ถ้าใครเคยมีช่วงที่ดูอนิเมะแล้วรู้สึกว่า “เรื่องนี้มันมีอะไรบางอย่างว่ะ” แบบที่พูดออกมาทั้งที่ยังไม่ดูจบ Jujutsu Kaisen คือหนึ่งในเรื่องที่ผมรู้สึกแบบนั้นตั้งแต่ตอนแรกที่ได้ดู มันไม่ได้มาแบบเท่จัดหรือดราม่าหนักตั้งแต่ต้น แต่สิ่งที่ค่อย ๆ ซึมเข้ามาคือพลังบางอย่างที่ทำให้เราหยุดดูไม่ได้ ไม่ใช่แค่เพราะการต่อสู้มันส์หรือแอนิเมชันดี แต่เป็นเพราะเรื่องนี้มันเล่า "ความรู้สึกของคน" ผ่านโลกของคำสาปได้เจ็บแสบมาก รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! Jujutsu Kaisen หรือ “มหาเวทย์ผนึกมาร” เริ่มต้นแบบดูไม่ต่างจากแนวโชเน็นทั่วไป เด็กหนุ่มธรรมดาเจอของต้องห้าม แล้วต้องเข้าสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่พอได้ดูไปสักพัก จะรู้เลยว่าจริง ๆ แล้วมันมีชั้นของอารมณ์และธีมที่หนักแน่นมากอยู่เบื้องหลัง พล็อตหลักมันเกี่ยวกับ “คำสาป” ซึ่งก็คือพลังด้านลบที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยไม่รู้ตัว ยิ่งคนมีอารมณ์ลบมากเท่าไหร่ คำสาปก็ยิ่งแข็งแกร่ง และแน่นอนว่าพระเอกของเรา ยูจิ อิตาโดริ ดันไปกินนิ้วของสุคุนะ คำสาประดับพี่เบิ้มเข้าไป เลยกลายเป็นคนกึ่ง ๆ เป็นภาชนะให้ปีศาจแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมชอบที่เรื่องนี้ไม่ได้พยายามจะทำให้พระเอกดูเป็นคนดีจนเกินจริง ยูจิเป็นคนธรรมดา ไม่ได้มีปมดาร์คหรือพรสวรรค์ล้นเหลือ แต่สิ่งที่เขามีคือ “ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความตาย เพื่อช่วยชีวิตคนอื่น” และจุดนี้มันกลายเป็นหัวใจของเรื่องเลยนะ อีกอย่างที่ผมว่าคนส่วนใหญ่น่าจะตกหลุมรักคือ "โกโจ ซาโตรุ" ครูสุดเท่ของโรงเรียนไสยเวท ที่โผล่มาพร้อมผ้าปิดตาและพลังระดับพระเจ้า ตัวละครนี้แม่งโคตรจะขัดแย้งในตัวเอง เพราะแม้จะมีพลังมากจนใครก็แตะต้องไม่ได้ แต่ลึก ๆ เขาก็รู้ว่าตัวเองช่วยทุกคนไม่ได้ โลกมันโหดเกินไปสำหรับแค่คนคนเดียว พอเข้าโหมดจริงจัง เช่นตอน Shibuya Incident Arc ที่เป็นหนึ่งในอาร์คที่คนพูดถึงกันเยอะที่สุด เพราะเป็นจุดเปลี่ยนใหญ่ของเรื่อง ทั้งในแง่ของสเกลการต่อสู้และความเจ็บปวดที่ตัวละครต้องแบกรับ ผมจำได้ว่าตอนดูช่วงนั้นผมนั่งนิ่งอยู่หน้าจอแบบไม่ขยับเลย เพราะทุกอย่างมันดาร์คและหนักหน่วงมาก ทุกตัวละครเหมือนถูกทดสอบทั้งร่างกายและจิตใจ มีการตายของตัวละครสำคัญหลายคน ที่แม้เราจะพอเดาได้ แต่พอถึงจริง ๆ มันก็เจ็บอยู่ดี ส่วนภาพยนตร์ Jujutsu Kaisen 0 ที่เล่าเรื่องของยูตะ โอคคตสึ ผมบอกเลยว่าดูจบแล้วรักยูตะมาก คือเรื่องราวของเขามันมีน้ำหนักในตัวเองและเป็นการปูพื้นฐานของจักรวาลได้ดี ไม่ต้องเป็นแฟนเก่าถึงจะดูสนุก เพราะมันเล่าจบในตัว และเต็มไปด้วยอารมณ์แบบ “ถ้ารักใครสักคนมากพอ เราก็อาจจะกลายเป็นปีศาจได้เหมือนกัน” จุดเด่นอีกอย่างของเรื่องคือ "การออกแบบคำสาป" ที่ไม่ใช่แค่หน้าตาน่ากลัว แต่ยังมีที่มาที่ไป มีคอนเซปต์ เช่นคำสาปที่เกิดจากการกลัวตาย การเกลียดตัวเอง การแค้น ฯลฯ ซึ่งมันทำให้การต่อสู้มีความหมายมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตี ๆ กันไปแบบไม่มีความรู้สึก Jujutsu Kaisen ไม่ใช่อนิเมะโชเน็นที่ดีที่สุดในแง่ของเทคนิคหรือโครงเรื่องหักมุม แต่มันเป็นเรื่องที่กล้าหยิบเอา "ความกลัวของคน" มานำเสนอแบบไม่บิดเบือน และเต็มไปด้วยคาแรกเตอร์ที่รู้สึก "มีชีวิต" ผมจำได้เลยว่าช่วงที่ดูซีซั่นแรกจบ ผมรู้สึกเหมือนโดนดูดเข้าไปในโลกนั้นเลย แล้วพอไปอ่านมังงะต่อ ก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของพลังพิเศษ แต่คือเรื่องของคนธรรมดาที่พยายามมีชีวิตอยู่ในโลกที่ไม่ยุติธรรม ใครที่ชอบอนิเมะที่มีทั้งแอ็กชัน ดราม่า และการตั้งคำถามกับชีวิตแบบเงียบ ๆ Jujutsu Kaisen คือเรื่องที่คุณควรให้โอกาส และถ้าดูแล้วอินแบบผม คุณจะเข้าใจว่าทำไม “คำสาป” ถึงสะท้อนความเป็นมนุษย์ได้เจ็บปวดขนาดนี้ รูปภาพปกมาจาก x.com เจ้าของภาพ 『呪術廻戦』アニメ公式 :|: ภาพปกที่ 1 รูปภาพประกอบมาจาก x.com เจ้าของภาพ 『呪術廻戦』アニメ公式 :|: ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !