เป็นช่วงเช้า สาย ๆ แสงแดดอ่อน ๆ สาดแสงมากระทบกับพื้นผิวน้ำใส ทำให้มองทะลุถึงในน้ำด้านล่าง เห็นตัวปลาแหวกว่ายไปมา และพืชน้ำอยู่เต็มหนอง ช่างเป็นช่วงเช้าที่แสนอบอุ่น และเย็นสบาย อากาศปลอดโปร่ง โล่งลมโกรก เมื่อยืนอยู่ปลายสะพานที่ยื่นออกมาจากฝั่งท่าน้ำบ้านคุณปู่ ทำให้ผู้เขียนรู้สึกผ่อนคลาย ฤดูกาลอยู่ในช่วงปลายหน้าร้อน ( เมษายน 2561 ) ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศ มรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นของคุณทวด มาให้คุณปู่ เช้า ๆ สะพานท่าน้ำที่ยื่นออกมากลางหนองน้ำขนาดใหญ่ ที่อุดมไปด้วยสัตว์เล็ก ๆ และพืชน้ำนานาชนิดหล่อเลี้ยงชีวิตชาวชนบทหมู่บ้านนี้มาหลายรุ่น ผู้เขียนอดนึกถึงบรรยากาศในหนังเกาหลีเรื่องหนึ่งไม่ได้เลย ที่เล่าถึงชีวิตของ 2 สาว ที่เป็นวัยรุ่น เติบโตมาด้วยกัน พร้อมกับสถานที่ ๆ เต็มได้ด้วยน้ำทะเลล้อมรอบอยู่ทั่วเกาะ อาศัยการเดินทางข้ามฟากด้วยเรือ เพื่อเข้าสู่ตัวเมือง ซึ่งนาน ๆ ทีจะมีเรือแล่นมา เด็กสาวทั้งสองนี้ ซึ่งเป็นเพื่อนรักกัน แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป นานไป ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันตามวิถีชีวิต และการทำงาน เพื่อน นาน ๆ ครั้งจะได้เจอกัน นับว่าโชคดีหน่อยที่มี Social Media ให้พอได้ติดต่อ ถามไถ่ ความเป็นมากันได้ เหมือนผู้เขียนในปัจจุบัน แม้ทั้งคู่จะเติบโตมาด้วยกัน แต่การใช้ชีวิตก็ผิดแผกแตกต่างกันสิ้นเชิง ระหว่างเด็กสาวที่ได้มีโอกาสเข้าไปเรียน ไปทำงานในเมืองใหญ่ กับเด็กสาวบ้านไร่ ท้องนา ในชนบทบนเกาะที่ห่างไกลจากผู้ที่สัญจรไปมา ผู้เขียนมองว่าดูเผิน ๆ ก็เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ตามสไตล์ของเราเอง ไม่ต้องวุ่นวายกับสังคมในเมืองใหญ่ กับชีวิตเด็กสาวท้องไร่ แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่เป็นสวรรค์ดั่งที่คิด เหมือนตกนรกลงดิ่งลงเหว กับความรู้ที่เรียนมาน้อย หลายปีดีดักที่จะมีผู้คนมาเป็นครูสอนหนังสือให้กับเด็ก ๆ ชาวบ้านบนเกาะนี้ เด็กสาวในท้องไร่ต้องบากบั่น ทำงานหนัก ถูกบังคับ ขู่เข็ญจากสามี พร้อมด้วยกันนั้นต้องอดทนกับครอบครัวสามีที่หัวโบราณ เรียกใช้งานภรรยาได้ตามอำเภอใจ เป็นใหญ่ในบ้าน และมิหนำซ้ำชาวบ้านต่างก็เป็นใจกับความอำมหิตของแม่สามี บังคับลูกสะใภ้เยี่ยงทาส ถือจารีตประเพณีที่ประหลาด ไม่ได้ซึมซับวัฒนธรรมสมัยใหม่เข้ามาเลย ผู้เขียนมองว่าการที่ไม่ได้รับความหลากหลายทางวัฒนธรรมนั้น ทำให้เรามัวแต่หลงอยู่กับความคิดที่จมปลักกับประเพณีนิยมที่อาจจะผิด หรือไม่เกิดการพัฒนาภูมิปัญญา ให้มีวิถีชีวิตที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมเลย เธอต้องทนอยู่กับชีวิตอย่างนั้น นานแล้วนานเล่า เพื่อรอคอยวันที่จะได้เจอเพื่อนสาวที่ห่างกันนานหลายสิบปี ไกลออกไปอีกฟากในเมืองใหญ่ ตรงกันข้ามกับเด็กสาวที่อยู่ในเมือง ชีวิตมีแต่ความสบาย มีสิ่งยั่วยุให้มัวลุ่มหลง เผลอตัวเผลอใจมากมาย หากไม่รู้จักระวังตัวเองก็จะเดินทางชีวิตผิดได้ง่าย ๆ เช่นกัน ผู้เขียนนั่งที่ศาลากลางหนองน้ำก็ใกล้จะเกือบ ๆ เที่ยงวันแล้ว อากาศยังคงเย็นสบาย ลมได้หอบเอาน้ำที่ระเหยจากบึง สะท้อนแสงแดดอยู่วิบวับ ยังพอให้เย็นดับลมร้อนในช่วงตอนบ่ายแก่ ๆ ได้ สบาย ๆ วันแล้ววันเล่าก็มาถึง วันที่เด็กสาวชาวกรุงที่โตเป็นผู้ใหญ่ ได้กลับมาบ้าน และมีโอกาสได้เจอกับเพื่อนรัก แต่ความรู้สึกก็ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เพื่อนสาวชาวกรุงกลับมีนิสัยที่เปลี่ยนไปเหมือนคนไม่รู้จักกัน สงสารหญิงสาวชาวไร่ที่ได้แต่หวัง รอเพื่อนรัก จนสมปรารถนา แต่ก็ไม่เป็นดั่งใจนึก เธอใช้เวลาว่างจากงานที่ทำมาเอาอกเอาใจเพื่อนรักจากเมืองกรุง แต่ก็เป็นอยู่อย่างนี้หลายวัน จนเธอโดนแม่สามีจับได้ ถูกทำโทษโดยไม่ปรานี แม้เพื่อนรักจากเมืองกรุงรู้เรื่อง แต่ก็ไม่แยแส นับวันก็ยิ่งทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาน กับคำด่า เสียดทอ ของครอบครัวสามีจนบ้าคลั่ง เกินขีดสุดของความอดทนลูกผู้หญิง ถึงตรงนี้แล้วผู้อ่านก็คงลุ้นระทึก ไปกับผู้เขียนเป็นแน่เลย ว่าเรื่องราวเกินบรรยายของจุดแตกหัก ในความอดทนของลูกผู้หญิงคนหนึ่งที่เรียกขานเธอว่า สะใภ้ จะบันดาลโทสะออกมาอย่างไร เพื่อให้หลุดพ้นชีวิตสุดรันทดที่พบเจอ ให้เหมือนดังกับความฝันที่เป็นฝันร้ายแค่ชั่วข้ามคืนหนึ่ง พอขึ้นตื่นมาแล้วก็หายไปอย่างนั้น ผู้เขียนแนะนำให้ผู้อ่านได้สัมผัสกับชีวิตอีกมุมหนึ่งของหญิงสาวซึ่งธรรมชาติบีบคั้นให้ต้องเจอกับอุปสรรค และบีบเค้นให้ต้องเอาชนะกับสิ่งเหล่านั้นไปให้ได้ ติดตามเรื่องราวบันเทิง นานาสรรสาระ ได้ในบทความถัดไป ... :) JPMJ *** เครดิตภาพ จาก IMDB : ปก | รูปภาพที่ 1 | รูปภาพที่ 2 | รูปภาพที่ 3*** ตัวอย่างหนัง จาก YOUTUBE : Bedevilled (2010)