คิดว่าคนที่เป็นอัมพาตจะช่วยเหลือตัวเองได้ยังไงบ้าง นั่นคือโจทย์ของหนังที่ตั้งคำถามกับคนดู เมื่อได้ดู Trailer ของหนัง Don’t move อย่าขยับ ในแวบแรก รู้เลยว่านี่คือหนังสยองขวัญ ฆาตกรโรคจิตที่ตามไล่ฆ่า ใช่มันเดาเรื่องได้ไม่ยาก แต่ก็อยากรู้ว่านางจะเอาตัวรอดได้ไหม หนังสตรีมเมื่อ 25 ตุลาคม ที่ผ่านมานี่เอง ช่วงเทศกาลฮาโลวีนพอดี รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เนื้อเรื่อง Don't move ผู้หญิงคนหนึ่งออกจากบ้านเพื่อไปยังสถานที่ที่ลูกชายของเธอเสียชีวิต และเธอก็คิดจะกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย แต่ทว่ามีชายคนนึงนามว่าริชาร์ดเดินเข้ามาพูดคุยจนทำให้เธอเปลี่ยนใจ ไอริสสาวผู้คิดฆ่าตัวตายเดินตามชายแปลกหน้ากลับไปยังรถ แม้ว่าเธอจะระวังตัวแล้วขณะกำลังจะขึ้นรถเพื่อกลับบ้าน แต่เธอก็ถูกทำร้ายด้วยปืนไฟฟ้า จนทำให้หมดสติ และฟื้นขึ้นมาที่เบาะนั่งด้านท้ายรถของริชาร์ด ถูกมัดมือมัดเท้า และแน่นอนว่าเธอพยายามเอาชีวิตรอดจนสามารถหนีออกมาจากรถได้แต่ ริชาร์ดบอกว่าได้ฉีดยาเข้าไปในตัวเธอ และ เธอมีเวลาเพียง 20 นาทีก่อนที่จะสูญเสียการควบคุมตัวเอง เริ่มจากนิ้วก่อน กล้ามเนื้อ หลังจากนั้นไปติดตามลุ้นกันต่อเอานะ https://www.youtube.com/watch?v=q0GpvLLMVQ4 งานสร้าง นั้นก็ถือว่าทำได้ตามมาตรฐานของหนังสยองขวัญทั่วไป ฆาตกรไล่ล่าเหยื่อ สร้างความกดดันเพื่อให้เหยื่อกลัว แต่ที่น่าแปลกคือปกติหนังสยองขวัญเรามักจะเห็นฉากหนังมืดๆ แต่เรื่องนี้ฟ้าสว่างตลอดทั้งเรื่อง แม้จะมีตัวละครหลักเพียงแค่สองคน แต่หนังก็พาให้เรานั่งดูจนจบได้แบบได้ความสนุกอยู่ Kelsey Asbille แสดงเป็น ไอริส Finn Wittock แสดงเป็นริชาร์ด ต้องบอกว่าตัวไอริสนั้น เราอาจจะคิดว่าแสดงง่าย แค่นอนเฉยๆ ทำตัวแข็งๆ แต่เมื่อได้ดูแล้วจะรู้ว่า การแสดงออกทางใบหน้าของเธอนั้นทำออกมาได้ดี ไม่พูดแต่เราก็เข้าใจว่าเธอจะสื่ออะไร ส่วนตัวร้ายนี่ แม้หน้าจะไม่ร้าย แต่มันดูกวนยั่วโมโหยังไงไม่รู้ หนังไม่ค่อยเล่าถึงปูมหลังของตัวละครเท่าไร มิติตัวละครดูตื้นๆ ทั้งคู่เลย https://www.youtube.com/watch?v=MP5KMGqySBo หลังจากดูจบ การดิ้นรนเอาตัวรอดของมนุษย์เมื่อมีภัยมันก็มีทั้งเรื่องบังเอิญและความพยายามอยู่ แม้ว่ากระนั้นเราจะรู้สึกอ่อนแอ และพ่ายแพ้เพียงใดก็ตาม หนังไม่โชว์ความฉลาดของตัวเอกแบบเหนือๆ ในการแก้ไขสถานการณ์ ซึ่งก่อนดูแอบหวังนิดนึง จริงๆ ชอบพล็อตเรื่องตรงอัมพาตเนี้ยละ แต่ความรู้สึกโดยส่วนตัว หนังน่าจะทำได้ดีกว่านี้ มันเลยรู้สึกไม่ค่อยว้าว เดาได้เลยว่าฉากต่อไปจะเจออะไร เมื่อเราดูจบแทบจะไม่มีภาพจำอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย แต่ก็ถือว่าดูสนุกอยู่ตามมาตรฐานหนังสยองขวัญหนีฆาตกร แต่หนังก็สร้างกำลังใจในการในชีวิตได้ดีในระดับหนึ่ง สายที่ชอบดูตัวละครโดนกดดันก็ไปลุ้นกันได้เลย Credit ภาพปก 1, 2 IG : RaimiProductions วิดีโอประกอบที่ 1, 2 Youtube : Netflix ภาพประกอบที่ 1, 2 IG : RaimiProductions ภาพประกอบที่ 3, 4 IG : finnwittrock เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !