[Movie Review] Ready Player One สงครามเกมคนอัจฉริยะ
Ready Player One ผลงานกำกับเรื่องใหม่ของพ่อมดแห่งฮอลลีวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่ดัดแปลงจากนิยายขายดีของ เออร์เนสต์ ไคลน์ ที่รวบร่วมวัฒนธรรม Pop Culture จากยุค 80 นำมาหลอมร่วมกับเทคโนโลยีของโลกอนาคตได้อย่างลงตัว
เรื่องย่อ
ภาพยนตร์เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2045 ช่วงที่โลกเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการล่มสลาย แต่ผู้คนพบทางรอดชีวิตที่ the OASIS ซึ่งเป็นจักรวาลเสมือนจริงอันกว้างใหญ่ที่สร้างขึ้นมาโดย เจมส์ ฮัลลิเดย์ แต่เมื่อฮัลลิเดย์เสียชีวิตลง เขาได้ทิ้งทรัพย์สมบัติมหาศาลเอาไว้ให้กับคนแรกที่พบไข่อีสเตอร์ดิจิตอลที่เขาซ่อนไว้ในสถานที่หนึ่งใน the OASIS จนเกิดการแข่งขันขึ้นทั่วโลก เมื่อฮีโร่หนุ่มม้ามืดอย่าง เวด วัตส์ ตัดสินใจร่วมการแข่งขัน เขาถูกเหวี่ยงเข้าสู่การแข่งขันล่าสมบัติผ่านโลกสุดมหัศจรรย์แห่งความลึกลับ การค้นหา และอันตราย
ด้านงานภาพ
สปีลเบิร์ก ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพราะเขานำแนวเสนอโลก the OASIS ออกมาได้สมจริงและน่าสนใจ ฉากแอคชั่นที่ดูมีพลังและอลังการ และแต่ละฉากในเรื่องที่เปลี่ยนไปก็สามารถทำให้ผู้ชมหวนคิดถึงครั้งแรกที่เราเห็มมันได้จนรู้สึกอินไปกับมันแบบไม่รู้ตัว ด้วยการใส่ใจรายละเอียดแบบจัดเต็ม ทำให้ผู้ชมต้องคอยมองไปรอบๆ จอภาพยนตร์เพื่อเก็บรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถทำได้ในการชมเพียงรอบเดียวอย่างแน่นอน
เพลงประกอบ
เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ ด้วยการนำเพลงจากภาพยนตร์เก่ายุค 80 และ ซาวด์เอฟเฟคที่คุ้นเคยจากเกมหลายเกม ทำให้ผู้ชมได้กลิ่นอายของหนังป็อปคัลเจอร์เก่าๆ แบบมาเต็ม
สรุป
ภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One เนื้อเรื่องบางส่วนอาจจะมีช่วงโหว่อยู่บ้างและทำให้ขัดใจสำหรับผู้ที่เคยอ่านนิยายมาก่อน แต่องค์ประกอบต่างๆ ทั้งเนื้อเรื่อง เพลงประกอบ และ ฉากแอคชั่น จะดึงดูดเราให้ตื่นเต้นและจดจ่ออยู่กับหน้าจอตลอด 140นาที Ready Player One เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย และยิ่งถ้าคุณเป็นเหล่าแฟนบอย หรือ Geek ตัวพ่อตัวแม่ยิ่งไม่ควรพลาด!! และเพื่อประสบการณ์ขั้นสุดในการรับชมแนะนำให้ชมในระบบ IMAX3D เลย
คะแนน
สำหรับมุมมองผู้ชมทั่วไป ผู้ชมทั่วไปที่ไม่เคยเสพวัฒนธรรม Pop Culture ยุค 80 เอาไป 8.5/10 แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เกิดทันวัฒนธรรม Pop Culture ยุค 80 และเป็นแฟนบอย หรือ Geek ตัวพ่อตัวแม่เอาคะแนนไปเลย 10/10!!