เปิดบันทึกสุดท้ายกับ Goodbye Earth ถึงเวลาต้องลาโลก ซีรีส์ดราม่าไซไฟเรื่องล่าสุดจาก Netflix ผจญวิกฤตการณ์และความโกลาหลวุ่นวายผ่านฝีมือการถ่ายทอดของนักแสดงมืออาชีพ อันอึนจิน และ ยูอาอิน นำทัพรำลึกถึงชีวิตแสนล้ำค่า สะสางเรื่องราวค้างคา พร้อมนับถอยหลังสู่ช่วงเวลาสุดท้ายแห่งการมีลมหายใจบนโลกมนุษย์ เรื่องย่อGoodbye Earth ถึงเวลาต้องลาโลก บอกเล่าเหตุการณ์ 200 วันสุดท้ายก่อนดาวเคราะห์น้อย ดีน่า 2012 จะพุ่งชนคาบสมุทรเกาหลีอันเป็นจุดจบแห่งมวลมนุษยชาติ ตามมาด้วยความโกลาหลวุ่นวายบริเวณ เมืองอุงชอน เมื่อนักโทษแหกคุกร่วมร้อยรายก่อเหตุสะเทือนขวัญจนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นกับนักเรียนวัยมัธยมต้นหลายชีวิต ก่อนที่ครูสาวใจเด็ดอย่าง จินเซคยอง (รับบทโดย อันอึนจิน) จะคิดวางแผนแก้แค้นแทนลูกศิษย์ของเธอร่วมกับ ฮายุนซัง (รับบทโดย ยูอาอิน) แฟนหนุ่มนักวิจัยที่บินตรงจากสหรัฐอเมริกากลับมายังบ้านเกิดด้วยเงื่อนงำที่ยังอธิบายไม่ได้ระหว่างนั้นเองทางฝั่งของบาทหลวง อูซองแจ (รับบทโดย จอนซองอู) ยังต้องเผชิญวิกฤติศรัทธาหลังจากหัวหน้านักบวชคนเก่าหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาพยายามตามหาร่องรอยเบาะแสอย่างสุดกำลังจนค้นพบความจริงอันน่าหวาดหวั่นต่อศาสนจักร เวลานี้แม้ดาวเคราะห์น้อยจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้โลกมากขึ้นทุกขณะ ทว่าเมืองอุงชอนภายใต้การประกาศกฎอัยการศึกยังแวดล้อมด้วยอาชญากรรมที่ทหารหญิงแกร่งอย่าง คังอินอา (รับบทโดย คิมยุนฮเย) ยังแก้ไม่ตก พวกเขาต่างเร่งสะสางภารกิจของตัวเองก่อนถึงเวลาจำนนต่อความตายที่คืบคลานเข้ามาโดยไร้หนทางหลีกหนี บทบาทนักแสดงอันอึนจิน รับบทเป็น จินเซคยอง อดีตคุณครูระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของ โรงเรียนมัธยมชอนดง ทว่าหลังจากรัฐบาลประกาศวิกฤติดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก เธอจึงเริ่มเป็นอาสาสมัครที่แผนกเด็กและเยาวชนของ ศาลาว่าการเมืองอุงชอน เพื่อต่อสู้และปกป้องเด็ก ๆ ที่ตกอยู่ในอันตรายยูอาอิน รับบทเป็น ฮายุนซัง นักวิจัยหนุ่มจากสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพในสหรัฐอเมริกา เมื่อทราบข่าวเกี่ยวกับหายนะดาวเคราะห์น้อยดีน่า 2012 เขาตัดสินละทิ้งชีวิตที่ปลอดภัยแล้วรีบเดินทางมายังบ้านเกิดเพื่ออยู่เคียงข้างจินเซคยองผู้เป็นคนรัก แม้รู้ดีว่าการกลับมาครั้งนี้จะเป็นจุดจบของชีวิตจอนซองอู รับบทเป็น อูซองแจ ผู้ช่วยบาทหลวงที่กลายเป็นหัวหน้านักบวชของ โบสถ์อุงชอน หลังจากผู้ปกครองศาสนจักรคนก่อนหายตัวไป ซ้ำร้ายเหตุการณ์ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกยังก่อให้เกิดความสับสนต่อศาสนิกชนชาวคริสต์ เขาจึงพยายามอย่างหนักเพื่อเยียวยาจิตใจของเหล่าสาวกคิมยุนฮเย รับบทเป็น คังอินอา ทหารหญิงดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกองร้อยเขตเมืองอุงชอน เธอทำหน้าที่สนับสนุนบริการการรบ จัดหาและขนส่งเสบียง ตลอดจนรักษาความสงบเรียบร้อยของพื้นที่สาธารณะ ก่อนจะต้องเผชิญหน้ากับความโกลาหลวุ่นวายตลอด 200 วันก่อนโลกถึงคราวดับสูญ รีวิวซีรีส์ Goodbye Earth ถึงเวลาต้องลาโลกGoodbye Earth ถึงเวลาต้องลาโลก แนวดราม่าไซไฟ ความยาว 12 ตอน ออริจินอลซีรีส์จาก Netflix ดัดแปลงจากนวนิยายญี่ปุ่นเรื่อง Shumatsu no Furu ของ โกตาโระ อิซากะ สู่ฉบับไลฟ์แอ็กชันสัญชาติเกาหลีโดยการสร้างสรรค์บทโทรทัศน์ของ นักเขียนจองซองจู เจ้าของซีรีส์ Secret Love Affair (2014) ทำงานภายใต้การคุมบังเหียนของ ผู้กำกับคิมจินมิน จากผลงานชื่อดังอาทิ Lawless Lawyer (2018) Extracurricular (2020) และ My Name (2021) ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ควรค่าแก่การรับชมหรือไม่ ขออาสามารีวิวเป็นแนวทางให้เช่นเคย โลกถึงกาลอวสาน วิกฤตการณ์ชี้ชะตามนุษยชาติGoodbye Earth จุดประกายความน่าสนใจผ่านพล็อตแห่งอนาคตว่าด้วยเหตุการณ์ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก ร้อยเรียงผ่านเรื่องราวชีวิต 200 วันสุดท้ายของมนุษย์บนคาบสมุทรเกาหลีที่กำลังแวดล้อมด้วยสารพันวิกฤติชวนสับสนวุ่นวาย ซีรีส์ฉายภาพผ่านเนื้อเรื่องมากมายหลายก้อนเพื่อสะท้อนภาพความโกลาหลเกินจินตนาการ บางกลุ่มพยายามปลงตกต่อชะตากรรม บางกลุ่มแสวงหาที่พึ่งทางใจจนกลายเป็นการต่อสู้ทางความเชื่อ ศาสนา และลัทธิ บางกลุ่มอาศัยความวุ่นวายเป็นช่องทางก่ออาชญากรรม และบางกลุ่มยังสะสางปมในใจก่อนจากโลกไปตลอดกาลความจริงแล้ว ถึงเวลาต้องลาโลก มาพร้อมโครงเรื่องค่อนข้างแปลกใหม่ มีความร่วมสมัยและสามารถหยิบจับไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมิติ บนความคาดหวังของผู้ชมซึ่งต้องการเสพบรรยากาศการเอาตัวรอดจากหายนะโลกแตก การดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ของตัวละคร ตลอดจนการต่อยอดไปสู่เนื้อเรื่องอาชญากรรมระดับเข้มข้นด้วยก็ตาม หากแต่ซีรีส์กลับเลือกแนวทางดราม่าเป็นรสชาติหลักของเรื่องราว เมื่อตัวละครต่างยอมจำนนต่อจุดจบของโลกแล้วนับวันรอความตายอย่างสิ้นหวัง มันจึงกลายเป็นสารคดีฉายช่วงชีวิตสุดท้ายของมนุษย์ที่ทำให้เราค่อนข้างผิดหวังมากทีเดียว เส้นเรื่องมากเกินควร ดำเนินเรื่องยืดยาดชวนหาวGoodbye Earth สอบตกอย่างไม่น่าให้อภัยทั้งในแง่บทโทรทัศน์และกลวิธีเล่าเรื่อง จุดสังเกตประการแรกมาจากการอัดเนื้อเรื่องและตัวละครเข้ามามากเกินความจำเป็น ทั้งครูสาวผู้จมอยู่กับโศกนาฏกรรมจนต้องการแก้แค้นแทนลูกศิษย์ที่ต้องจากไปด้วยน้ำมือของนักโทษแหกคุก นักวิจัยหนุ่มที่ยอมทิ้งชีวิตปลอดภัยเพื่อกลับมาเกาหลีด้วยเงื่อนงำบางอย่าง บาทหลวงผู้ยืนหยัดอย่างทรนงบนวิกฤติความเชื่อ และทหารหญิงที่ต้องดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน ลามเลยถึงเรื่องราวปลีกย่อยอีกหลายขนานที่เติมเข้ามาเพื่อยัดเยียดดราม่าจนกลายเป็นความสะเปะสะปะเสียแทนรอยรั่วดังกล่าวของ ถึงเวลาต้องลาโลก กลายเป็นแผลใหญ่ที่ไม่สามารถสร้างความสนุกเร้าใจแก่ผู้ชมได้ตามความคาดหวัง นอกจากการตัดฉากสลับไปมาเพื่อต้องการบอกเล่าทุกเหตุการณ์ไปพร้อมกันทำให้เราสูญเสียโฟกัสแล้ว ซีรีส์ยังดำเนินเรื่องด้วยความอืดอาดยืดยาดไร้จุดว้าวชวนสะเทือนอารมณ์ตามคำโฆษณา ยิ่งไปกว่านั้นความสับสนอลหม่านของบทโทรทัศน์ยังทำให้งานชิ้นนี้ไปไม่สุดสักทาง จะขายปรัชญาก็ทำไม่ถึง จะขายความระทึกก็ยังไม่โดน