นี่น่าจะเป็นหนังโปรแกรมยักษ์ที่น่าดูที่สุดแล้วในช่วงนี้ สำหรับหนังที่สร้างมาจากเกมชื่อดังของ Sega กับภาพยนตร์เรื่อง Sonic The Hedgehog และเป็นการกลับมารับบทภาพยนตร์ของ Jim Carrey หลังจากหายหน้าหายตาไปในแผ่นฟิลม์ถึง 4 ปี (เรื่องก่อนหน้านี้คือ Dark Crimes)Sonic The Hedgehog เล่าถึงเรื่องการผจญภัยของโซนิค เจ้าเม่นสายฟ้าที่มีความเร็วสูง ที่อาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ เพื่อหลบภัยจากการตามล่าในโลกของโซนิค แต่หลังจากที่อยู่อาศัยบนโลกมนุษย์แล้วนั้น โซนิคดันไปก่อเรื่องเข้า โดยทำให้ไฟฟ้าทั้งเมืองดับ โซนิคจึงถูกไล่ล่าจากด็อกเตอร์โรบ็อทนิก (จิม แคร์รี่) ทำให้โซนิคต้องไปหลบภัยที่เกาะเห็ด แต่แหวนของโซนิคกลับไปตกอยู่ที่ตึกที่สูงมากในซานฟรานซิสโก โซนิคจึงต้องขอความช่วยเหลือจากทอม (เจมส์ มาร์สเดน) ในการเอาแหวนกลับมา และหยุดยั้งด็อกเตอร์โรบ็อทนิก ที่ไล่ล่าจับโซนิค และทุ่มใข้พลังอย่างมหาศาลเพื่อที่จะครองโลกหลังจากที่เลื่อนฉายไปจากการแก้ CGI โมเดลของโซนิค ที่ทำให้แฟนเกมและแฟนหนังบ่นอุบ ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีสำหรับการแก้ไข CGI ในครั้งนี้ และหนังน่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากตัวหนังทำออกมาได้ดีตามคุณภาพของหนังที่เรียกว่าหนังเด็กครับ การเล่าเรื่องง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี แนะนำให้จูงมือลูกหลาน พาลูกหลานไปดูครับ รับรองเด็ก ๆ ชอบแน่นอน รอบที่ผมไปดูเด็กเยอะพอสมควรในส่วนของนักแสดง ถือว่าทำได้ดีในระดับปานกลาง (ยกเว้นจิม แคร์รี่ ที่เล่นใหญ่มากในเรื่องนี้) รวมถึงการพากย์ของตัวโซนิค ที่ทำออกมาได้โอเค พอดูได้ สิ่งที่ทดแทนการเล่าเรื่องที่ธรรมดานั่นก็คือ ความสนุกของหนัง ทั้งฉากแอ็กชั่นที่ถึงแม้จะไม่เยอะ แต่ทำออกมาได้ดีและสนุก และการยิงมุกของหนัง ที่ยิงระดับที่ค่อนข้างถี่ ฮาบ้างแป้กบ้าง รวมถึงจิม แคร์รี่ ที่เล่นในสไตล์ตลกที่หลายคนคุ้นเคย ซึ่งการแสดงของเขาทำให้หนังออกมาสนุก และโคตรเพลินเลยครับข้อเสียของหนังเรื่องนี้คือ ความสัมพันธ์ของตัวละครดูธรรมดาเกินไป และหนังไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่ ดูเสร็จแล้วผ่านไปเดือนนึงผมก็คงลืมละ สรุปหนังเรื่องนี้ถือว่าพอดูเอาสนุก ๆ ได้ครับ ไม่ต้องสนใจอะไรมาก เอาความบันเทิงอย่างเดียว ทิ้งสมองไปดูเอาครับ แนะนำพาลูกหลานไปดูด้วย เอ็นจอยแน่นอนSonic The Hedgehog - 7/10ภาพจากเพจ Sonic The Hedgehog