รีเซต

บทสรุปภาพรวมบ็อกซ์ออฟฟิศปี 2021 มีแค่ 2 สตูดิโอใหญ่ โกยเงินแตะพันล้าน!

บทสรุปภาพรวมบ็อกซ์ออฟฟิศปี 2021 มีแค่ 2 สตูดิโอใหญ่ โกยเงินแตะพันล้าน!
Jeaneration
7 มกราคม 2565 ( 08:00 )
286

ข่าวสารวงการหนัง บ็อกซ์ออฟฟิศ 2021

บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาในปี 2021 ถือว่าเป็นปีที่์ฟื้นตัวขึ้นมาจากในปี 2020 ได้ตามลำดับ โรงภาพยนตร์สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนกลางปี แต่กว่าบรรดาหนังฟอร์มใหญ่ๆ จะมั่นใจและลงโรงฉายปล่อยของได้ ก็ล่วงเลยมาเกือบจะไตรมาสสุดท้ายของปี แต่กระนั้นภาพรวมของรายได้ในอเมริกาตลอดปีที่ผ่านมานั้น ก็กวาดทรัพย์ไปได้สูงถึง 4.55 พันล้านเหรียญ

และเมื่อมาจำแนกดูผลประกอบเป็นรายสตูดิโอในฮอลลิวูดนั้น ในปี 2021 พบว่ามีเพียง 2 สตูดิโอยักษ์ใหญ่ที่สามารถทำรายได้แตะหลักพันล้านเหรียญได้ แน่นอนว่ายังคงกลับมายึดบัลลังก์แชมป์ได้อีก แม้ว่าโควิด-19 จะออกอาละวาด ก็คือ "วอลต์ ดิสนีย์ สตูดิโอ" ที่ในปีนี้ได้ผนึกกำลังรวมกับ "ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ สตูดิโอ" และ "เสิร์ชไลท์ พิคเจอร์ส" ทำให้พวกเขากวาดรายได้ทั้งปีในภูมิภาคอเมริกาเหนือไปได้ที่ 1.17 พันล้านเหรียญ

นับว่าเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปี 2020 มากถึง +180 เปอร์เซนต์ และเมื่อรวมกับรายได้ทั่วโลกแล้ว วอลต์ ดิสนีย์ ก็กวาดเงินไปได้มหาศาลถึง 2.9 พันล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา เป็นที่แน่อยู่แล้วว่า กลุ่มหนังซูเปอร์ฮีโร่จากมาร์เวลมีส่วนช่วยผลักดันรายได้ให้กับพวกเขาเช่นเคย "Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings", "Eternals" หรือ "Black Widow" และยังเสริมกำลังได้จาก "Free Guy", "Jungle Cruise" และ Cruella" แม้ว่าในปีนี้พวกเขาจะใช้กลยุทธ์ฉายผ่านบริการสตรีมมิ่งแบบคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มในวันเดียวกับลงโรงฉายก็ตาม

ตามมาเป็นอันดับที่ 2 ที่ถือว่าเป็นปีทองของพวกเขามากๆ ก็คือ "โซนี่ พิคเจอร์ส" ที่ในปี 2021 สามารถกวาดรายได้แตะ 1.05 พันล้านเหรียญ ได้แบบพอดิบพอดี ต้องขอบคุณความสำเร็จต่อเนื่องจากโปรแกรมหนังของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น "Venom: Let There Be Carnage", "Ghostbusters: Afterlife" ก่อนจะมาปิดปีได้อย่างงดงามกับ "Spider-Man: No Way Home" ที่ผลักดันทำให้รายได้ของพวกเขาแตะหลักพันล้านเหรียญในช่วงโค้งสุดท้าย โดยที่รายได้ทั่วโลกของโซนี่ทำไปได้ถึง 2.4 พันล้านเหรียญ

"ยูนิเวอร์แซล" เป็นสตูดิโอหนังฮอลลิวูดที่ทำเงินในปี 2021 ตามมาอยู่ในอันดับที่ 3 กับรายได้รวมที่ 714 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นมาจากปี 2020 ที่ราวๆ +66 เปอร์เซนต์ แม้ว่าพวกเขาจะใช้กลยุทธ์พิเศษกับการส่งหนังใหม่ลงบริการสตรีมมิ่งเร็วกว่าปกติ เหลือเพียงแค่ 17 วัน หลังจากลงโรงฉายตามปกติ แต่กลับไม่ได้กระทบต่อตัวเลขรายได้สักเท่าไหร่ "Fast and Furious 9" เป็นหนังที่ทำเงินให้พวกเขาได้อย่างมหาศาลเป็นหลักในปีที่ผ่านมา

ถัดมาคือ "วอร์เบอร์ บราเธอร์ส" ที่ทำได้ดีอยู่ในอันดับที่ 4 ของปี กับรายได้ราวๆ 662 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นมาจากปี 2020 ประมาณ +181 เปอร์เซนต์ ต้องนับว่าเป็นปีที่มีวอร์เนอร์ฯ มีหนังสายแข็งอยู่ในมือหลายเรื่อง แต่ปรากฏว่าค่อนข้างล้มเหลวทางด้านผลลัพธ์อยู่หลายเรื่องเช่นกัน เนื่องจาการใช้กลยุทธ์ส่งหนังออกฉายในโรง พร้อมๆ กับผ่านบริการสตรีมมิ่งในวันเดียวกัน กลายเป็นวิถีที่ขัดขากันเอง และไม่ได้ส่งคนกลับเข้าโรงหนัง ทำให้รายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศของสตูดิโอในปีนี้ค่อนข้างขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย

เพราะอานิสงส์ของหนัง 007 ภาคใหม่ ก็ทำให้ "เอ็มจีเอ็ม พิคเจอร์ส" ติดโผเข้ามาอยู่อันดับที่ 5 ของปีนี้ กับรายได้รวมที่ 323 ล้านเหรียญ โดยรายได้หลักๆ มาจาก "No Time to Die" นั่นเอง ขณะที่ "พาราเมาท์ พิคเจอร์ส" ปีนี้ทำเงินภาพรวมไปได้ที่ 278 ล้านเหรียญ เพราะแทบไม่มีโปรแกรมหนังแม่เหล็กออกฉายเยอะเท่าไหร่ "A Quiet Place Part 2" กับ "Snake Eyes: G.I. Origins" เป็นเพียง 2 เรื่องหลักที่ช่วยพยุงค่ายเอาไว้

ปิดท้ายที่ "ไลออนส์เกต" ที่นับว่าเป็นปีที่ซบเซาอย่างหนักของพวกเขา เพราะทำเงินเกือบจะแตะไม่ถึงร้อยล้านเหรียญ ปิดปีทำไปได้ที่ 102 ล้านเหรียญ ในปีนี้ที่พวกเขาไม่มีแฟรนไชส์หนังใหญ่ๆ ส่งออกฉายเลย มีแค่เพียง "The Hitman’s Wife’s Bodyguard" หนังภาคต่อที่ทำเงินได้มากที่สุดในรอบปีนี้ที่ช่วยพยุงค่ายเอาไว้ได้เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็พร้อมจะแก้มือใหม่กับแผนในปี 2022 ที่จะจัดหนักกว่าเดิม

Source: Deadline

----------------------------------------------------

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa