Frieren Beyond Journey's End (Sousou no Frieren) หรือ คำอธิษฐานในวันที่จากลา FRIEREN เป็นอนิเมะแนวแฟนตาซี ผจญภัย ดราม่า ที่มีการดัดแปลงมาจากมังงะในชื่อเดียวกันของอาจารย์ Yamada Kanehito และวาดภาพประกอบโดย Abe Tsukasa มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร Shonen Sunday รายสัปดาห์ภายใต้สำนักพิมพ์ของ Shokakukan และได้รับการทำเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอ Madhouse ออกฉายครั้งแรกในวันที่ 29 กันยายน 2023 นั่นเอง ซึ่งตอนนี้ก็ได้ฉายมาแล้วทั้งหมด 15 ตอน โดยทาง Keydaily ก็ได้รับชมมาเป็นที่เรียบร้อย วันนี้เลยจะมารีวิวอนิเมะเรื่องนี้กันครับเนื้อหาในบทความอาจจะมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในอนิเมะเนื้อเรื่องhttps://www.youtube.com/watch?v=q0b46t5obQ4Frieren Beyond Journey's End นั้นจะมีเซตตื้งในโลกที่กลุ่มตัวเอกหรือปาร์ตี้ผู้กล้า ได้แก่ ฮิมเมล(ผู้กล้า) ไฮเตอร์(นักบวช) ไอเซ็น(นักรบ) และฟรีเรน(จอมเวทย์) จะต้องเดินทางไปปราบจอมมารเพื่อช่วยโลก ซึ่งก็เป็นเนื้อเรื่องที่เราพบได้ทั่วไปในอนิเมะแฟนตาซีหลายๆ เรื่อง แต่ในเรื่องนี้จะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง เพราะตัวของเนื้อเรื่องนั้นจะเล่าหลังจากที่กลุ่มผู้กล้าปราบจอมมารสำเร็จแล้วนั่นเองซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ใช้เวลากว่า 10 ปี หลังจากที่กลับมาเมืองหลวงแล้วได้ฉลองกัน จากนั้นฟรีเรนซึ่งตัวเธอเป็นเผ่าเอลฟ์ได้ให้สัญญาว่าในอีก 50 ปีว่าจะพาไปดูฝนดาวตกด้วยกันทั้งปาร์ตี้ จากนั้นเธอก็ออกเดินทางไปคนเดียว และเป็นเวลาผ่านไปกว่า 50 ปี ฟรีเรนจึงกลับมาหาพวกฮิมเมลอีกครั้ง ด้วยการที่เธอเป็นเอลฟ์ที่มีอายุยืนยาว ทำให้เธอไม่แก่หรือเปลี่ยนไปจาก 50 ปีก่อนเลย ในขณะฮิมเมลและไฮเตอร์ที่เป็นมนุษย์แก่ตัวลงมากโดยเฉพาะฮิลเมล นอกจากฟรีเรนก็มีไอเซ็นด้วยที่มีอายุยืนยาวเพราะเป็นเผ่าคนแคระ หลังจากที่ทั้ง 4 คนได้ไปดูฝนดาวตกด้วยกันอีกครั้งในรอบ 50 ปี ตัวเรื่องก็จะตัดมาที่งานศพของผู้กล้าฮิมเมล เนื่องจากฟรีเรนเป็นเอลฟ์ที่มีชีวิตอยู่มานาน จึงมีอารมณ์ที่เฉยชากับเรื่องของเวลามากๆ แต่การจากไปของฮิมเมลทำให้เธอตระหนักได้ว่าอายุขัยของมนุษย์นั้นสั้นเพียงแค่ไหน เธอเสียใจมากที่ได้รู้ว่าเธอต้องเฝ้าดูเหล่าเพื่อนที่ได้เดินทางด้วยกัน เริ่มจากไปทีละคน จนนำไปสู่การเดินทางอีกครั้งเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจในตัวมนุษย์อีกครั้งความรู้สึกหลังดูหลังจากที่ผู้เขียนได้รับชมอนิเมะเรื่องนี้มาแล้วนะครับ บอกได้เลยว่าอนิเมะเรื่อง