ช่วงหลังมานี้มีการ์ตูนแนวหนึ่งที่ผู้เขียนนิยมสร้างขึ้นมา แนวเรื่องที่ว่าคือ ตัวละครชายเฉิ่ม ๆ เชย ๆ ถูกแกล้งหยอกล้อเลียนโดยเด็กสาวที่มีนิสัยแสบสันแก่นแก้ว เท่าที่ผมเห็นผ่านตาอย่างน้อย ๆ ก็มีสามเรื่องและแต่ละเรื่องก็เป็นที่นิยมชมชอบอยู่ไม่น้อย การ์ตูนเรื่องที่ผมจะหยิบมากล่าวถึงในบทความนี้คือหนึ่งในสามนั้นยัยตัวแสบแอบน่ารัก นางาโทโระ เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มชมรมศิลปะที่ชมชอบการวาดภาพ เขามีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ไม่ค่อยมีเพื่อน จับเจ่าอยู่เพียงลำพัง ว่างหน่อยไม่ฝึกวาดภาพก็จะวาดการ์ตูนและตรงจุดนี้นี่แหละที่ทำให้ชะตาชีวิตของเขาเปลี่ยนไป เมื่อบังเอิญไปทำการ์ตูนที่วาดขึ้นลงตรงหน้ากลุ่มเด็กสาวรุ่นน้องสุดแสบก๊วนหนึ่งเข้า ทุกคนหัวเราะเยาะเฮฮากับความเนิร์ดของรุ่นพี่ แต่หลังหมดความสนใจก็แยกย้ายกันไป ยกเว้นคนหนึ่ง นางาโทโระคือเด็กสาวผิวสีแทนรูปร่างผอมบาง หน้าตาน่ารัก แต่ท่าทางเจ้าเล่ห์ ลักษณะเหมือนแมว ซ้ำยังมีฝีมือการต่อสู้คล่องแคล่วพอตัว เธอเริ่มเข้าหารุ่นพี่ด้วยความสนใจในการ์ตูนของเขา ก่อนจะมุ่งเป้าเย้ยหยันในความเนิร์ดด้วยคำพูดถากถางรุนแรงจนทำให้รุ่นพี่ต้องร้องไก้เสียน้ำตา หลังจากการพบกันครั้งนั้น ชะตาก็นำพาให้นางาโทโระแวะเวียนมาหารุ่นพี่ที่เธอสนใจทุกวันและทุกครั้งเธอก็จะหาเรื่องกลั่นแกล้งยั่วโมโหสารพัดสารเพทุกวิธีเพื่อให้ได้เห็นอีกฝ่ายหงออย่างที่เธอต้องการเนื้อเรื่องมีเท่านี้เลยครับ จะวนเวียนไปมาแค่นี้ แต่ที่พัฒนาขึ้นจะเป็นความสัมพันธ์ของทั้งสองที่สนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ การเพิ่มเติมของตัวละครอย่างกลุ่มเพื่อนของนางาโทโระที่เข้ามามีบทบาทและระดับความกลั่นแกล้งที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนไปจากหยอกแรง ๆ เป็นเริ่มใส่ใจ บางทีโดนสวนกลับให้ตัวนางาโทโระต้องเป็นฝ่ายไปไม่ถูกเสียเอง จนสุดท้ายกลายมาเป็นปกป้องในที่สุดเอาตามตรงผมได้อ่านมาทั้งสามเรื่องจากแนวเดียวกันตามที่บอกไว้ข้างต้นในระดับหนึ่ง เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ผมรู้สึกว่าพอไหวมากที่สุดเท่าที่ผมจะพอมองเห็นและเข้าใจในความน่ารักของฝ่ายกลั่นแกล้งได้บ้าง เพราะว่าตามตรงการเข้าหาอีกฝ่ายด้วยการแสดงออกที่มาในแนวดูถูก ถากถาง ไปจนเกือบเรียกได้ว่าเหยียดหยามศักดิ์ของอีกฝ่าย เป็นอะไรที่ผมไม่คิดว่ามันจะกลายมาเป็นเงื่อนไขในการรักกันได้เลยแม้แต่น้อย มันเหมือนการที่คุณเห็นใครเป็นของเล่นแล้วกระทำการเล่นอย่างรุนแรง แน่นอนของชิ้นนั้นพังไปไม่กลับมาเหมือนเดิม จิตใจของคนก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน แต่เอาเถอะในเมื่อนี่เป็นการ์ตูน ผมก็มองว่าเราไม่ควรปิดกั้นความสัมพันธ์ที่คนเขียนพยายามจะยัดเยียดว่ามันมีอยู่จริงและโรแมนติกด้วย ผมก็พอจะเปิดรับไหว ลายเส้นของเรื่องอ่านง่ายสบายตา ตัวละครวาดออกมามีเสน่ห์พร้อมกับความน่าหงุดหงิดไปในจังหวะเดียวกันระหว่างอ่าน กล่าวคือตัวละครชายอย่างรุ่นพี่ ซึ่งเท่าที่อ่านยังไม่มีชื่อ คิดเอาละกันว่าโดยกดขี่ขนาดไหน กระทั่งจะแนะนำชื่อ นางาโทโระยังตัดบทพอใจว่าจะเรียกแค่รุ่นพี่เท่านั้น เขาเป็นตัวละครที่มีภาชนะความเก็บกดอารมณ์ได้สูงมาก ไม่ว่าจะโดนกระทำใด ๆ รุ่นพี่ก็จะไม่โกรธ จะมีแสดงความรู้สึกเจ็บใจ ร้องไห้บ้าง แต่ส่วนใหญ่กลับยอมรับและสุดท้ายก็ยกโทษให้อีกฝ่ายไปเสียอย่างนั้นอย่างง่าย ๆในขณะที่นางาโทโระ ถูกออกแบบมาให้ก๋ากั่น ใครก็ชอบ ใครก็ยอม ซึ่งบางช่วงก็แสดงเสน่ห์ออกมาได้น่าสนใจ แต่ในบางช่วงก็ทำให้ผมรู้สึกอยากขว้างหนังสือทิ้ง (แน่นอนผมไม่ได้ทำ เพราะไม่นิยมทำลายหนังสือ) หลายฉากในเรื่องตัวนางาโทโระเข้าหารุ่นพี่จนเกินงาม ทั้งโทรหาในตอนที่ตัวเองอาบน้ำ ทั้งจับเนื้อต้องตัว จนไปถึงขนาดเสนอตัวแต่งชุดว่ายน้ำเพื่อเป็นแบบวาดภาพให้ ผมคงหัวโบราณไปแล้วมั่งเลยไม่ยอมรับอะไรแบบนี้ว่ามันดีงามในส่วนของเนื้อเรื่อง เนื้อหาพยายามจะชี้ไปว่าการเข้ามาของเด็กสาวคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนนิสัยหงอ ๆ ของเด็กหนุ่มขี้ขลาด เก็บตัว ไม่มีดีอะไรสักเท่าไหร่ให้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เหมือนกับเปลวไฟนำทาง เพียงแต่บางครั้งเปลวไฟนั่นก็ไหม้ตัวเด็กหนุ่มบ้างบางครั้ง ซึ่งผมคิดว่า การ์ตูนแนวนี้มันคงถูกสร้างมาเพื่อให้กำลังใจกับคนอ่านที่มีลักษณะเช่นเดียวกับตัวละครชาย เพื่อให้คนเหล่านั้นเข้าถึงได้ง่ายการ์ตูนเรื่องนี้ตีพิมพ์และจัดจำหน่ายในเวอร์ชั่นภาษาไทยโดย วิบูลย์กิจ พับลิชชิ่ง กรุ๊ป ออกมาแล้วจำนวนหกเล่ม ในราคาปก65 บาท เอาจริง ๆ หากให้บอกจากมุมมองผม การ์ตูนเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยข้อเสียเต็มไปหมดเลย เพราะไม่ใช่แนวที่ผมยอมรับ ถึงแม้จะเข้าใจในเจตนา ผมจึงคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นก็ดูจะปิดกั้นและลำเอียงต่อการ์ตูนเรื่องนี้มากไปที่จะตัดสินว่า การ์ตูนเรื่องนี้ดีหรือไม่สนุก เลยอยากขอสรุปแบบเป็นกลางว่าสั้น ๆ ให้เข้าใจง่ายว่า เรื่องนี้เป็นการ์ตูนเพื่อวัยรุ่น เต็มไปด้วยจินตนาการที่เข้าข้างกลุ่มคนซึ่งในชีวิตจริงเป็นคนธรรมดาที่ไม่โดดเด่น มันสนุกในบางช่วง โดยเฉพาะตอนที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองตัวละครเข้าที่เข้าทางกันแล้ว แต่ก็มีความเกินเลยล้ำเส้นที่เหมือนจะดูถูกความเป็นคนของตัวละครชายในช่วงแรกอยู่ไม่น้อย หากอ่านแบบไม่จริงจัง เคร่งเครียด คิดว่าน่าจะอ่านได้เพลิน ๆ แต่ถ้าเป็นคนซีเรียสเรื่องการบูลลี่กลั่นแกล้ง ผมว่าไม่เหมาะ ยังไงเชื่อว่าถ้าคุณอ่านเล่มแรกแล้วรู้สึกโอเค เชื่อว่าเล่มต่อ ๆ ไปก็อ่านได้ไม่ยากสำหรับคุณแน่นอน