สำหรับช่วงเวลาว่างที่อยู่ในช่วงโควิดแบบนี้ การนั่งดูซีรีส์ช่วยได้เยอะมาก สำหรับเราก็เช่นกันค่ะ เวลาว่างเยอะมากจนได้ซีรีส์เรื่องหนึ่งดู คือเรื่อง Bu Bu Jing Xin หรือ ฝ่ามิติลิขิตสวรรค์ Bu Bu Jing Xin ฝ่ามิติลิขิตสวรรค์ เป็นทีวีซีรีส์จากค่าย Hunan TV ที่ถูกดัดแปลงมาจากนิยายอิงประวัติศาสตร์ เรื่อง เจาะมิติพิชิตบัลลังก์ ที่เขียนโดย ถงหัว (Tong Hua) โดย Bu Bu Jing Xin ฝ่ามิติลิขิตสวรรค์ฉบับทีวีซีรีส์ถูกฉายในประเทศจีนในช่วงปี 2554 และถูกนำมาฉายในประเทศไทยช่วงปี 2558 โดยช่อง 3 และในปี 2015 ซีรีส์เรื่องนี้ได้ถูกนำไปทำเป็นภาพยนต์ซีรีส์เรื่องฝ่ามิติลิขิตสวรรค์ เป็นเรื่องราวของสาวยุคปัจจุบัน(จางเสี่ยว) ย้อนไปในยุคอดีตในรัชสมัยของคังซีฮ่องเต้ โดยที่หลังจากฟื้นขึ้นมาจางเสี่ยวอยู่ในร่างของ หม่าเออร์ไท่ รั่วซี น้องสาวของหม่าเออร์ไท่ รั่วหลัน พระชายารองขององค์ชายแปด โดยที่ร่างของจางเสี่ยวในยุคปัจจุบันนอนอาการโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อิงประวัติศาสตร์ ทำให้นางเอกของเรื่อง คือ หม่าเออร์ไท่ รั่วซี รู้ชะตา ความเป็นไป และจุดจบของเหล่าองค์ชายทั้งหมด และเหมือนรั่วซีจะพยายามล้มเลิกความตั้งใจขององค์ชายแปดในการขึ้นครองบัลลังก์และไม่ประสบผลสำเร็จ จึงไม่ได้สานความสัมพันธ์กับองค์ชายแปดต่อ (แต่ก็ไม่ลืมบอกให้ระวังองค์ชายสี่ไว้ด้วย)รั่วซีมาจากอนาคตทำให้มีความคิดแตกต่างจากคนในยุคนั้นอยู่มากและมีความคิดสร้างสรรค์ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคังซีฮ่องเต้และเหล่าองค์ชายด้วย แต่ชีวิตของรั่วซีไม่ได้ราบรื่นนักหรอกนะคะ รั่วซีเจอกับเรื่องกดดันมากมาย เสียคนไว้ใจ คนที่รัก หักหลังต่างๆ เหตุการณ์หลาย ๆ อย่าง ทำให้รั่วซีปรับมุมมองความคิดว่าตนเองไม่สามารถที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ได้ จึงทำได้แค่ปล่อยวางถึงจะปล่อยว่างแล้วแต่เหมือนรั่วซีก็ยังเก็บทุกอย่างไว้ในใจเสมอค่ะ เรียกง่าย ๆ ก็คงบอกว่า เก็บกด เพราะหลังจากเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างผ่านไป รั่วซีได้รักกับองค์ชายสี่ หลังจากที่ทั้งคู่ได้ใกล้ชิดและรู้จักกันมากขึ้น แต่จะเรียกว่าสมหวังก็คงไม่ถูกนัก เพราะรั่วซีไม่ได้แต่งงานกับองค์ชายสี่ที่ขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน(จักรพรรดิหย่งเจิ้ง) แต่รั่วซีจะเป็นเพียงผู้หญิงของฮ่องเต้เท่านั้นค่ะ แต่เรื่องก็เหมือนจะจบแค่นั้นใช่ไหมคะ แต่เปล่าเลย ระหว่างนั้นรั่วซีตั้งท้องค่ะ แต่ด้วยความเครียดและแรงกดดันที่มาจากรอบตัว รวมถึงพระชายาเอกขององค์ชายแปด(ที่โดนยุแยงให้มาพูดกับรั่วซีอีกที) ทำให้รั่วซีเครียดว่าตนเองเป็นสาเหตุทั้งหมดที่ทำให้เกิดเรื่องจนถึงขั้นแท้งลูกและอาจไม่สามารถตั้งท้องได้อีก นั่นแหละค่ะ ฮ่องเต้(จักรพรรดิหย่งเจิ้ง) โกรธจนถึงขั้นบีบให้พระชายาเอกองค์ชายแปดแยกทางกัน และสุดท้ายพระชายาเอกขององค์ชายแปดก็ฆ่าตัวตาย สุดท้ายรั่วซีความรู้สึกผิดและกลัวว่าเหล่าองค์ชายจะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาดจึงสารภาพกับจักรพรรดิหย่งเจิ้งและองค์ชายสิบสามว่าต้นเหตุทั้งหมดมาจากตัวรั่วซีเอง และเมื่อหย่งเจิ้งรู้ว่าทำไมองค์ชายแปดถึงตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์ ท่าทีของจักรพรรดิหย่งเจิ้งก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชากับรั่วซีและนั่นเองค่ะ รั่วซีทนความเครียดและกดดันไม่ไหว จึงขอให้องค์ชายสิบสี่พาตนออกจากวัง แต่จักรพรรดอหย่งเจิ้งเองก็คงไม่ปล่อยนางไป