Before Sunrise หนังรักที่พาคุณดื่มด่ำ ในบทสนทนา และ ความรักยุคอนาล็อกในยุคที่ไม่มีอินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือ ความรักจะถูกส่งต่อหากันไปทางไหนกันนะ ในยุคที่ไร้ Social Media แต่ละคู่เขาไปพบรักกันได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่เด็กยุคใหม่ที่โตมาพร้อมกับความเร็วของอินเทอร์เน็ตแบบ 4G หรือ โตมาพร้อมไอแพดจอใหญ่รูดปรื๊ด ๆ คงไม่มีทางนึกภาพออกแน่ ถ้าคิดถึงกันมาก ๆ แล้วเราจะทำยังไง ถ้าอยากเจอกันมาก ๆ ตอนนี้ แล้วเราจะติดต่อกันยังไง เพราะเหตุนี้ละมั้งที่กลายเป็นเสน่ห์ทำให้หนังรักยุคอนาล็อกถึงยังคงคลาสสิกมาได้ถึงทุกวันนี้ อย่างภาพยนตร์รัก Before Sunrise (1995) ที่ในปี 2020 นี้ก็ครบรอบ 25 ปีพอดีแล้ว ผลงานการสร้างของ ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์ ที่ประสบความสำเร็จจนกลายเป็นหนังรักไตรภาค Before Trilogy อย่าง Before Sunrise (1995), Before Sunset (2004) และ Before Midnight (2013) ที่สำคัญยังคงรับบทโดยนักแสดงคู่เดิมที่กลายเป็นขวัญใจคนทั่วโลกไปแล้วอย่าง Ethan Hawke (รับบท เจส) และ Julie Delpy (รับบท ซีลีน)พล็อตหนังของเรื่องนี้อ้างอิงมาจากเรื่องจริงของผู้กำกับ เมื่อเขาได้ไปพบกับหญิงสาวแปลกหน้าในรถไฟโดยบังเอิญ แม้ว่าทั้งคู่จะเพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก แต่ได้ใช้เวลาตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงเช้า เดินเล่น พูดคุยกันเรื่อยเปื่อยด้วยกันไปได้เรื่อย ๆ อย่างไม่รู้เบื่อ . . กลายมาเป็นหนังรักสุดคลาสสิก เมื่อ เจส และ ซีลีน ได้พบกันโดยบังเอิญบนรถไฟขบวนหนึ่ง แม้ว่าทั้งคู่จะมีจุดหมายปลายทางที่ต่างกันแต่ด้วยความรู้สึกดีต่อกันอย่างประหลาด ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจกระโดดลงรถไฟลงไปเที่ยวกันที่ เวียนนา ออสเตรีย ระหว่างทางเต็มไปด้วยบทสนทนามากมาย ชีวิต ครอบครัว ความฝัน ความรักในอดีต ภายในค่ำคืนนั้น ทั้งคู่ได้เรียนรู้กันผ่านบทสนทนาที่ไหลหลื่นไปไม่มีสะดุด เรียบง่ายแต่งดงาม โรแมนติกและสมจริงในยุคดิจิตอล ความรักถูกส่งผ่านกันด้วยข้อความ เริ่มต้นด้วยข้อความ จบลงด้วยข้อความ หลายคู่แทบไม่เคยมองหน้าสบตา และสนทนากันจริง ๆ สักครั้ง เพราะเมื่ออยู่ด้วยกัน ก็ถูกอุปกรณ์สื่อสาร และคนอื่น ๆ ในโลกอินเทอร์เน็ตแย่งความสนใจไป . . นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เรารักภาพยนตร์เรื่องนี้มาก เพราะมันคือยุคของอนาล็อก ที่เราไม่สามารถละทิ้งแม้แต่เสี้ยววินาทีไปได้ เราไม่ได้มีไลน์ที่จะส่งข้อความบอกรัก บอกคิดถึงกันเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เรามีเวลาแค่ตอนนี้ ตรงนี้ และนาทีนี้เท่านั้น ที่จะใช้ทุกนาทีให้คุ้มค่ากับคนตรงหน้าให้ได้มากที่สุด . . ความรักจะมีค่า เมื่อได้ใช้เวลากับมัน ใช้เวลาในการเรียนรู้กันและกัน ใช้เวลาในการรอคอย ใช้เวลาในการเดินทางมาหากัน ให้ความคิดถึงได้เว้นระยะทางบ้างตลอดทั้งเรื่อง หลายคนที่ดูอาจจะหาวบ้าง เบื่อบ้าง เพราะหนังไม่ได้มีพล็อตอะไรหวือหวาตื่นเต้น แต่กลับเป็นหนังรักธรรมดา ๆ ที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตเราจริง ๆ หากตั้งใจฟังบทสนทนาให้ดี บทสนทนานั้นเป็นเรื่องราวจริงที่เกิดในชีวิตเราทุกคน ความฝัน วัยเยาว์ ครอบครัว รายการทีวีรายการโปรด ไม่แปลกใจว่า หากเป็นคนที่เราตกหลุมรัก เราคงอยากฟังเรื่องของเขาทั้งวันอย่างไม่รู้สึกเบื่อหรือรำคาญ นั่นก็คงเกิดขึ้นกับ เจส และ ซีลีน ที่ทั้งคู่โปรดปรานที่จะได้คุยกัน และฟังเรื่องของอีกฝ่ายเสมอ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ดูเหมือนไม่ได้สำคัญอะไรก็ตาม . . อย่างฉากที่ทั้งคู่คุยกัน โดยแกล้งทำทีว่าเป็นโทรศัพท์แนบหู ฉากนี้ก็เป็นฉากคลาสสิกที่คนรักหนังทุกคนที่ดูเรื่องนี้จะต้องจำได้แน่นอน (ปล. ฉากนี้ ซีลีน น่ารักมาก ๆ )แม้ว่าทั้งคู่จะดื่มด่ำกับช่วงเวลาดี ๆ ด้วยกันอย่างเต็มที่แล้ว แต่เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ทั้งคู่ก็ต่างรู้ดีว่าต้องแยกจากกัน . . ซึ่งคนดูอย่างเราก็ต่างลุ้นว่า ทั้งคู่จะกลับมาเจอกันได้อีกไหม หนังจะจบอย่างไร? และเป็นไปอย่างที่คิด คือจนแล้วจนรอดก็ไม่ยอมมีใครปริปากพูดถึงการสานสัมพันธ์ต่อ อาจจะเป็นเพราะว่าด้วยระยะทาง และยุคนั้นก็ติดต่อสื่อสารกันลำบาก ทั้งคู่เลยคิดว่าคงไม่มีทางที่จะได้กลับมาเจอกันได้อีก . . ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันที่สถานีรถไฟ ต่างคนต่างใช้เวลาในช่วงวินาทีสุดท้ายบอกความในใจออกมา และสับสนว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เพราะต่างฝ่ายก็ต่างตกหลุมรักกันมากเสียแล้ว ทั้งคู่ได้นัดกันว่า ในวันนี้อีกกี่เดือนข้างหน้าเราจะมาเจอกันตรงนี้อีกครั้ง สำหรับเราแล้ว มันเป็นการจบที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ โดยเฉพาะกับคนรุ่นหลังที่เกิดมาพร้อมกับมือถือแล้ว และคงไม่เข้าใจสถานการณ์นั้นแน่ ๆ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราได้เข้าถึงความรักนยุคอนาล็อก การรอคอยที่ช่างแสนมีความหมาย อาการอมยิ้มเมื่อนึกถึง อาการตื่นเต้นเมื่อจะได้เจอกันอีกครั้ง ดูแล้วอดคิดไม่ได้ว่า ความรักในยุคอนาล็อกนั้นน่าจะมั่นคง และละเมียดละไมมากกว่าในยุคที่เร็วอย่างนี้ . . หากใครชอบหนังรักคลาสสิกช้า ๆ พร้อมวิวสวย ๆ ของเวียนนา ก็ลงกระโดดลงจากรถไฟตาม เจสซี กับ ซีลีน ไปด้วยกันนะคะ :)รับชม Marriage Story ได้แล้วทาง Netflix ผ่านกล่อง Trui-IDขอบคุณรูปภาพจาก : https://www.netflix.com/title/293391