คำอธิษฐานในวันที่จากลา FRIEREN เป็นอนิเมะที่ผู้เขียนยกให้เป็นที่ 1 ของซีซั่นนี้ที่ผู้เขียนชอบมากๆ เลย ตัวเนื้อเรื่องแม้ว่าจะดูเป็นโลกแฟนตาซีเดินทางปราบจอมมารทั่วไป แต่จุดที่น่าสนใจเลยก็คือการเล่าเรื่องการเดินทางครั้งใหม่ของฟรีเรนนี่แหละ มีความเรียบง่าย ละมุนหัวใจเอามากๆ จุดที่น่าชมเลยก็คืองานกราฟิคและเพลงประกอบฉากต่างๆ ที่ทำออกมาให้เรารู้สึกอินไปกับเนื้อเรื่อง แม้ว่าจะมีความเนือยๆ ช้าๆ บ้าง แต่โดยรวมแล้วการดำเนินเนื้อเรื่องคือดีมากๆ ฉากต่อสู้ภายในเรื่องจะมีให้เห็นน้อยมากๆ แต่ว่าการต่อสู้แต่ละครั้งเมื่อรวมเข้ากับเพลงประกอบที่ดีอยุ่แล้ว ทำให้ฉากต่อสู้ออกมาดูดีมากๆ ในส่วนตัวละครของเรื่องนี้จะไม่ได้โดดเด่นมาก เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ มีดีไซน์ที่เรียบง่ายและไม่โดดเด่น เรียกได้ว่าถูกออกแบบมาตามสไตล์แนวเกม JRPG เลยก็ว่าได้ แต่ในจุดนี้ก็ส่งผลให้เราสามารถโฟกัสกับการดูเนื้อเรื่องได้อย่างเต็มที่ ซึ่งผู้เขียนมองว่าตรงนี้เป็นจุดที่น่าชมเลย เพราะยังไงเรื่องนี้มันก็จะเน้นไปที่เรื่องราวของการเดินทางมากกว่าดีไซน์ตัวละครอยู่แล้วโดยตัวละครที่ผู้เขียนชอบมากๆ เลยก็คือผู้กล้าฮิมเมลนั่นเอง ที่ชอบเพราะเขามีนิสัยที่หลงตัวเองนิดๆ แต่ไม่น่ารำคาญเลย และที่สำคัญเลยคือจิตใจที่ชอบช่วยเหลือและห่วงใยคนอื่นอยู่เสมอ เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้กล้าอย่างแท้จริงเลยสรุปFrieren Beyond Journey's End หรือ คำอธิษฐานในวันที่จากลา FRIEREN เป็นอนิเมะที่ผู้เขียนชอบสุดๆ และแนะนำให้ผู้อ่านไปหามาดูกันมากๆ แต่ก็ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า อนิเมะเรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน อาจจะต้องเป็นคนที่โตและผ่านโลกมาประมาณนึงเลยถึงจะอินไปกับอนิเมะเรื่องนี้ และอย่างที่บอกไปว่าตัวละครในเรื่องนี้มีดีไซน์ที่เรียบง่าย ไม่โดดเด่น อาจจะดึงดูดคนดูที่เป็นเด็กยาก แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ในฉบับมังงะก็ถือเป็นมังงะดีกรีรางวัลยอดเยี่ยมเลย ดังนั้นก็รับประกันคุณภาพได้เลยครับและสุดท้ายนะครับใครที่สนใจอยากหาอนิเมะเรื่องนี้มาดูล่ะก็ สามารถรับชมได้แล้วทาง Netflix, Muse Thailand, iQIYI, Bilibili และ TrueID เลยครับ สำหรับวันนี้ทาง Keydaily ก็ขอตัวล่าไปก่อน หากใครที่ชื่นชอบในหนัง ซีรีส์ อนิเมะ และเกมล่ะก็ฝากกดติดตามผลงานด้วยนะครับเครดิตตัวอย่างอนิเมะจาก Muse Thailandรูปประกอบทั้งหมดจาก museacg_thหน้าปก / 1 / 2 / 3 / 4เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !