อยู่บนคานพันล้านก็อยู่ได้! กาละแมร์ พัชรศรี เปิดใจเรื่องรัก ไม่มีสามี แต่มีเงินก็แฮปปี้! (มีคลิป)
ข่าวบันเทิงวันนี้
นาน ๆ จะมีโอกาสได้ออกมาพูดเรื่องความรักสักที สำหรับพิธีกรแถวหน้าของวงการ "กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ" ที่งานนี้เจ้าตัวจัดหนักจัดเต็มเปิดหมดเปลือก เล่าทุกโมเมนต์ในช่วงชีวิตหัวใจ ในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ว่าแฮปปี้ชีวิตโสด! มากในตอนนี้ ไม่ไขว่คว้าหาแฟน ออกตัวเป็นคนเลือกเยอะ-เรื่องเยอะ เพราะอยากได้คนที่ใช่และเข้าใจเรา ถ้าไม่หาไม่ได้ ก็ไม่มีดีกว่า ไม่กลัวขึ้นคาน บอกถ้าอยู่คาน 100 ล้าน ไม่ต้องมีผู้ชายก็ได้ สามารถอยู่ตัวคนเดียวได้แบบมีความสุข
จุดเปลี่ยนจุดหนึ่งเลยที่ทำให้คนได้รู้จัก กาละแมร์ มากขึ้น คือการที่ออกพ็อกเก็ตบุ๊คซึ่งแรงมาก?
กาละแมร์ : ผู้ชายเลวกว่าหมาไม่ได้มาจากดาวอังคาร เรามาเปิดอ่านหนังสือของตัวเองตอนที่อายุมากขึ้น พอเราได้อ่านคือ เราอุทานกับตัวเองเลยว่าแรงมาก! อีนี่แรงมาก แต่คือ เนื้อเรื่องข้างในคือ ความจริงทั้งหมดที่ทั้งตัวเราเจอและเพื่อนเจอในวัย 20 กว่า แก่นแก้ว ก๋ากั่น ตอนนั้นที่เราเขียนแบบเอามัน ณ ตอนนั้นคือลงในหนังสือ สุดสัปดาห์ แล้วผู้ชาย คือ รออ่านลุ้นว่าจะเป็นเรื่องของตัวเองไหม ตอนนั้นก็จะมีผู้ชายใกล้ตัวมาถามเราว่า แมร์ ไม่เขียนเรื่องพี่เหรอแบบนี้ด้วย
ขอบคุณคลิปจากรายการ คลับฟรายเดย์โชว์
เพราะหนังสือเล่มนี้ไหมที่ทำให้ผู้ชายกลัวแมร์?
กาละแมร์ : คือ เราไม่ได้คิดประหัตประหารอะไรกับใคร แต่มุมมองในความเป็นผู้หญิงแบบว่า ความเจ็บปวดมันมี ความเจ็บซ้ำมันมี แต่ข้างในมันไม่ได้มีอะไรมากเท่าชื่อ คือ เมื่อก่อนเราเป็นคนหมกมุ่นในเรื่องของความรัก เพราะเราอยากมีแฟน อยากรู้ว่าผู้ชายพูดแบบนี้ ทำแบบนั้นหมายถึงอะไร เราอยากเข้าใจเพศตรงข้าม ซึ่ง when are form Mars women are from venus เป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อหนังสือ ซึ่งคนที่ตั้งชื่อ ผู้ชายเลวกว่าหมาและไม่ได้มาจากดาวอังคาร เป็นพี่นักเขียนรุ่นใหญ่ ที่เป็นที่ปรึกษาในด้านการเขียน เขาตั้งให้ในวันที่เราเสียใจกับหนังสือเล่มแรกที่ไม่สำเร็จ เขาก็ปลอมเราว่าไม่ต้องเสียใจนะพี่ตั้งชื่อเล่มต่อไปไว้ให้แล้ว เราก็หายเศร้าเลยแล้วถามพี่เขาว่าเขาตั้งได้ยังไง มันมากเลยนะ พอเราเอาไปบอกเพื่อนผู้หญิง ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกับเรา แต่เราถามแต่ผู้หญิงลืมถามผู้ชาย
กาละแมร์ พัชรศรี พิธีกรฝีปากกล้า สวย โสด
กาละแมร์ เป็นผู้หญิงที่ทำงานๆเอาความสุขไปผูกไว้ที่เรื่องของงาน เป็นคนที่มั่นใจแข็งแกร่ง จนสโลแกนในชีวิตของน้องเปลี่ยนไปไม่มีผัว แต่มีเงิน จะได้ยินคำว่าเงินจาก กาละแมร์ เยอะมาก
กาละแมร์ : (หัวเราะ) คือหนูแค่ย้ายโฟกัส เมื่อก่อนเราทำงานแล้วเราก็มีแฟน ซึ่งมันเป็นคู่ขนานและต้องลงแรงทั้งคู่เลยนะ คือ ลงใจและลงแรงให้กับทั้งคู่เลย แล้วมาวันหนึ่งทุกอย่างเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือตัวแสดงมันเป็นวงจรแบบ รัก เลิกทะเลาะ เสียใจวนไปแบบนี้เรื่อย ๆ จนเราเบื่อ แล้วเราก็ได้มาค้นพบศักยภาพบางอย่างในตัวเองนอกเหนือจากการเป็นพิธีกร ก้าวข้ามความกลัวบางอย่างในชีวิต แล้วเผชิญหน้ากับความฝันที่รอเราอยู่ คือ เราอยากเป็นเจ้าของธุรกิจในสิ่งที่ตัวเองสนใจ พอเราไม่ได้เอาใจไปยุ่งเกี่ยวกับความรักเหมือนเมื่อก่อนแล้วเราก็เอาพลังกาย กับใจมาทุ่มให้กับธุรกิจของเราเลย แล้วเราก็ตั้งเป้าเงินเลยการตั้งเป้าเงินเป็นอะไรที่จับต้องได้มันเหมือนกับการเล่นเกม มันคือ ความมันระหว่างทางมันไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว แต่ตอนที่มาทำธุรกิจคือการที่เราต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเลย เราชอบกับสิ่งที่เราเริ่มต้นใหม่มากเพราะเราต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด คือ เราใช้พลังแห่งการรักใครสักคน มาเป็นความรักและแรงบันดาลใจในงานของเรา เรามองงานของเราให้เป็นเหมือนเราได้เจอผู้ชายคนหนึ่งแล้วเราตกหลุมรัก ทำยังไงเราถึงได้เจอ พิชิตใจเขาได้
แล้วคิดไว้บ้างไหมว่าเมื่อประสบความสำเร็จที่จุดนั้นได้ โดยก็ยังมีส่วนอื่น ๆ เข้ามาร่วมระหว่างทางได้ด้วย
กาละแมร์ : เผอิญว่าเรายังไม่เจอผู้ชายที่น่าสนใจพอให้มันเบียดเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้ คือ เราไม่ได้ปิดนะเพียงแต่เราไม่ได้เปิดตามอง อย่างพอเราไม่ปิดเรดาร์ เราไปงานเลี้ยงกับเพื่อนแล้วเพื่อนเราสะกิดว่าผู้ชายมองเรายังมองไม่เห็นเขาเลย ตอนนี้เราเปิดเรดาร์เฉพาะว่าเราจะทำงานกับงานของเรายังไงให้ประสบความสำเร็จ
แล้วอกหักของ กาละแมร์ ที่สุดคือ เกิดขึ้นตอนไหน?
กาละแมร์ : ถ้าเราจับได้ 1 ครั้ง คือ เราเลิกเลย หลายคนบอกว่าโหดร้ายใจร้าย แต่เราให้โอกาสคุณมาตลอดการคบหา ถามว่าเราร้องไห้เสียใจไหม เราก็ร้องไห้เหมือนในมิวสิกวิดีโอ แต่สุดท้ายเราก็บอกตัวเองว่าพอแล้วไหมแล้วเราก็โทรบอกเลขาเลยว่ารับงานเลยเยอะๆ คือ มันเป็นการย้ายโฟกัส ไม่งั้นความรู้สึกเราจะเล่นซ้ำๆแล้วเราก็บอกพี่อ้อยว่าช่วงนี้ขอไม่ฟังเพลงเศร้านะคะ ต้องย้ายก่อนเลยไปฟังเพลงอะไรที่ฮึกเหิมเลยตอนนั้น
เคยมีไหมที่คนที่เขาทำผิดกับเราแล้วกลับมาขอโทษและขอโอกาส แล้วเราให้โอกาสเขาไหม
กาละแมร์ : เคยมีนะคะ คือ ตอนนั้นแบบเรานิสัยเด็ก ๆ แล้วมันไม่เข้าใจ แล้วพอเราโตขึ้นแล้วเราได้มาเจอกันและลองคุยกัน แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดอยู่ดี
หลาย ๆ ความรักที่ไปไม่รอดเพราะเขา หรือ เพราะเรา
กาละแมร์ : มันก็ต้องประกอบกันมันก็แค่การที่เขามีคนอื่น หรือการที่เราคิดว่าเขาไม่ใช่ล่ะ มันก็ต้องประกอบไปด้วยคนสองคน ถ้ามาถาม ณ วันนี้นะ ไม่ได้โทษใคร ไม่ได้โทษเขาไม่ได้โทษเราทุกอย่างมันเกิดขึ้นมันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเสมอ แฟนเก่าบางคนชอบรู้สึกผิดอยู่นั่นแร่ะ แล้ววันเกิดเราเขาชอบส่งข้อความมาขอโทษ เราเลยบอกเขาว่าเลิกส่งมาขอโทษสักที ทุกวันนี้รวยขึ้นก็เพราะเลิกกับเธอ เพราะเราไม่เคยคิดโกรธเกลียด หรือ ว่าอะไรใครอยากมาปรึกษาอะไรเราให้คำปรึกษาได้
เมื่อก่อนเราเคยคิดว่าการมีแฟน คือ สรณะ ถ้าฉันไม่มีแฟนดูเหมือนไม่มีคุณค่าในตัวเองแล้วมันมาเปลี่ยนตอนไหนที่ไม่มีใครก็ได้
กาละแมร์ : ตอนวันที่เราเป็นโสด เราคิดว่าเราต้องอยู่กับตัวเองให้ได้ ช่วงนั้นเราอ่านและฟังธรรมะเยอะมาก ทำให้เราคิดได้ว่าถ้าไม่มีแฟน หรือ ไม่มีใครลองยืนด้วยขาตัวเองให้ได้ ทำให้เรามีความรู้สึกมันดีแบบนี้เลยเหรอ ดีในแง่ที่ว่าฉันเริ่มรักตัวเองเป็นแล้ว จากที่เมื่อก่อนหัวใจฉันต้องฝากไว้ที่ใคร ต้องฝากไว้ที่เขาตลอดเวลา ผูกเขาไว้ตลอดเวลา ก็เริ่มทำตามแบบที่ตัวเองชอบบ้าง งานอดิเรก และ เริ่มเดินทางคนเดียว เพราะเมื่อก่อนเราต้องเริ่มว่าเธอจะไปไหน ทำอะไร แต่วันนี้ ฉันอยากเดินทาง ฉันอยากไปที่นี่ งั้นฉันไป มันเหมือนนกที่ได้บินไปเดี่ยว แล้วเชื่อใจในปีกของตัวเอง นี่มันคือความสุขของชีวิตที่เราไม่เคยได้สัมผัสเลย เพราะเรามัวแต่เอาความสุขของเราไปฝากไว้กับอีกคน
เพราะคิดแบบนี้หรือเปล่า เลยไม่มีแฟนอีกเลย
กาละแมร์ : มันก็มีคนเข้ามานะคะ ไม่ได้ปิดตาย ก็เรียนรู้กันไป ถ้าไม่เวิร์กก็เลิก ก็ไม่ได้ต้องมายื้ออะไรกัน
ความสุขของกาละแมร์ คือ การไปถึงเป้าหมายแล้วความสุขระหว่างทางของ กาละแมร์ คือ อะไร
กาละแมร์ : คือ การที่เราได้ชนะใจตัวเอง การที่ทำพันล้านของเราเราต้องผ่านอะไรเยอะมาก ที่เราตั้งเป้าหมายยาก ๆ เหมือนเราได้ฝึกวิชา เราต้องฝืนความต้องการ ความแบบสบายของตัวเองเยอะมาก อย่างช่วงโควิด มันคือช่วงแห่งการวัดใจเลย หนูคุยกับหุ้นส่วนเลยว่าเอาไงดี เขาเลิกกิจการกันนะ เขาหยุดกันทั่วโลก เราหยุดไหมคือหุ้นส่วนบอกเขาเห็นเราเหนื่อยมากเพราะเราเป็นทัพหน้าเขาบอกเราถ้าเหนื่อยหยด แต่เราคิดว่าเราสวนกระแสเลยยอดสั่งของเราพอหลังโควิดเพิ่มเท่าทวีคูณดั่งนั้นมันอยู่ที่ใจนิดเดียว
พิธีกรเก่งกล้า มีความสามารถ มันยิ่งทำให้เราหาผู้ชายสักคนหนึ่งยากหรือเปล่า
กาละแมร์ : หนูต้องการแค่ผู้ชายคนเดียว คือเราหามาเยอะแล้ว เรามีมาเยอะแล้ว ดังนั้นเราต้องการของคุณภาพแค่อย่างเดียวเท่านั้นเอง แต่ถ้าสุดท้ายถ้าไม่มี หนูก็มีตัวเองเป็นเพื่อนนะ แล้วคือเราไม่ได้กลัวการที่เราไม่ได้อยู่คนเดียว คือ เราจะบอกว่าถ้าคุณไม่ได้มาเป็นเราคุณจะไม่รู้ว่า ถ้าคุณรู้ใจตัวเองเพียงพอว่าคุณชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีความสุขกับอะไร อะไรที่ทำแล้วหัวใจคุณพองโต การไม่มีแฟนไม่ได้แปลว่าคุณไม่มีกัลยาณมิตร เรายังมีเพื่อนที่ดีๆ มีคนรอบข้าง แท้ที่สุดก็คือ เรายังมีตัวเราเป็นมิตรที่ดีที่สุดแล้วเรารู้เลยว่าตัวเราไม่ทิ้งเราไปไหนแน่นอน ดังนั้นถ้ามันไม่ได้มีแล้วให้เราบวกขึ้น หนูก็พร้อมที่จะอยู่คนเดียว