หรือจะขายดราม่าก็ยังไม่กระทบใจเท่าที่ควร ภาพรวมจึงเป็นงานที่หลายคนอาจจะเทไปตั้งแต่ต้นเรื่องเลยด้วยซ้ำ นักแสดงกำลังจะเกิด แต่ถูกบทคุมกำเนิดเสียก่อนGoodbye Earth รวบรวมนักแสดงสายฝีมืออย่าง อันอึนจิน จอนซองอู และ คิมยุนฮเย มาร่วมถ่ายทอดตัวละครต่างสาขาอาชีพที่ต่างกำลังเผชิญช่วงชีวิตสุดท้ายก่อนอำลาโลก พวกเขาต่างทำงานหนักจนสามารถฉายภาพปุถุชนคนธรรมดาที่ต่างมีเป้าหมายสุดท้ายก่อนตายอย่างชัดเจน ไม่เว้นแม้กระทั่งพระเอกหนุ่มอย่าง ยูอาอิน ที่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาคดีเกี่ยวกับยาเสพติดในขณะนี้ ทว่าด้วยบทบาทที่มีความสลักสำคัญต่อเรื่องราวอย่างมาก เขาจึงปรากฏตัวอยู่ในซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบพร้อมกับฝีไม้ลายมืออันฉกาจฉกรรจ์อย่างที่ผู้ชมเคยเห็นน่าเสียดายที่ ถึงเวลาต้องลาโลก เต็มไปด้วยจุดบอดที่คอยลดทอนขีดความสามารถของนักแสดงมากพอสมควร ปัญหาจากการออกแบบคาแรกเตอร์ประเภทครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไร้ตรรกะเหตุผล ตลอดจนการย่ำยีตัวละครด้วยจุดพลิกผันที่ยัดเข้ามาอย่างผิดที่ผิดทาง สิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำให้นักแสดงไม่สามารถสื่อสารอารมณ์มาถึงผู้ชมได้แล้ว อีกนัยหนึ่งยังส่งผลต่อการสร้างภาพจำของตัวละคร ไม่เว้นแม้กระทั่งทีมสมทบอีกหลายสิบชีวิตทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเล็กซึ่งล้วนเป็นยอดฝีมือของวงการ หากแต่ช่องโหว่ของบทกลับฉุดรั้งไม่ให้พวกเขามีโอกาสฉายแสงเท่าที่ควร Goodbye Earth ถึงเวลาต้องลาโลก นับเป็นผลงานจาก Netflix ที่ผู้ชมหลายรายอาจต้องผิดหวัง แม้ซีรีส์จะตั้งต้นด้วยท้องเรื่องสเกลใหญ่อย่างวันโลกาวินาศที่คอยหลอกล่อให้เราใคร่รู้สนใจเมื่อเห็นปกหน้า ทว่าเนื้อในกลับเต็มไปด้วยปัญหารอบด้านไม่ว่าจะเป็นบทโทรทัศน์ การออกแบบตัวละคร และโดยเฉพาะการดำเนินเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย เข้าใจว่าความจำเป็นในการลดทอนบทบาทของนักแสดงบางคนอาจส่งผลให้การตัดต่อติดขัดไม่ลื่นไหล ประกอบกับจำนวนตอนที่มากเกินไปทำให้เรื่องราวยืดยาดน่าเบื่อ ภาพรวมจึงเป็นผลงานที่น่าเสียดายจนไม่อยากแนะนำ ตัวอย่างซีรีส์(YouTube: Netflix K-Content)ติดตามซีรีส์ Goodbye Earth ถึงเวลาต้องลาโลก ออกอากาศแล้ววันนี้ ความยาว 12 ตอน ตอนละ 50 นาที สามารถรับชมทั้งฉบับพากย์ไทยและบรรยายไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง Netflix ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ที่รองรับ รวมทั้งทางกล่อง TrueID TV ได้ด้วยเช่นเดียวกันรูปภาพประกอบบทความจากOfficial X: Netflix K-Contentภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10 | ภาพประกอบที่ 11บทความแนะนำจากผู้เขียนรีวิว Lovely Runner (2024) ซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซีของ บยอนอูซอก x คิมฮเยยุน กับภารกิจข้ามเวลามาเซฟเมนรีวิว Blood Free (2024) ซีรีส์ไซไฟจาก ฮันฮโยจู x จูจีฮุน ฝ่าอันตรายนวัตกรรมเนื้อสัตว์สังเคราะห์รีวิว Chief Detective 1958 (2024) ซีรีส์สืบสวนสายปั่น อีเจฮุน นำทีมสืบคดียุคเมืองเถื่อน