หมิว สิริลภัส น้ำตาแตก! โควิดทำรักพัง ลั่นมูฟออนเป็นรำหน้านาค

หมิว สิริลภัส น้ำตาแตก! โควิดทำรักพัง ลั่นมูฟออนเป็นรำหน้านาค

เปิดใจทั้งน้ำตา! หมิว สิริลภัส เผยโควิดทำรักพัง วาดฝันผู้ชายคนนี้เป็นหัวหน้าครอบครัว สุดท้ายไม่ได้ไปต่อ ลั่นมูฟออนเป็นรำหน้านาค

เจอพิษโควิด-19 กระทบความสัมพันธ์เข้าให้จนได้ สำหรับดาราสาว หมิว สิริลภัส กองตระการ หลังต้องห่างกันไกลกับแฟนหนุ่มเกือบ 2 ปี เพราะด้วยสถานการณ์การระบาดทั่วโลกทำให้ไม่สามารถบินไปเจอกันได้ กระทั่งในที่สุดตัดสินใจจบความรักลง ตามที่เจ้าตัวออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด หมิว สิริลภัส เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงเรื่องราวความรักกับแฟนหนุ่มที่ต้องจบลง สุดเสียดายเพราะเจอคนที่ลงตัวและหวังให้เป็นหัวหน้าครอบครัวในอนาคต เผยมูฟออนเป็นรำหน้านาค หนักยิ่งกว่าเป็นวงกลมไปอีก

โควิดระลอก3 แล้วชีวิตเป็นยังไงบ้าง? “ว่างค่ะ ใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงอีกสักรอบ ไปทางไหนก็คือล้างมือจนเส้นวาสนาไม่มีแล้ว ตอนนี้เส้นการงานก็น่าจะหายไปแล้วเช่นเดียวกัน แอลกอฮอล์ทุกวันนี้ก็ทั้งฉีดทั้งดื่มจนแทบจะเป็นแอลกอฮอลิกแล้ว(หัวเราะ) ใส่หน้ากาก แล้วก็พยายามไม่ออกจากบ้าน หมิวไม่ได้ออกจากบ้านเลยจนมันยม(เหี่ยวแห้ง)แล้ว

อีกอย่างคือหมิวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ เขาก็พยายามให้หมิวต้องออกไปหาอะไรทำ แต่หมิวออกไปหาอะไรทำไม่ได้ ต้องอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม สิ่งที่ทำได้ก็คือเล่นเปียโนร้องเพลง และทำคลิปอะไรไปเรื่อยเปื่อย”

สำหรับหมิวโควิดไม่ได้กระทบแค่เรื่องงาน แต่กระทบเรื่องของหัวใจด้วย? “เดี๋ยวพูดเรื่องนี้ต้องร้องอีก หายใจก่อน(ยิ้ม) อย่างที่เห็นกันว่ามันบล็อกทุกอย่างเลย บล็อกการเดินทาง บล็อกการที่จะทำให้คนมาหากันได้ หมิวค่อนข้างสงสารเขาเพราะเขาใช้ชีวิตคนเดียวที่นั่น กลับมาแล้วก็ไม่มีใคร เหงาอยู่ที่บ้านคนเดียว กินข้าวคนเดียว หมิวเข้าใจว่าความเหงานั้นมันคืออะไร เราต้องการใครสักคนหนึ่งที่ได้มานั่งคุยกัน จับมือกัน หรือแค่ซบกันก็ได้ สัมผัสสกินชิปกันหน่อย แค่แค่นั้นเอง

แต่ว่าหมิวไปทำอย่างนั้นให้เขาไม่ได้ไง บินไปเขาตรงนั้นไม่ได้ หมิวก็ค่อนข้างรู้สึกว่ามันจะทำให้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มันบั่นทอนเขา เรื่องงานเขาก็เครียดมากพอแล้ว ยังต้องกลับมาเหงาอย่างนี้อีกเหรอ เมื่อช่วงต้นปีก็เลยตัดสินใจที่จะคุยกันว่ามันเป็นอย่างนี้ แล้วเราก็ยังไม่เห็นหนทางที่มันจะไปต่อหรือว่าจะเจอกันได้เมื่อไหร่ งั้นเราพักเราพอสความสัมพันธ์ไว้ก่อนมั้ย เดี๋ยวพอหลังหมดโควิดค่อยว่ากัน”

แต่เหมือนทางผู้ชายมูฟออนไปแล้ว? “ใช่ค่ะ หมิวก็บอกเขาเลยค่ะว่าหมิวไปทำหน้าที่แฟนให้เขาตรงนั้นไม่ได้ ถ้าเขาเจอคนที่ทำหน้าที่นั้นได้ก็ให้เปิดใจ หมิวจะไม่รั้งเพราะว่าหมิวก็อยากให้เขามีความสุข”

แล้วตัวเรามูฟออนได้หรือยัง? “(ส่ายหน้าถี่ๆ) มูฟออนเป็นรำหน้านาคเลยค่ะ นอกจากจะเป็นวงกลมแล้วยังก้าวสามถอยสี่อีกค่ะ วนไป 3 รอบแล้วตอนนี้ ยังไม่นัดเจอเพลงที่ชอบแล้วต้องหยุดด้วยนะคะ(หัวเราะ)”

เสียดายไหมเพราะหลายมองว่าความรักครั้งนี้มีลุ้นถึงการใช้ชีวิตคู่ด้วยกันได้เลย? “เสียดายค่ะ(เสียงสั่น) เห็นมั้ย เอาอีกแล้ว(น้ำตาไหล) เสียดายมากค่ะ หมิวว่าตัวเองเจอคนที่ค่อนข้างลงตัวกับหมิวที่สุดแล้ว ในเรื่องของการใช้ชีวิต ทัศนคติในการคุยกัน หรือการแก้ปัญหาร่วมกัน ค่อนข้างที่จะเป็นทีมเดียวกันที่ดี แล้วก็คิดไปจนถึงว่าถ้ามันถึงเวลาที่สมควร

เขานี่แหละก็น่าจะมาเป็นหัวหน้าครอบครัวของเราได้ แล้วพอมันเกิดเหตุการณ์ที่มันควบคุมไม่ได้ ซึ่งถ้าเราเลือกได้ก็อยากที่จะเลือกให้เขามีความสุขตรงนั้น ส่วนตัวเราเองโอเคมันเจ็บมันเสียใจแหละ แต่เราไปทำตรงนั้นให้เขาไม่ได้จริงๆ เราก็คงต้องปล่อยเขาไป”

ยังพอได้พูดคุยสื่อสารกันบ้างไหม หรือว่าตัดขาดไปเลย? “คุยค่ะ พี่เขาก็เข้ามาดูไอจีเราอยู่ตลอด มีคุยกันบ้างว่าเป็นยังไง สบายดีมั้ย แต่ก็คุยกันบ่อยไม่ได้ คุยกันทุกครั้งก็คือร้องไห้กันทั้งสองคนทุกครั้ง ทางเขาก็เสียใจค่ะ”

เชื่อว่าหมิวยังมีความรักให้เขาอยู่เต็มร้อย น่าจะเกินด้วยมั้ง? “(ร้องไห้) ไม่เคยหายไปเลยค่ะ อืม…ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้ถึงแม้ว่าจะผ่านมาแบบนานแล้ว 6 เดือนแล้ว แต่ว่ามันก็ยังทำให้เรารู้สึกว่าเสียดายอยู่”

แต่การได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขนี่แหละคือความรักที่แท้จริง? “ใช่ค่ะ หมิวก็คิดว่าถ้าเกิดวันนึงถ้าเราคู่กันจริงๆ เดี๋ยวทุกอย่างจะพาให้เรากลับมาหากันเอง แต่ถ้าไม่ใช่ก็คือเขาก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตหมิวค่ะ ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เก็บไว้เป็นเรื่องดีๆ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : mew_ladym62