องค์ชายแปดจึงยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการทูลต่อจักรพรรดิหย่งเจิ้งว่าตนเองและรั่วซีเคยรักกันมาก่อน จักรพรรดิหย่งเจิ้งก็เริ่มควันออกหูเลยค่ะแต่สุดท้ายก็ยอมให้องค์ชายสิบสี่พารั่วซีออกจากวังไป จุดจบของรั่วซีไม่ใช่การใช้ชีวิตสงบสุขในที่ห่างไกลจากวังหลวงหรอกนะคะ เพราะร่างกายของรั่วซีอ่อนแอที่เป็นสาเหตุมาจากความเครียดและแรงกดดันต่าง ๆ มากมาย เเละเป็นผลกระทบทางจิตใจ ทำให้รั่วซีป่วยหนัก และตอนนั้นเองรั่วซีได้เขียนจดหมายฝากให้องค์ชายสิบสี่ไปให้จักรพรรคิหย่งเจิ้ง แต่ยังไม่ทันได้เปิดอ่านจักรพรรดิหย่งเจิ้งก็เขวี้ยงทิ้งลงพื้นเสียก่อน รั่วซีรอจักรพรรดิอยู่นานถึงสามวันแต่ก็ยังไม่เสด็จมา นางจึงเข้าใจว่าจักรพรรดิหย่งเจิ้งหมดรักตนแล้ว และตรอมใจตายในที่สุด หลังจากที่รั่วซีสิ้นใจและจักรพรรดิหย่งเจิ้งทราบเรื่องก็รีบไปที่จวนองค์ชายสิบสี่ทันที จึงทำให้รู้ว่ารั่วซียังรักพระองค์อยู่เสมอกลับมาที่ปัจจุบัน จางเสี่ยวได้ฟื้นจากอาการโคม่าและหายดีในที่สุด หลังจากนั้นจางเสี่ยวก็หาข้อมูลเกี่ยวกับ หม่าเออร์ไท่ รั่วซี แต่เรื่องราวกลับไม่ได้ถูกบันทึกไว้แต่อย่างใด แต่ประวัติศาสตร์จริง ๆ ก็ยังคงอยู่นะคะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลง (ความจริงแล้วเธอเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องบันทึกเรื่องราวของเธอลงบนหน้าประวัติศาสตร์ แต่ก็เหมือนจะลืมไปแล้ว)หลังจากนั้นจางเสี่ยวได้ไปที่พิพิธภัณฑ์ เธอก็รู้สึกคุ้นเคยกับชุดที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ด้วย จนจางเสี่ยวสะดุดเข้ากับภาพวาดของจักรพรรดิคังซีและเหล่าองค์ชาย รวมไปถึงหญิงสาวที่หน้าคล้ายกับเธอ แก้วชาที่เธอออกแบบ และปิ่นปักผม ทำให้จางเสี่ยวรู้ว่าทั้งหมดเธอไม่ได้ฝันไป และในขณะเดียวกันเธอก็ได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าคล้ายกับองค์ชายสี่ แต่ชายคนนั้นไม่รู้จักเธอ ทำให้จางเสี่ยวต้องมองชายคนนั้นเดินจากไปพร้อมน้ำตาค่ะสำหรับเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เข้มข้นมาก ๆ เรื่องหนึ่งเลยค่ะ และดูเหมือนหม่าเออร์ไท่ รั่วซีจะเป็นตัวแปรในหลาย ๆ เรื่องที่เกิดขึ้นกับหน้าประวัติศาสตร์ในตัวซีรีส์ เป็นสาเหตุของการกระทำของเหล่าองค์ชายให้รุนแรงขึ้นจากความหวังดีของเธอเองด้วยจุดสำคัญหลัก ๆ ของเรื่องของได้ถ่ายทอดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรัชสมัยนั้น โดยใช้รั่วซีประกอบเข้าไปและดำเนินเรื่อง อีกทั้งสาเหตุที่ว่านี้ยังทำให้เหล่าองค์ชายต้องแย่งชิงบัลลังก์กันจนทำให้กระทบถึงจิตใจและชีวิตของหลายคนด้วยค่ะBu Bu Jing Xin หรือ ฝ่ามิติลิขิตสวรรค์ ไม่ได้มีแค่ภาคเดียวนะคะ แต่มีสองภาคด้วยกัน เป็นพาร์ทปัจจุบัน ซึ่งภาคสองนี้ก็เจ็บปวดไม่แพ้กันเลยค่ะ จะต่างกันตรงที่ภาคแรกจะค่อนข้างอึดอัดหน่อย เพราะอิงกับประวัติศาสตร์และการชิงบัลลังก์ แต่ภาคสองจะเจ็บปวดกับเรื่องราวความรักมากกว่า และตอนจบแบ่งเป็นสองแบบด้วยค่ะ เรียกน้ำตาได้ทั้งคู่เลยยังไงก็ฝากซีรีส์เรื่องนี้ด้วยนะคะ สำหรับคนที่หาซีรีส์ดูและยังไม่เคยดูเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องที่แนะนำเลยค่ะ ถึงจะเป็นซีรีส์นานแล้วแต่ก็ยังสนุกและได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปพร้อม ๆ กันด้วยค่ะ และในเร็วๆนี้ทาง WeTV จะนำซีรีส์เรื่องนี้มาให้ชมกัน เริ่มวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ Bu Bu Jing Xin Producetion Co. By Hunan TVขอบคุณรูปภาพจาก IMDb รูปภาพประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4 / รูปประกอบที่ 5 / รูปประกอบที่ 6 / รูปประกอบที่ 7