวกับเรื่องเศร้าของเด็กสามคนเป็นสิ่งที่ไม่สุนทรีย์ใจอย่างมาก แม้ว่าพวกเขาจะเฉลียวฉลาด มีเสน่ห์แต่ก็ต้องดำเนินชีวิตด้วยความทุกข์ยากและเศร้าโศกตั้งแต่ตัวอักษรแรกจนตัวสุดท้ายอยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย คือประโยคที่หากฟังครั้งแรกคงคิดว่าเป็นความหวังที่ให้เรื่องราวนี้มีแต่ความโชคดี แม้ว่าความจริงจะมีแต่ความโชคร้ายก็ตาม ชื่อนี้มาจากนวนิยายที่แปลต้นฉบับภาษาอังกฤษว่า A Series of Unfortunate Events ซึ่งหากแปลตรงตัวคำว่า Unfortunate แปลว่า “โชคร้าย” ซึ่งถือเป็นการเล่นคำโดยนักเขียนนามปากกา เลโมนี สนิกเก็ต (Lemony Snickets)นิยายชุด “อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย” เป็นเรื่องราวของสามพี่น้องตระกูลโบดแลร์ เริ่มต้นในวันที่อากาศหม่นมัว ไม่มีแดด และมีบรรยากาศที่เหงาหงอย มิสเตอร์โพ ผู้จัดการมรดกของตระกูลโบดแลร์เดินทะลุหมอกในยามบ่ายเข้ามาแจ้งข่าวร้ายว่า ไวโอเล็ต เคลาส์ และซันนี่ โบดแลร์ จะกลายเป็นเด็กกำพร้าตลอดกาล ... ใช่แล้ว ตลอดกาลหมายถึงพ่อแม่พวกเขาเสียชีวิตน่ะสิ!!!เรื่องราวของนวนิยายทั้ง 13 เล่ม บอกเล่าความโชคร้ายที่เด็กทั้งสามคนต้องเผชิญเมื่อต้องไปอยู่กับผู้อุปการะในแต่ละตอน ซึ่งทุกที่ที่พวกเขาไปมักจะมีคนตาย (นึกว่าโคนัน) จนในที่สุดก็ค้นพบว่า เหตุการณ์เลวร้าวทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนแต่ชี้เป้าไปที่องค์กรลับ ว.ฟ.ด. อันเป็นต้นตอของการวางเพลิงทั้งหมด และการไล่ล่าของตัวละครร้าย เคาต์โอลาฟ อดีตสมาชิกองค์กรลับที่หวังฮุบมรดกอันมหาศาลของตระกูลโบดแลร์ รวมไปถึงการเดินทางไปยังจุดปลอดภัยแห่งสุดท้ายขององค์กร เพื่อค้นหาพ่อหรือแม่ที่อาจมีชีวิตและรอพวกเขาสามคนอยู่“หากคุณคาดหวังให้เรื่องราวของนิยายชุดนี้จบลงอย่างมีความสุข สิ่งที่คุณควรทำคือวางหนังสือเล่มนี้ลงแล้วไปหาเล่มอื่นอ่านซะ” ประโยคเชียร์ให้ผู้อ่านวางหนังสือจะอยู่แทบทุกย่อหน้าแรกของบทต่างๆ ด้วยกลอุบายของนักเขียนที่อยากให้ผู้อ่านเปลี่ยนไปให้ความสนใจในเรื่องที่จบอย่างหรรษากว่านี้ แต่ในความเป็นจริงหนังสือชุด “อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย” นั้น ประกอบไปด้วยความขุ่นมัว ความโชคร้าย ความอาภัพของสามพี่น้องตระกูลโบดแลร์ ที่เมื่ออ่านแล้วจะต้องอุทานในใจว่า “อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย” จริงๆ นั่นแหละ“กลางคืนมีดวงตาพันดวง กลางวันมีดวงเดียวเท่านั้น แสงสว่างแห่งโลกหายไปเมื่อสิ้นแสงตะวัน ความคิดมีดวงตาพันดวง หัวใจมีดวงเดียวเท่านั้น แสงแห่งชีวิตมลายไปเมื่อความรักจากพลัน” เสียงหัวเราะสุดท้ายกับการจากไปของตัวร้ายอย่างเคาต์โอลาฟในตอนจบ...ใช่แล้ว ผมสปอยล์เนื้อหาตอนจบว่าเคานต์โอลาฟตาย ซึ่งคุณอาจตกใจว่าทำไมผมถึงกล้าบอกเรื่องราวอันน่ายินดีนี้ แต่ในความจริง เรื่องราวกลับมีมากมายกว่าที่คิด และการตายของเคานต์โอลาฟอาจจะไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีก็ได้ ดังชื่อเรื่องที่ว่า "อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย" (อย่าลืมว่าในแฮร์รี่ พอตเตอร์ เสนปก็เป็นตัวละครที่หลายคนเข้าใจผิด)นวนิยายชุดนี้ประกอบไปด้วยสิบสามเล่ม ได้แก่ 1) ลางร้ายเริ่มปรากฏ 2) ห้องอรสพิษชวนผวา 3) บ้านประหลาด 4) โรงงานเขย่าขวัญ 5) โรงเรียนสั่นประสาท 6) คฤหาสน์อาเพศ 7) หมู่บ้านสามานย์ 8) โรงพยาบาลวิปริต 9) เทศกาลระทึกขวัญ 10) หน้าผาวิปโยค 11) ถ้ำทะมึน 12) หายนะก่อนปิดฉาก 13) จุดจบ (แห่งความโชคร้าย)เนื้อหาที่เต็มไปด้วยปริศนาของนิยายทั้ง 13 เล่มนี้ ทำให้กวาดรางวัลต่างๆ มากมาย และติดอันดับยอดขายนานอยู่หลายปี จน A Series of Unfortunate Events ถูกผลิตเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2004 แต่ผลตอบรับไม่ค่อยดีนัก แม้จะมีนักแสดงนำอย่าง จิม แครี่ มารับบทตัวร้ายก็ตามต่อมาในปี 2017 ก็ถูกนำกลับมาสร้างและฉายทางเน็ตฟลิกซ์ในรูปแบบซีรีส์ที่มีถึงสามซีซั่น หากใครสนใจติดตามเรื่องราวที่เต็มไปด้วยโศกนาฎกรรมของตระกูลโบดแลร์ แต่ไม่ต้องการอ่านนิยายก็สามารถรับชมได้ในรูปแบบซีรีส์ ก็ถือว่าได้อรรถรสไปอีกแบบเช่นกัน ติดตามผลงานจาก ปรภ ไม่ใช่ รปภ ได้ที่Porraphat.comblockdit TrueID