เรื่องกดดัน ความสนุก และความรักที่ 'ไม่ถึงขั้นปิดบัง' ของมีน พีรวิชญ์
โด่งดังเป็นที่รู้จักมาจากซีรีส์วาย สำหรับ นักแสดงหนุ่ม มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร ที่ล่าสุดเขาก็ได้ขยับขยายก้าวขึ้นมาเล่นละครยาวแบบเต็มตัวเป็นครั้งแรกใน ‘เพชฌฆาตจันทร์เจ้า’ ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 3 ซึ่งในด้านหนึ่งเจ้าตัวก็ว่าการได้เข้ามาร่วมงานกับช่อง 3 คือความดีใจ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกดดันปนอยู่
“กดดันตั้งแต่เริ่มออกกอง” มีนรับสารภาพ
อย่างไรก็ดีเมื่อเริ่มมีความคุ้นเคย อะไรๆก็เปลี่ยนไป
“กลายเป็นสนุก” บอกความพลางเผยยิ้ม แล้วว่า “พอสนุกทุกอย่างก็เอ็นจอยไปหมด เลยไม่ได้กดดัน”
ในเรื่องนี้ที่ต้องรับบทเป็น ‘ภพ’ 1 ใน 3 นักฆ่าที่ต้องตามล่านางเอก มีนก็ว่าแรกอ่านบทซึ่งเป็นส่วนของตัวละครตัวนี้ เขาก็นึกในใจว่าต้องเป็นละครแอ็คชั่นดราม่าแน่ๆ
แต่ที่ไหนได้ เพราะเอาเข้าจริงก็มีความเป็นโรแมนติดดราม่า
“ของเราเป็นอีกเส้นหนึ่งที่ฉีกจากเส้นหลัก จะยิ้มน้อย หัวเราะแทบจะไม่มีเลย” เขาว่า
ในการทำงานครั้งนี้ มีนบอกว่าอุปสรรคใหญ่ที่เขาพบ คือการต้องปรับตัวจากที่เคยเล่นซีรีส์-หนัง มาเป็นละคร แถมยังต้องมาร่วมงานกับมืออาชีพอย่าง เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ และ แยม-มทิรา ตันติประสุต ที่ต่างก็มีประสบการณ์เล่นละครมานานนับเป็น 10 ปี
“เรื่องวิธีการเล่น มีนว่ามันก็ต้องต่างกันหน่อย จะต้องเล่นให้ชัดขึ้น ก็ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่เป็นเดือน กว่าจะปรับตัวได้”
โชคดีที่ คุ้ย-ทวีวัฒน์ วันทา ผู้กำกับการแสดงคอยช่วยเหลือ ในการบรีฟให้เข้าถึงบทได้ง่ายและไวขึ้น
“พี่คุ้ยรู้ว่าเราเอาจจะแสดงออกในช่วงแรกๆ ได้ยังไม่ชัดเจน เท่ากับพี่ๆ เขาก็จะบรีฟเราให้เข้ม ให้มันแรงมากขึ้น สมมุติซีนนี้เราต้องยิง ก็จะบรีฟว่าอินเนอร์ขอแบบ ไอ้นี่มันฆ่าบ้านยกโคตร แล้วถ่มน้ำลายใส่ด้วย เอาอินเนอร์แบบนี้เลย”
และความที่เป็นบทนักฆ่า งานนี้แฟนๆ ก็เลยได้เห็นฉากเรียกยอดไลก์กับการถอดเสื้อโชว์กล้ามล่ำๆ ซึ่งนักแสดงหนุ่มก็ว่ากว่าจะได้อย่างที่เห็น เขาก็ต้องปรับเปลี่ยนหุ่นจากเดิมนิดหน่อย
“ที่ไปทำการบ้านมา คือจะต้องมีช่วงสะพานคอเยอะ หนา แข็งกว่าคนอื่น”
เวลาไปออกกำลังกายก็จะเน้นเล่นเพื่อเสริมสร้างช่วงดังกล่าว
ขณะเดียวกันก็ยังตกลงกันด้วยว่า ถ้าหากจะมีฉากถอดเสื้อเขาก็จะได้รับการแจ้งล่วงหน้า 2-3 อาทิตย์ให้เตรียมตัว
“แล้วก่อนเข้าฉากก็มีวอร์มนิด ปั๊มหุ่นหน่อย สักประมาณ 10 นาทีก่อนจะเล่น”
และก็ได้รับฟีดแบคที่ดีกลับมาสมกับความทุ่มเทอย่างที่เห็น
มีนเผยด้วยว่า ช่วงก่อนหน้านี้เขาเกือบจะมีโอกาสจะได้ไปทำงานโลดแล่นที่ต่างประเทศแล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกแคนเซิล ด้วยเหตุจากการระบาดของไวร้สโควิด-19
“ช่วงแรกสุด ตอนโควิดเข้ามาครั้งแรก กำลังมีงานต่างประเทศอยู่ 2-3 ประเทศ” มีนเล่า
และก็นั่นแหละ “สุดท้ายก็แคนเซิลหมด”
รวมไปถึงงานในเมืองไทย แต่อย่างไรก็ตามเขาว่ายังโชคดีที่พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง จากนั้นก็ต้องปรับตัวเหมือนกับคนอื่นๆที่ได้รับผลกระทบทั้งในเรื่องการใช้ชีวิต และเศรษฐกิจการเงิน
สำหรับเรื่องราวความรักกับ ดรีม-อภิชญา พานิชตระกูล ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง มีนบอกว่า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้ตกลงกันถึงขั้นเรียกว่าเป็นแฟน
แต่กระนั้น “ก็พัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆ”
“ตอนนี้ถ้าถามตรงๆ มันก็คือการคุยกันไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ”
ส่วนเรื่องดราม่าที่เคยเกิดขึ้น โดยว่ากันว่าแฟนคลับของเขาไม่ปลื้ม ในเรื่องนี้ มีนบอก “ไม่มีใครอยากเป็นเป้าให้ถูกว่า กับการกระทำที่ตัวเองก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”
“ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็อาจจะรับฟังเป็นข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ แต่ถ้าอันไหนที่รุนแรงเกินไป หรือกระทบจิตใจก็แนะนำให้ข้ามๆไปบ้าง”
ส่วนที่เขาไม่ค่อยอยากจะพูดเรื่องความรัก มีนบอกว่ามีสาเหตุจากความเกรงใจแฟนคลับอยู่เหมือนกัน
“เราก็เกรงใจ” เขาบอก
แต่ถึงอย่างนั้น “ก็ไม่ถึงขั้นปิดบัง อยากค่อยๆเป็น ค่อยๆไป”
ขณะเดียวกันเรื่องของการไม่รู้ว่าอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ไม่อยากให้สิ่งพวกนี้อยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต หรือถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นมากเกินไป ก็เป็นอีกเหตุผล
“สุดท้ายมันก็มีมุมมองที่เรารู้กันแค่ไม่กี่คน เลยไม่ค่อยได้เปิดเผยเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นปิดบังว่าฉันต้องใส่หมวก ใส่แว่นไปกินข้าว ก็ใช้ชีวิตปกติ”
ฝ่ายหญิงเองก็โอเคกับการคบกันในรูปแบบนี้
“เป็นสิ่งที่คุยกันแล้วตั้งแต่แรก ว่าไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบนี้ ไลฟ์สไตล์เขาเป็นแบบนี้”
“มันถึงจะสามารถสานต่อความสัมพันธ์กันได้”