ช่อง MBC เปิดประตูวังหลวงต้อนรับแฟนซากึกกันอีกครั้งกับ The Red Sleeve ซีรีส์ย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์แนวดราม่าโรแมนติก ผลงานล่าสุดหลังปลดประจำการของ อีจุนโฮ 2PM กับนางเอกสาวสวยตัวแม่แห่งวงการพีเรียดอีกคนอย่าง อีเซยอง ทำเรตติ้งตอนแรกสมการรอคอยไปได้สูงถึง 5.7% แถมยังเปิดฉากได้อย่างน่าติดตามแม้จะเป็นการเล่าเรื่องของตัวละครในวัยเด็กก็ตาม นอกจากความดีงามของนักแสดงแล้วเรื่องนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ไปหาคำตอบพร้อมกันได้ในรีวิวฉบับนี้The Red Sleeve ว่าด้วยเรื่องราวความรักระหว่าง ซองด็อกอิม (รับบทโดย อีเซยอง) นางในแห่งตำหนักทงกุงกับ องค์รัชทายาทอีซาน (รับบทโดย อีจุนโฮ) ผู้ซึ่งตกหลุมรักและต้องการให้เธอเป็นนางสนมเพียงหนึ่งเดียว ทว่าซองด็อกอิมกลับปฏิเสธตำแหน่งนั้นเพียงเพราะไม่ต้องการใช้ชีวิตอย่างนกน้อยในกรงทอง แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ต้องพ่ายแพ้แก่โชคชะตาฟ้าลิขิตและก้าวขึ้นเป็น พระสนมเอกซองอึยบิน ในวันที่องค์รัชทายาทอีซานได้ขึ้นเป็น พระเจ้าจองโจ กษัตริย์ลำดับที่ 22 แห่งราชวงศ์โชซอนนั่นเองเรื่องนี้ดัดแปลงจากนวนิยายในชื่อเดียวกันซึ่งเป็นผลงานของ นักเขียนคังมีคัง โดยฉบับซีรีส์ได้ ผู้กำกับจองจีอิน จากซีรีส์ Radiant Office (2017) และ Hold Me Tight (2018) มาจับมือทำงานร่วมกับ นักเขียนจองแฮรี ที่ก่อนหน้านี้เคยเขียนบทซีรีส์ Ruler: Master of the Mask (2017) ซึ่งถือเป็นซากึกที่สนุกมากเรื่องหนึ่ง ถือว่าทีมหลังกล้องมีประสบการณ์การทำงานมาบ้างแล้ว จึงเชื่อว่าผู้ชมจะได้สัมผัสกับความเข้มขลังและความงดงามสไตล์พีเรียดเกาหลีอย่างแน่นอนคราวนี้มาว่ากันถึงพล็อตเรื่องแบบเจาะลึก อย่างที่หลายคนเห็นจากตัวอย่างและโปสเตอร์มาก่อนหน้านี้ รวมไปถึงเรื่องย่อที่ดูจะมาในโทนหวานแหววเล่าเรื่องรักต่างชนชั้นอันงดงาม แต่หลังจากออกอากาศตอนแรกผ่านไปบอกเลยว่าท่ามกลางความฟินของคู่พระนางยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นตับพังซ่อนอยู่เยอะมาก หากกางประวัติศาสตร์เกาหลีขึ้นมาอ้างอิงอย่างจริงจังแล้ว บอกได้เลยว่าไม่มีจุดไหนที่มองเป็นความสวยงามได้เลย ไม่แน่ว่า The Red Sleeve จะเป็นอีกเรื่องที่สุ่มเสี่ยงต่อตอนจบที่โศกเศร้าเคล้าน้ำตา เพราะเปิดมาเพียงตอนแรกก็โยนปมมาทุบหัวให้เตรียมทิชชู่เช็ดน้ำตากันอย่างไม่ปรานีกันแล้ว5 ผลงานเด็ดของ อีจุนโฮ (Lee Jun-ho) พระเอกซีรีส์ The Red Sleeve ที่ต้องดูให้ครบในตอนแรกเราได้เห็นเหตุการณ์สิ้นพระชนม์ของเสด็จย่านั่นคือ สนมยองบิน ที่จะเชื่อมโยงไปสู่ปมในวัยเด็กของ อีซาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการตายของ องค์รัชทายาทซาโด ผู้เป็นพ่อ โดยตามประวัติศาสตร์แล้วเป็นองค์ชายที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีนักกับกษัตริย์ยองโจ หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรจนถูกสั่งปลดจากตำแหน่งและประหารชีวิต ด้วยการบังคับให้ไปอยู่ในหีบเก็บข้าวและสิ้นพระชนม์ในอีกเจ็ดวันต่อมา และเหตุการณ์ดังกล่าวยังเกี่ยวข้องกับการขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองบ้านเมืองขององค์รัชทายาทอีซานอีกด้วย ส่วนใครอยากศึกษาเรื่องราวขององค์รัชทายาทซาโดรวมทั้งไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นก่อนเรื่องราวใน The Red Sleeve สามารถรับชมได้ในภาพยนตร์ The Throne (2015) ทาง TrueID เป็นหนังที่บีบหัวใจขั้นสุด โดยเฉพาะฉากถูกจับขังแล้วต้องกินเลียปัสสาวะตัวเองมันหดหู่จนเกินบรรยายส่วนนางเอกอย่าง ซองด็อกอิม ที่ภายภาคหน้าจะกลายเป็น พระสนมเอกซองอึยบิน อีกหนึ่งตัวละครที่ทำให้ลุ้นกับจุดจบของเธอเป็นอย่างมาก หากใครเคยดูซีรีส์ Lee San, Wind of the Palace (2007) หรือ ลีซาน จอมบัลลังก์พลิกแผ่นดิน แน่นอนว่าจะต้องเสียน้ำตาให้กับฉากสิ้นพระชนม์ของ พระสนมซองซงยอน ซึ่งเป็นตัวละครเดียวกันกับพระสนมอึยบินในเรื่องนี้นั่นเอง อีกทั้งในตอนแรกยังมีฉากที่ทำให้สะดุดใจอยู่บ้างกับคำพูดของ เชโจซังกุง (รับบทโดย พัคจียอง) ที่บอกกับซองด็อกอิมในวัยเด็กว่า ‘เป็นนางในต้องตายนอกวัง หากอยากตายในวังต้องเลื่อนขั้นเป็นสนมเท่านั้น’ ฟังดูเหมือนเป็นการสปอยล์ตอนจบของนางเอกที่ดันไปตรงกับเรื่องจริงตามประวัติศาสตร์อีกต่างหากอย่างไรก็ตามนั่นเป็นเพียงการคาดคะเนตามเบาะแสที่ได้จากภาพยนตร์และซีรีส์เรื่องอื่นที่ตัวละครอ้างอิงจากบุคคลเดียวกัน แต่ในเวอร์ชั่นนี้อาจดัดแปลงให้ออกมาเป็นซากึกโรแมนติกที่คนดูไม่ต้องฟูมฟายก็เป็นได้ แน่นอนว่าสิ่งที่จะได้เห็นเป็นหลักคือการตีแผ่เรื่องราวของนางในแห่งราชสำนัก ธรรมเนียมปฏิบัติตั้งแต่ก้าวเข้าสู่รั้ววังหลวงจนกระทั่งได้ขึ้นเป็นพระสนม สอดคล้องกับชื่อเรื่องที่กล่าวถึงเครื่องแบบของนางในที่มีปลายแขนเสื้อสีแดงสด สัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงการเป็นสตรีของกษัตริย์ ตามมาด้วยการเมืองเข้มข้นของการแย่งชิงบัลลังก์ซึ่งเป็นท่ามาตรฐานของละครแนวนี้ซีรีส์พีเรียดจากช่อง MBC ขึ้นชื่อเรื่องโปรดักชั่น งานภาพสวย ๆ เคล้าด้วยดนตรีและเพลงประกอบที่ไพเราะเท่านี้ก็อิ่มเอมมากแล้ว การคัดเลือกทีมนักแสดงถือว่าโดดเด่นเป็นที่จับตาตั้งแต่ประกายรายชื่อ อีจุนโฮในชุดองค์รัชทายาทไม่มีมุมไหนไม่หล่อ พ่วงมาด้วยคาแรกเตอร์ชายหนุ่มชาญฉลาด กล้าหาญและมีเหตุผล ซีนเปิดตัวที่โคตรจะพระเอ๊กพระเอก เชื่อว่าตัวละครอีซานในเวอร์ชั่นนี้จะทำให้เขาดังเป็นพลุแตกเช่นเดียวกับ อีซอจิน นักแสดงรุ่นพี่ที่เคยสวมบทบาทเดียวกันมาก่อนได้อย่างแน่นอน ยิ่งประกบคู่กับอีเซยองซึ่งได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากซีรีส์ The Crowned Clown (2019) เจอกันครั้งแรกเพียงไม่กี่วินาทีก็สัมผัสได้ถึงเคมีที่พลุ่งพล่านออกมาแล้ว(อ่านต่อ: 5 เหตุผลทำไมต้องดู The Crowned Clown สลับร่าง ล้างบัลลังก์ ซีรีส์เกาหลีพีเรียดมาแรงบน Netflix)อีกหนึ่งตัวละครที่น่าสนใจนั่นคือ ฮงด็อกโร (รับบทโดย คังฮุน) พระสหายขององค์รัชทายาทอีซาน ชายหนุ่มรูปงามที่ภายนอกดูเป็นคนอ่อนโยนและหมั่นทำความดีต่อคนรอบข้าง แต่ภายในกลับเชื่อว่าการทำดีและมีเมตตานั้นเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ในภายภาคหน้า การเติบโตมาจากชีวิตวัยเด็กที่ยากลำบากจึงทำให้ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดและเปล่งประกายได้ด้วยตัวเองแม้จะต้องแลกศักดิ์ศรีไปบ้างก็ตาม เป็นบทพระรองที่ต่างจากเรื่องอื่นซึ่งเป็นคนดีแสนดี แต่ตัวละครฮงด็อกโรจะมีความรัก โลภ โกรธ หลง ดูเป็นมนุษย์มากกว่าที่เราเคยได้เห็น(Youtube: Viu Thailand)The Red Sleeve เป็นซีรีส์พีเรียดอีกเรื่องที่ไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นเส้นเรื่องไหนค่าตับค่าไตคงพุ่งสูงชนิดหายารักษาไม่ง่าย เพียงตอนแรกก็จัดเต็มไม่ปูเรื่องจนเอื่อยเฉื่อย เสิร์ฟครบทุกรสทั้งโรแมนติก ดราม่า ไหนจะยังได้ระทึกไปกับเกมการเมืองสุดเข้มข้น ลุ้นไปกับตอนจบว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด ทั้งนี้สามารถรับชมบรรยายไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 13.00 น. ได้ทาง VIU ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน เว็บไซต์ และกล่อง TrueID TV ได้แล้ววันนี้รูปภาพประกอบบทความจาก Official Site: MBC/The Red Sleeveภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิวซีรีส์ Melancholia (2021) อีโดฮยอน x อิมซูจอง กับความสัมพันธ์สุดอื้อฉาวและเรื่องราวทุจริตในโรงเรียนชั้นสูง- รีวิวซีรีส์ Secret Royal Inspector & Joy คิมฮเยยุน x แทคยอน ทำหน้าที่ผู้ตรวจราชการลับ ไล่จับผู้ร้ายคดีทุจริต- รีวิว The King's Affection: ราชันผู้งดงาม | ซีรีส์พีเรียดจาก Netflix เล่าเรื่องแฝดหญิงที่ถูกทอดทิ้ง แต่ต้องสวมบทคิงแทนแฝดชายอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!