“พริกขิง สุรีย์ญะเรศ” เคลียร์ดราม่าบูลลี่เด็ก
“พริกขิง สุรีย์ญะเรศ” เคลียร์ดราม่าบูลลี่เด็ก
เรียกว่าเป็นศิลปินแกรมมี่ที่มีแฟนๆติดตามมากคนหนึ่งสำหรับ “พริกขิง สุรีย์ญะเรศ” ล่าสุดมีการแชร์ว่าเธอไปบูลลี่เด็กรุ่นน้องในโรงเรียน ซึ่งเธอออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง
โพสต์ร่ายยาวอธิบายว่า
1ที่มีคนอ้างว่าหนูไปบูลลี่เด็ก ไม่เป็นความจริงค่ะ หนูไม่เคยบูลลี่ใครค่ะ หนูมีเพื่อน มีรุ่นน้อง ที่เป็นเด็กน้ำรักพิเศษหนูเป็นคนช่วยดูแลตลอดค่ะ พาไปโรงอาหาร พาไปเล่นด้วยตลอด
2. เรื่องด่าพ่อต่าแม่ไม่เคยด่าพ่อแม่ใครค่ะ หนูรู้สึกว่าสิ่งแบบนี้ไม่สมควรเอามาเล่นค่ะ แต่ก่อนปกติหนูกับเพื่อนๆที่สนิทกันก็แค่เรียกชื่อพ่อแม่กันแล้วรู้กันว่าไม่ได้คิดอะไรจริงจังกันค่ะ หนูรู้นะคะว่ามันอาจจะไม่สมควรแต่ตอนนั้นทุกคนที่พูดกันไม่ได้คิดอะไรค่ะเจ้าของโพสต์น่าจะไม่สนิทกันหรือรู้จักกับหนูนะคะ เพราะหนูให้เกียรติคนที่หนูไม่สนิทเสมอค่ะ หนูมีเฟสแต่อวตารมากค่ะแชร์แต่ที่พักสถานที่เที่ยวที่น่าไป
3. ตัวหนูเองไม่เคยเดินชนใครด้วยเจตนาที่ไม่ดีเลยค่ะ ถ้าบังเอิญชนใครหนูหันกลับไปไหว้ขอโทษตลอดค่ะ ตอนมัธยมหนูไม่ค่อยได้ไปโรงเรียนเลยค่ะ ทำงานแล้วก็ไปเรียนพิเศษเสริมค่า
4. ตอนม.ปลาย โรงเรียนที่หนูอยู่เป็นมัธยมเล็กๆค่ะ นักเรียนจะน้อยค่ะ แล้วห้องสายการเรียนของหนูมีกันแค่16คน ชาย11 หญิง5 เองค่ะรวมหนู อยู่กันแบบนี้สนิททุกคนค่ะ อาจจะไม่มีเพื่อนเยอะเท่าไหร่ เพราะมีกันแค่นี้หนูอยู่โรงเรียนเดียวกับน้องสาวค่ะ
5. น้องสาวอยู่ประถมหนูอยู่มัธยม น้องสาวหนูเวลามีอะไรจะมาบอกหนูทุกเรื่อง แล้วเรื่องนี้จากทางที่เจ้าของโพสต์ได้แจ้งมา หนูเป็นคนกลางเข้าไปไกล่เกลี่ยไปถามค่ะ เข้าไปด้วยเจตนา, น้ำเสียง, ท่าทาง ที่ดีและเป็นมิตรค่ะ ไปกับเพื่อนแค่2คนค่ะ หนูพูดจากใจจริงหนูไม่เคยไปทำอะไรใครก่อนเลยค่ะ แล้วที่บอกว่าหนูมองไม่ดีหรือแซะ อันนี้ต้องขอพูดว่าไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ ถามจากเพื่อนหรือครูก็ได้ค่ะ หนูเงียบๆไม่ตอบโต้ใครด้วยช้ำ จะอยู่แค่กับกลุ่มเพื่อนของตัวเอง
6. เรื่องแข่งเต้น ตอนม.ปลาย(ม.4) มีเพื่อนมาขอให้ไปช่วยลงแข่งเนื่องจากคนไม่พอค่ะเพราะมันต้องมีสองทีมหนูไม่ค่อยรู้ ไม่ค่อยแน่ใจรายละเอียดซักเท่าไหร่ค่ะ รู้แค่วันสถานที่ ในการซ้อมและแข่งค่ะ ถ้าเท่าที่ได้ยินมาคือมีรุ่นน้องออกไปเองก่อนหน้าหนูค่ะแต่ไม่สามารถแย่งตำแหน่งกันได้นะคะเพราะว่าคนละระดับชั้นกัน จะนั้นแทนกันไม่ได้ค่ะเพราะแบ่งเป็นม.ต้นและม.ปลายค่ะ
7 . ส่วนเรื่องเพราะอยากเอาไปแข่งโครงการตัดฟันไม่เป็นจริงค่ะ แข่งจบไปนานมากๆแล้วกว่าโครงการจะเกิดขึ้นก็คือแข่งจบไปนานแล้วค่ะ ซึ่งก็พึ่งรู้เลยค่ะ พอมีประกวดแล้วเค้าให้แสดงความสามารถก็เลยเอาจากที่เพื่อนเคยสอนไปเต้นค่ะ
8. มีเรื่องเข้าใจผิดจริงค่ะ เคยมีรุ่นน้องคนนึงมาพูดปั่นว่ามีน้องมาพูดถึงหนูอะไรสักอย่างวันต่อมาหนูเจอน้องคนนั้นพอดี หนูถามด้วย ทำทาง น้ำเสียง เจตนาดีค่ะ ก็เลยไปถามว่า"เพื่อนเรามาบอกพี่ว่ามีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกับพี่รึป่าวมาพูดถึงพี่แบบที่เพื่อนบอก" และน้องบอกป่าวไม่ได้ว่าก็แยกย้ายกันไปค่ะ แต่น้องไปเล่าให้พ่อแม่เค้าฟัง พ่อแม่เราก็รู้จักกันดีค่ะเคยทำงานถ่ายงานใดใดด้วยกันสนิทกันระดับนึงค่ะ ก็ไม่คิดว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าโดนเสี้ยมให้แตกคอกัน ต้นตอนี้เลยค่ะที่เข้าใจผิดมากๆ พ่อแม่เราเข้าใจเพราะเราเป็นเพื่อนกัน แต่พ่อแม่เขาไม่ได้คิดว่ามีคนยุ แม่เราก็เลยบอกว่าก็ไม่มีไรอะไรพ่อแม่คุยกันแล้ว แถมยังบอกให้ดูแลน้องด้วยมีเด็กไม่ดียุแยงค่ะ เรื่องนี้นานมากๆแล้วค่ะเป็นการ
เข้าใจผิดที่เคลียร์แล้วจบแล้ว พ่อแม่น้องเขาก็ยังซื้อขนมมาฝากปกติค่ะ