รีเซต

เต๋า เศรษฐพงศ์ ห่วงแม่ ลุยงานรพ.สนามกาฬสินธุ์ ไม่เกษียณ เพราะอยากช่วยคน

เต๋า เศรษฐพงศ์ ห่วงแม่ ลุยงานรพ.สนามกาฬสินธุ์ ไม่เกษียณ เพราะอยากช่วยคน
ข่าวสด
5 กรกฎาคม 2564 ( 13:25 )
189

เต๋า เศรษฐพงศ์ ห่วงแม่ ลุยงานรพ.สนาม กาฬสินธุ์ ไม่ยอมเกษียณ เพราะอยากช่วยคน

เต๋า เศรษฐพงศ์ - เรียกว่าอยู่ห่างๆแบบห่วงๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ โพสต์รูปภาพคุณแม่ช่วงระหว่างปฏบัติงานเป็นหัวหน้าฝ่ายโรคติดต่อ คอยดูแลแพทย์ พยาบาล และผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลสนาม จ.กาฬสินธุ์ หลังจากที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สีแดงจังหวัดสมุทรสาคร ช่วยโควิด-19 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ล่าสุด เต๋า เศรษฐพงศ์ ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ เล่าถึงการทำงานของแม่ในภารกิจที่ต้องช่วยเหลือผู้คน และบุคลากรคนสำคัญ ในหน้าที่หัวหน้าฝ่าวโรคติดต่อ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้วิดีโอคอลหาแม่อยู่ตลอดด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากคุณแม่ก็อายุ 57 ปีแล้ว แต่ยังมีใจรักในการทำงานไม่ยอมเกษียณอีกด้วย

เมื่อไม่นานมานี้เห็นโพสต์รูปแม่ทำงานอยู่ที่กาฬสินธุ์? "ใช่ครับ คุณแม่รับราชการครับ เป็นพยาบาลตั้งแต่ผมเกิดคุณแม่ก็เป็นพยาบาลมานานจน 30 กว่าปีแล้วครับ ตอนนี้คุณแม่ก็ได้เป็นหัวหน้าฝ่าย แผนกโรคติดต่อ ซึ่งก็คือโควิดนั่นแหละ แม่ก็จะดูแลในส่วนของการป้องกันให้กับทีมแพทย์ และคนไข้ เป็นคนดูแลเวลาคุณหมอจะไป คุณแม่ก็ต้องมาดูแล ต้องไปหาข้อมูล

ซึ่งตอนนี้คนป่วยก็เริ่มกลับมาที่กาฬสินธุ์เยอะขึ้น วันละ 20-30 คน ตอนนี้ก็ประมาณ 300 รายแล้วที่ติดโควิด คุณแม่ก็ต้องไปที่โรงพยาบาลสนามไปดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับคุณหมอ และพยาบาลท่านอื่นๆที่จะต้องเจอกับคนไข้ครับ คุณแม่ก็บอกว่าตอนนี้มาเยอะขึ้นเรื่อยๆครับ ซึ่งตอนนี้กำลังจะเปิดโรงพยาบาลสนามที่สองแล้วครับ ที่แรกก็เริ่มเต็มแล้วครับ ตอนนี้ก็ 300 กว่าคน"

แอบเป็นห่วงคุณแม่ไหม ด้วยสถานการณ์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงเริ่มมีสายพันธุ์เดลต้า สายพันธุ์อินเดียเริ่มเข้ามา? "เป็นห่วงอยู่แล้วครับ เพราะว่าคุณแม่ก็อายุเยอะแล้ว แล้วต้องออกไปในสถานที่พื้นที่เสี่ยงก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว แต่ว่าก็บอกคุณแม่ตลอดครับ แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร แม่ป้องกันอยู่แล้ว ทำตามมาตรการที่เขากำหนดไว้ให้ครับ ถามว่าคุณแม่มีเวลาพักมั้ย คุณแม่ก็บอกว่ามีเวลาพักอยู่ยังไม่ได้ห้ามรุ่งหามค่ำขนาดนั้นครับ"

ตอนนี้คุณแม่อายุเท่าไหร่แล้ว? "คุณแม่ตอนนี้อายุ 57 ปี"

ช่วงที่คุณแม่อยู่ในโรงพยาบาลสนามเล่าอะไรให้ฟังบ้าง? "คุณแม่ก็เล่าให้ฟังครับ ส่วนใหญ่จะส่งเป็นคลิปวิดีโอในการดูแลตัวเอง แล้วก็จะเตือนตลอดว่าช่วงนี้สถานการณ์หนักแล้ว อย่าออกไปไหนนะ ดูแลตัวเองดีๆครับ คุณแม่เป็นห่วงสุขภาพเรามากกว่าตัวเอง แต่คุณแม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร เพราะว่าที่นู้นเขามีมาตรการป้องกันอย่างดี

แล้วคนที่ป่วยก็เป็นลูกหลานคนกาฬสินธุ์อยู่แล้ว เขาก็เคยรักษาอยู่แล้วครับ ซึ่งคนที่มาพักที่โรงพยาบาลสนามก็จะเป็นคนที่มีอาการยังไม่โคม่ามาก สุขภาพร่างกายแข็งแรงอยู่ แต่ว่าติดโควิดก็มารักษาได้ แต่คนป่วยต้องแจ้งล่วงหน้าก่อน ไม่ใช่ลักลอบเข้ามาครับ แม่ก็จะดูแลอยู่แล้ว ซึ่งคุณแม่ก็โอเคแข็งแรงดี ยังเดินออกกำลังกายได้อยู่ทุกเช้า ก็เห็นคุณแม่ออกกำลังกายได้ก็ดีใจครับ"

เราไม่ได้เจอคุณแม่นานแค่ไหน? "ใช่ครับ ยังไม่เจอเลยครับ ตั้งแต่คุณแม่แอบมาสมุทรสาครตอนนั้นก็ยังไม่เจอเลย น่าจะเกือบปีแล้วครับ"

คิดถึงคุณแม่ไหม เพราะคาดว่าสถานการณ์จะฟื้นตัวได้ยาก? "คิดถึงอยู่แล้วครับ น่าจะนานอยู่แล้วครับ เพราะว่าตอนนี้เราก็ต้องดูแลตัวเอง ต้องทำงานด้วย แต่ว่าก็ยังวิดีโอคอลคุยกันครับ ส่งไลน์กรุ๊ปที่บ้านอยู่แล้วครับ"

เป็นห่วงอยากให้คุณแม่พักไหม อายุท่านก็เยอะแล้ว? "ห้ามแม่ไม่ได้ครับ คุณแม่เป็นคนลุยอยู่แล้วครับ คุณแม่ผมนี่เก่ง เป็นคนเก่งแบบชอบลุย ชอบไปช่วยคน คุณแม่สนุกกับการทำงาน ผมบอกให้คุณแม่เกษียณอายุ คุณแม่ยังไม่เกษียณเลยครับ คุณแม่บอก เดี๋ยวขออยู่ทำงานก่อน คุณแม่ชอบอยู่ต่างจังหวัด ที่กาฬสินธุ์ครับ แล้วพอทำงานพยาบาลเขาก็มีเพื่อน เจอเพื่อนของเขา เขาก็บอกว่าสบาย ไม่ต้องห่วง"

ค่อนข้างภูมิใจกับคุณแม่? "ครับผม ภูมิใจครับ แล้วก็เป็นกำลังใจให้กับพยาบาล คุณหมอทุกท่านครับที่ตอนนี้ปฏิบัติการอย่างหนักเลยกว่าอาชีพอื่นๆในตอนนี้"

อัพเดตผลงานหน่อย?
"ตอนนี้ผลงานหลักๆก็จะมีสุภาพบุรุษสุดซอยครับ ก็เพิ่งกลับมาถ่ายทำได้ แต่ว่ามีมาตรการในการถ่ายทำแบบเข้มข้นมาก แล้วก็มียูทูบช่อง Tao_STP ทั้งในยูทูบและเฟซบุ๊ก ก็จะมีสตรีมมิ่งด้วย แล้วก็ติ๊กต็อก ไอจี ทวิตเตอร์ติดตามได้ครับ หลักก็จะมีประมาณนี้ครับ"

เล่าถึงการทำยูทูบหน่อย ตอนแรกเริ่มทำท้อไหม? "เริ่มจากการที่เราอยากทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ตอนที่อยากหาเวลาว่างให้เกิดประโยชน์เลยดูจากอินเตอร์เน็ต ยูทูบเบอร์เราก็เลยไปซื้อกล้อง แล้วก็เริ่มทำเลย ถามว่าท้อมั้ย ไม่ท้อครับ เพราะว่าเราไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องสำเร็จว่าคนดูจะต้องเป็นหมื่น เป็นแสน เราไม่ได้คาดหวังขนาดนั้นเลย เลยไม่ได้ท้อครับ เราก็ทำมาเรื่อยๆครับ"

กว่าคนจะติดตามมาขนาดนี้ ทำมานานแค่ไหน? "ปีครึ่งแล้วครับ เกือบ 2 ปีได้ครับ มันก็จะมีทั้งช่วงคนดูเยอะ และคนดูน้อย ตอนที่กำลังหาคอนเทนต์ให้แฟนๆได้รู้จักช่องเราว่าเรามีคอนเทนต์แบบนี้ หาอยู่สักพักหนึ่งอยู่เหมือนกัน ก็มีบางคลิปเหมือนกันครับที่คนดูน้อย"

เราตั้งกล้องเอง หรือว่ามีทีมงานช่วย? "ถ้าเป็นช่วงแรกก็ถ่ายเองครับ ตั้งกล้องแล้วก็ให้ผู้จัดการถ่าย ให้เออาร์ถ่าย หรือว่าให้น้องสาวถ่ายให้ครับ"

หลายคนประหลาดใจไม่คิดว่าเต๋าจะเป็นคนรักแมว และเลี้ยงแมวเยอะขนาดนี้ แถมยังทำคลอดให้น้องเหมี้ยว ครั้งนั้นเป็นประสบการณ์ครั้งแรกไหม? "ทำคลอดแมวครั้งแรกครับ รู้สึกตื่นเต้นครับ ตอนแรกก็หาอุปกรณ์หาความรู้แล้วก็ศึกษาได้จากเจ้าของฟาร์มที่เราไปเอาแมวมาก็โทรถามเขา แล้วก็ดูจากอินเตอร์เน็ต คลิปของคนอื่นๆ ยูทูบนี่แหละครับ เราก็ได้ความรู้จากตรงนี้ เราก็เลยดูและทำตามครับ แล้วพอตอนที่น้องแฮปปี้คลอดเรามีความรู้อยู่แล้วก็เลยใจเย็น ไม่ได้ตื่นเต้น ไม่ได้ตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นครับ"

ดีใจไหม แฟนๆชอบคอนเทนต์เวลาเราอยู่กับแมว? "ดีใจครับ ที่แฟนๆชอบน้องๆแมวที่บ้าน เขาก็น่ารักจริงๆเราก็คิดว่าคนชอบเยอะ เราน่าจะมาถูกทางแล้วนะ ถ่ายกับน้องแมวครับ"

ตอนนี้มีแมวกี่ตัว? "7 ตัวครับตอนนี้"

เห็นเราตั้งชื่อให้ลูกๆของเราว่า กงยู ลิซ่า โรเซ่ ฮยอนบิน มีแฟนๆติ่งเกาหลีเข้ามาดราม่าไหม? "ไม่มีดราม่านะครับ เพราะว่าคนดูเขาน่ารัก แค่แบบว่ายังสามารถติดตามน้องๆได้ ก็มีคนถามว่าทำไมถึงชื่อกงยู เพราะไม่เคยเห็นแมวชื่อกงยู แล้วแมวตัวที่ตั้งให้ก็เป็นพันธุ์มันช์กิ้นมันก็จะขาสั้นเลยไม่ค่อยเข้ากับกงยูนิดหน่อย แต่ว่าเราชอบก็เป็นกิมมิคของคอกนี้ว่าเป็นชื่อแบบเกาหลีแล้วกัน แล้วเราก็รู้จักดาราเกาหลีเลยเอามาตั้งชื่อ ซึ่งตัวเมียก็จะเป็นวงแบล็กพิงก์ครับ มีลิซ่า โรเซ่ ส่วนดาราก็จะเป็น กงยู ฮยอนบิน น่าจะเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปด้วย ก็เลยคิดว่าชื่อนี้แหละ"

เราค่อนข้างชอบเกาหลีใช่ไหม ในยูทูบเลยจะมีคอนเทนต์เกี่ยวกับเกาหลีด้วย? "ใช่ครับ ก็มีส่วนด้วยครับ เราก็เลือกชื่อแมสๆที่จะมีคนไทยรู้จักด้วยครับ"

สำหรับการทำธุรกิจหน่อย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? "ทำธุรกิจมาประมาณ 3-4 ปีแล้วครับ ก็ทำมาเรื่อยๆมีทั้งครีมทาหน้า ครีมกันแดด โฟมล้างหน้า แล้วก็มีเจลแอลหอฮอล์ สเปรย์แอลกอฮอล์ ของยี่ห้อ DoubleTree ก็ทำมาตลอดครับ แล้วก็ตัวใหม่ที่ทำล่าสุดคือของผลิตภัณฑ์ HYL ก็จะมีมาร์กหน้าก็เกี่ยวกับผิวพรรณ ลงทุนทำเองทุกอย่างครับ เป็นเจ้าของเองด้วย เป็นพรีเซ็นเตอร์เองด้วย เพราะว่าเราใช้เอง เราใช้จริง เราเห็นผลจากการที่เราใช้สินค้าของเราครับ แล้วก็อยากจะบอกต่อคนอื่นๆด้วย ว่าสินค้าเราดีใช้แล้วเห็นผลแน่นอน ราคาดีด้วยมาร์กหน้าแผ่นละ 49 บาท ผมว่าคุ้มค่ามากครับผม"

ลงทุนช่วงโควิดหวั่นใจยังไงบ้าง? "เราต้องวางแผนให้ดีครับ วางแผนในเรื่องของการใช้เงินว่าเราควรจะใช้ตอนไหน ถามว่าหวั่นใจมั้ยก็ตามสถานการณ์บ้านเมืองของเราตอนนี้เลยครับ ช่วงไหนเราพร้อมที่จะโปรโมต เราก็ต้องดูสถานการณ์ว่าโปรโมตไปเราจะได้อะไรกลับคืนมาครับ เราต้องวางแผนให้ดี

ถ้าสมมติว่าวางแผนดีแล้วเราก็จะไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ครับกับสถานการณ์ เพราะว่าตอนนี้เราก็ต้องประชุมกันบ่อยเหมือนกันว่าเราจะทำอะไรต่อไปแต่ว่าการที่เรามีสินค้าอยู่ในมือก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะว่าพอเวลาเศรษฐกิจพลิกฟื้นกลับมา เราจะได้มีสินค้าที่เข้าสู่ตลาดได้เลยครับ"

ตอนนี้ธุรกิจแย่ไหม พอประสบปัญหาในช่วงโควิด? "ถามว่าแย่มั้ย ไม่ได้แย่ขนาดนั้นครับ แต่ว่ายอดก็ตกลง เพราะคนต้องประหยัดกันมากขึ้น แต่ก็ยังพอไปได้ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องปิดตัวครับผม"

ลงทุนไปกี่หลัก? "เยอะอยู่ครับ ประมาณ 7 หลักครับ"

งานเยอะขนาดนี้ วางแผนการทำงานยังไง? "มีเข้ามาบ้างครับเพราะว่าด้วยสถานการณ์โควิดด้วย เราก็จะเอางานที่เราถ่ายเป็นหลักก่อนอย่างเช่นงานถ่ายซิทคอมสุภาพบุรุษสุดซอย เราก็พยายามรับงานที่คิดว่าเราจะไม่เจอคนเยอะ แล้วก็มีการตรวจเข้มข้นในการตรวจโควิด"

"ซึ่งตอนนี้ก็มีคนติดต่องานเข้ามา มีทั้งรายการ ยูทูบ แต่เราก็จะเลือกในการไปทำงานแต่ละรายการ เพราะว่าที่บ้านเรามีผู้สูงอายุอยู่ด้วย คุณป้า เราก็เลยเลือกเฉพาะงานที่เราทำกันประจำอยู่แล้ว อย่างเช่น ซิทคอม เพราะว่าเป็นงานที่ต่อเนื่องกัน ยูทูบก็ทำคอนเทนต์แมว มีทั้งสตรีมมิ่งของออนไลน์ เราแคสต์เกมด้วย

ตอนนี้เราก็ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์รับงานออนไลน์มากขึ้นกว่าเดิม จริงๆตอนนี้งานออนไลน์เยอะมากครับ เยอะกว่างานที่จะต้องออกไปถ่ายทำข้างนอก ตอนนี้คนก็เริ่มปรับตัวกันแล้ว"