สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน เรื่องที่ 3 ที่ผมจะรีวิว คือ เรื่อง Ash is purest white ซึ่งออกฉายไปเมื่อปี 2018 ที่จีน แต่ของเราได้ดูเมื่อปีที่แล้ว 2019 ก่อนดูหนังเรื่องนี้นั้น ผมไม่รู้จักหนังเรื่องนี้มาก่อน ไม่ได้ดูตัวอย่างหนังว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร จนผมได้ติดตามข่าวในเพจ เรื่องนี้ฉายเหอะ คนหาดใหญ่อยากดู ( อีกแล้ว) ว่าได้มีการซื้อหนังจากทางค่าย Documentary Club นำมาฉายที่หาดใหญ่เองซึ่งแน่นอนอีกตามเคย ผมไม่พลาดที่จะไปซื้อตั๋วไปดูแน่นอน ตอนแรกผมเห็นโปสเตอร์เรื่องนี้คิดว่ามันเป็นหนังอาชญากรรมผสมชีวิต เข้ามาสไตล์หนังฮ่องกงยุค 90 แต่ที่จริงแล้วมันเป็นหนังโรแมนติก มีความเป็น Gangster เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้เป็นโปรเสริม โดยอัตราส่วนที่ประมาณได้ คือ ชีวิต 80% โรแมนติก 15% อาชญากรรม 5% เห็นจะได้ คือ เนื้อเรื่องพูดถึงความรักของนางเอกกับพระเอกในสถานะที่เป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ขาใหญ่ นักเลงคุมบ่อนที่สังคมรอบข้างล้อมรอบด้วยสุรา นารี การพนัน ในขณะที่พระเอกกำลังต่อสู้กับแก็งนักเลง นางเอกจึงชักปืนยิงเพื่อช่วยชีวิตพระเอกไว้ แต่ปรากฏว่านางเอกติดคุก 5 ปี พอนางเอกออกจากคุกมาจึงได้ตามหาพระเอกเพื่อพิสูจน์ว่าความรักยังเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตคู่หรือไม่ บรรยากาศในหนังเป็นสิ่งที่เกิดความรุนแรงทางอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในสังคมอยู่ตลอด ตัวละครแต่ละตัวมันจะมีลักษณะความเป็นศักดิ์ศรีแบบแมน ๆ ลุย ๆ ประมาณว่าใจถึงพึ่งได้ ส่วนลูกน้องก็ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน เรื่องนี้บริบทเหล่านี้ไม่ได้ทำปฎิกิริยาในตัวเรื่องเน้นความรุนแรงมากเท่าไหร่ แต่จะเน้นในส่วนของบริบทของความรัก การดำเนินชีวิต การแสวงหาตัวตน การดำรงความสัมพันธ์ของตัวนางเอก พระเอกผ่านการก้าวผ่านยุคสมัยแต่ละช่วงในประเทศจีนมากกว่า ในเรื่องดำเนินบรรยากาศในช่วงราวปี ค.ศ. 2000,2006,2018 โดยจุดที่สังเกตได้เห็นเลย จะมีการแต่งกาย เสื้อผ้า หน้าผม โทรศัพท์ ตึก อาคาร บ้านเมือง ยานพาหนะ หรือจำพวกดนตรี เศรษฐกิจ สังคม จะปรากฏได้เห็นเป็นนัยยะสำคัญไว้ทั้งนั้น ผู้กำกับชาวจีน Jia Zhangke มีความเชี่ยวชาญมากในการใช้บริบทต่าง ๆ ทั้ง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ดนตรี เข้ามาเสริมในการดำเนินเรื่องดูมีรายละเอียดมากขึ้น มีน้ำหนักทำให้เชื่อถือได้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงในสมัยนั้น และยังเป็นการรองรับปัจจัยความสัมพันธ์ของนางเอก พระเอกได้เป็นอย่างดี ดูมีมิติขึ้น มีจังหวะมุกตลกบางฉากที่ตั้งใจให้ตลกได้น่ารักดี บางช่วงก็มีความยียวน ซื่อบื้อ บ้าอำนาจบ้าบอของตัวลูกเบ๊ออกมาเป็นระยะ ทั้งๆ ที่อารมณ์เรื่องขณะนั้นซีเรียสชิบหาย ตัวละครสมทบทำหน้าที่ดี แต่จำหน้าไม่ได้ ลืมเลือนไป ดนตรีประกอบฉากในคลับช่วยเพิ่มสีสันชีวิต ปลูกความรักชาติยังไงยังงั้น แต่เข้ากัน การแสดงของ 2 นักแสดงนำ Tao Zhao และ Fan Liao มีเคมี ชีวะ ฟิสิกส์ มาก เล่นดีเยี่ยมจนเชื่อเลยว่าเป็นคู่รักกันจริง สามารถรับ ส่งอารมณ์ ความรู้สึก นึกคิดได้ดี มีอินเนอร์เต็มเปี่ยม แสดงเป็นมืออาชีพมาก แถมบทดีเลย คือ ตัวละครนางเอก พระเอกนี้เล่นยากนะ ต้องเอานักแสดงที่มีประสบการณ์ในการแสดงสูง หรือ นักแสดงที่เป็นสายดราม่านี้ถึงสามารถเอาบทนี้อยู่ ถ้าเล่นไม่ถึงนี้ดับเลย ซึ่งนางเอก พระเอกในเรื่องนี้สอบผ่านทันที กล้องใช้หลายตัว จัดมุมกล้องดี สามารถเปลี่ยนสีภาพผ่านไปในช่วงเวลาแต่ละยุคได้ชัดเจน โดยในเรื่องไม่ได้บอกเลยว่าขณะนี้ ตอนนี้เรื่องอยู่ในปี ค.ศ.ไหน ก็ตาม เนื่องจากพลังการแสดงของนางเอก พระเอกสามารถรับ ส่งอารมณ์ ความรู้สึกดีเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ ผู้กำกับเน้นไปที่ตัวละครนางเอกมากกว่าพระเอก จึงทำให้เห็นพัฒนาการในตัวนางเอกตั้งแต่ตอนคบกับพระเอกใหม่ ๆ จนได้เข้ามาสู่การเป็นสมาชิกในแก็งแล้วมาถึงจุดพลิกผันในตอนที่นางเอกติดคุกเพราะช่วยพระเอกจากการถูกแก็งนักเลงเล่นงาน จนออกมาจากคุก เดินผจญภัยไปเรื่อย แล้วตัดฉากมาที่ตัวนางเอกได้เป็นหัวหน้าแก๊งแล้ว คือ นางเอกโซโล่เดี่ยวเต็ม ๆ จึงไม่ได้เห็นในมุมมองของตัวพระเอกว่าชีวิตช่วงพลิกผันจนติดคุกมาจนถึงฉากที่พบกับนางเอกอีกครั้งหลังจากที่นางเอกออกจากคุกแล้วตามหาพระเอกจนเจอ คือ ไม่รู้ว่าตัวพระเอกได้เผชิญกับปัญหา อุปสรรค อะไรมาในแบบรูปธรรม ซึ่งถ้าใส่รายละเอียดลงไปในฉากให้เห็นเป็นภาพเลยจะดีมาก แล้วช่วงองค์หลังจนจบเรื่อง คือ พระเอกกลายเป็นตัวประกอบไปเลย นับฉากที่ปรากฏมาได้เลย ปมบางปมยังไม่เคลียร์ชัดเจน เช่น เรื่องพระเอกไปมีความสัมพันธ์กับน้องนักศึกษา ที่หน้าเกินวัยนักศึกษานั้นตกลงเป็นความสัมพันธ์รูปแบบใด แถมโผล่ฉากมาแป๊บเดียว แล้วหายไป แถมจำหน้าไม่ได้ด้วย คือ น่าใส่ให้มีบทบาทหน่อย เพิ่มปมให้เคลียร์ได้ชัดเจน อีกอย่างในเรื่องการตัดต่อ คือ จะตัดฉากในช่วงหนึ่งไปอีกฉากหนึ่งทันที คือ มันกำลังได้อารมณ์เลย ตัดหลายฉากด้วย ทำให้การดำเนินเรื่องไม่ลื่นไหล ขาดความต่อเนื่องในเนื้อหาทันที ผมว่าถ้าปล่อยให้อารมณ์นำพาไปทำให้ได้อรรถรสในการชมมากขึ้น ขอขอบคุณผู้สนับสนุน : IMDB , Facebook , website officialขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน เจอกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีครับ