รีเซต

ครั้งแรก! ดี้ ชนานา" เปิดตัวลูกชาย ดีกรีสจ๊วต ไม่หวงเพราะลูกชายสแกนสาว ๆ เอง! (มีคลิป)

ครั้งแรก!  ดี้ ชนานา" เปิดตัวลูกชาย ดีกรีสจ๊วต ไม่หวงเพราะลูกชายสแกนสาว ๆ เอง! (มีคลิป)
Entertainment Report_2
26 พฤษภาคม 2564 ( 13:40 )
413

ข่าวบันเทิงวันนี้

นักแสดงรุ่นใหญ่ "ดี้ ชนานา" มือตบอันดับหนึ่งของเมืองไทย ตบหน้านางเอกมาแล้วทั่วฟ้าเมืองไทย แถมวันนี้ขอควงลูกชายคนโต "บั๊บ ชนาวุธ" ดีกรีสจ๊วต มาเปิดตัวครั้งแรก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, อาจารย์เป็นหนึ่ง และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ พร้อมทั้งเล่าว่าเคยโดนตราหน้าว่าเป็นแม่ที่ดีไม่ได้หรอก

 

ทำไมพี่ไม่เคยเอาลูกออกรายการ?
ดี้ : ถ้าตอนเด็ก ๆ เอาลูกออกทั้งสองคนแต่พอโตขึ้นมาคนนี้ขี้อาย ไม่ยอมออก

แล้วทำไมวันนี้มาได้?
ดี้ : ร้อนเงิน
บั๊บ : ก็มาออกแทนกันบ้าง

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บShow 

เป็นสจ๊วตไม่สามารถบินได้ ตอนนี้หยุดมานานเท่าไหร่แล้ว?
บั๊บ : อย่างของบริษัทก็จะแบ่งกันหยุด ไม่ได้หยุดยาว ก็จะมีเพื่อน ก็ผลัดกันหยุด ถามว่าขาดรายได้ไหม ก็หนักครับผม เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าอาชีพที่ดูค่อนข้างจะมั่นคงโดนเอฟเฟกต์เป็นด่านหน้ามาก่อนยันถึงปัจจุบัน

เราโดนกี่ระลอก?
บั๊บ : ทุกระลอกเลยครับ

ขออนุญาตถามตอนที่พี่ดี้แยกทางกับสามี เพราะอะไร?
ดี้ : ตอนที่แต่งงานคิดอย่างเดียวเลย ผู้ชายคนนี้หน้าตาดี ผู้ชายคนนี้สูง ถ้าเกิดผสมพันธุ์กันลูกจะได้สูง หน้าตาดี แล้วตอนนั้นหวังอย่างเดียวคืออยากได้ลูกสาวแม่สะสมตุ๊กตาบาร์บี้ จะได้มีคนรับมรดก ผลปรากฏว่าคลอดคนที่1 ก็ผู้ชาย คนที่2 ก็ผู้ชาย ดิฉันเลยเลิกถือว่าเป็นเครื่องผลิตที่ไม่ถูกต้องตามใจดิฉัน

 


ทำไมถึงตัดสินใจแบบนั้น?
ดี้ : เป็นผู้หญิงที่แบบล้ำยุคมาไกล เชื่อมั่นในตัวเองสูง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รวย ไม่ได้หาเงินเก่งอะไรนะ แต่ถ้าเกิดอย่างนี้เข้ากันไม่ได้ พูดกันไม่รู้เรื่อง ฉันเลี้ยงเองดีกว่าถามว่าเขาโอเคไหม เขาไม่โอเคหรอก ชวนไปหย่า 2 รอบ เขาก็หนี แต่ดิฉันก็ไม่โอเคที่จะอยู่ ดิฉันอยากเลิก

จริงหรือเปล่า งานแต่งพี่ พี่รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่พลาดที่สุดในชีวิต?
ดี้ : ตัวเองไม่ได้คาดหวังว่างานแต่งงานจะเป็นอะไรแบบสวยงาม อย่างที่บอกว่าแต่งงานคืออยากได้ลูกอย่างเดียว นี่คือสิ่งที่พลาด มองย้อนไป ตอนนั้นตัวเองก็เด็กมากประโยคเดียวที่ทำให้แต่งงาน คือตัวเองมาจากครอบครัวที่แตกแยก สมัยก่อนเขาคิดว่าถ้าเกิน 25 แก่แล้ว เดี๋ยวมีลูกแล้วปัญญาอ่อนพอ 25 ปุ๊บกลัวตัวเองจะปัญญาอ่อน รีบหาผัวกลัวมีลูกช้า คือแต่งงานเพราะอยากมีลูกอย่างเดียว แต่พอหลังจากนั้นถึงรู้ว่าเรานี่แหละที่ไปแต่งงานเรานี่แหละที่ปัญญาอ่อน ตอนนั้นก็มีเงินเก็บบางส่วน ตอนนั้นละคนเพิ่งจบ การแต่งงานก็ต้องใหญ่ พอมีลูกทุกอย่างก็เป็นการใช้จ่ายทั้งหมดในขณะที่ผู้ชายก็ไม่มีอะไรจะซัพพอร์ต เราต้องจ่ายเองหมด เพราะฉะนั้นลูก 2 คน พอเลิกมาก็ 0 แต้ม

แสดงว่าวันที่เจอพี่ก็ไม่ได้มีความรัก 100%?
ดี้ : ความรักหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ยังงงๆ เราเจอเขาตลอด เขาจีบเพื่อนเรา เขานู่น เขานี่ เราเห็นตลอด เห็นซะแบบเรารู้จักกันแล้ว แต่พอจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ อยู่ๆเขาก็มาพูดว่าเขามาจากครอบครัวที่แตกแยก เรามาจากครอบครัวที่แตกแยก แล้วมาแต่งงานแล้วเราจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ ดิฉันก็ฟังแค่นี้ เออ มีลูกออกมาคงสูงสวยดี ก็แต่งงาน คือทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าความรักจริงๆ เดินจูงมือ มองตาหวานกันจริงๆ มันเป็นยังไง


เห็นว่าพอหย่ากับสามีแล้ว ชีวิตไม่ได้กลับมาเป็นดารา ชีวิตตอนนั้นลำบากมากเลย มีคนตราหน้าว่าเป็นดาราตกอับ?
ดี้ : ก็ลำบาก ตอนที่ออกไปแล้ว คือยุคก่อนคนที่มีลูกไปแล้วเอ้าท์กันไปหมดเลย เขาไม่มีกลับมาวงการใหม่ได้ ก็ไม่คิดจะกลับเข้ามา ระหว่างท้องคนที่2 รู้แล้วว่าพฤติกรรมอยู่กันไม่รอดก็พยายามอ่านหนังสือพิมพ์จะสมัครงานต่างๆ นานา ซึ่งไปเจอบริษัทนึงเป็นแบบคอสเมติก เราก็รู้จักเขาด้วย เราก็เลยเขียนใบสมัครไป พอเราคลอดลูกคนที่สองเสร็จก็ยังอ้วนๆ อยู่ ยังไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ ดิฉันก็ไปหาเขาที่ออฟฟิศ ไปสมัครงานแบบปกติเลย เสร็จแล้วพอเขาเจอตัว สัมภาษณ์ แล้วพอดีมีน้องชายเขาอยู่ด้วย
น้องเขากระซิบถามว่าคนนี้เขาหน้าคุ้นๆ เนอะ ตัวพี่เขาที่รู้จักเรา บอกว่าใช่ เคยเป็นดารา แต่ตอนนี้ตกแล้ว เขาพูดอย่างนี้ต่อหน้า คือตอนนั้นดิฉันอ้วน เพิ่งคลอดลูกเขาบอกว่าไว้เดี๋ยวแม่ติดต่อไปนะลูก ลูกจะทำไหวเหรอ คืองานเหมือนเป็นหัวหน้าสายเครื่องสำอาง พอเราฟังคำนี้เราก็รู้แล้วว่าคงไม่รอด เราก็เริ่มรู้ว่าเราคงจะลำบากแล้วลูกเราละ หลังจากนั้นพี่ก็เลยออกกำลังกายจริงจัง เพราะเรารู้แล้วว่าอ้วนมันเกิดปัญหากับการงาน แล้วตอนนั้นลงขอเงินเดือนแค่ 10,000 แบบนานมากแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ เลยลุกมาไฟว์ตัวเอง ออกกำลังกาย และคิดว่าเราต้องรอด ออกกำลังกายตอนแรกเพื่อลดความอ้วน ลดน้ำหนัก เพื่อเราจะได้ทำงานได้ พอตอนหลังก็คือต้องให้แข็งแรงเพื่อเราจะเลี้ยงลูก ตอนแรกกะจะเลิกแบบเงียบๆ หางาน แต่ไทยรัฐรู้เขาขอถ่ายรูปลงพวงมาลัยไทยรัฐ ตอนแรกเราไม่อยากให้ใครรู้ การหย่าสมัยก่อนมันแรงนะสำหรับผู้หญิงแต่งงานแค่ 2 ปี ลูก 2 คน เราก็โอเคยอมถ่าย แล้วเพื่อใครรู้ว่าเลิกแล้ว พร้อมรับงานแล้ว

หลังจากนั้นงานละครเข้ามาเลยไหม?
ดี้ : เข้าค่ะ แต่โดนวิจารณ์เยอะมาก สมัยก่อนไม่เหมือนสมัยนี้ แบบทำไมต้องมาใส่ชุดแบบนี้ เอาลูกมาหากินเหรอ คือเป็นผู้หญิงแบบแรงอะสมัยก่อนไม่มีใครลุกมาใส่อย่างนี้หรอกคนเป็นแม่คนอะ แล้วก็มีพวกคิดต่อถ่ายนู้ดเข้ามาติดต่อเยอะมาก แต่เราไม่รับ

แต่เขาบอกว่าพี่ดี้เป็นแม่ที่ดีไม่ได้ ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น?
ดี้ : คือพอเราไปอยู่ในสังคมของโรงเรียนประจำ ซึ่งที่โรงเรียนนั่นเขาก็ลูกคุณหนู ไฮโซ กันทั้งนั้น ซึ่งในนั้นเราคนเดียวที่เป็นอาชีพอ่อนที่สุดอาชีพของเราดูไม่น่าเชื่อถือ แล้วบทบาทของเราที่เราได้รับคือเป็นแม่สายตบ แม่สายด่า ก็มีอยู่ช่วงนึง ลูกก็ปล่อยเลยตามเลย สนุก เรียนหนังสือได้รองบ๊วยทั้งคู่ที่โรงเรียนเขาก็เรียกไปว่าคุณดี้คุณกรุณาดูลูกด้วย ว่าลูกคุณอย่างนี้ อย่างนั้น ดิฉันแบบเดินคอตกออกมาเลย แล้วมาคุยกับลูก ถึงแม่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่แม่ให้ความรู้ ให้เวลากับลูกมากกว่าพ่อแม่หลายๆ คน แล้วแม่ก็ไม่เชื่อด้วยว่าลูกแม่โง่ แต่ว่าไม่มีใครคิดหรอกว่าแม่เลี้ยงลูกดี หรือแม่ใส่ใจลูก นอกจากผลสอบของลูกเท่านั้น ที่มันจะโชว์ให้เห็นว่าแม่ใส่ใจลูก แล้วแม่เชื่อว่าลูกไม่โง่ ลูกทำได้ แต่ทำไมลูกไม่ทำ แล้วเขาก็ทำ

ถ้าแม่รู้สึกว่าอาชีพของเราด้อยกว่าคนอื่น แบบนี้ตอนบั๊บอยู่โรงเรียนเคยโดนบูลลี่ไหม?
บั๊บ : น่าจะไปทำเป็นซีรีส์ได้เลย ด้วยความที่เป็นเด็กวัยรุ่น แล้วอยู่โรงเรียนชายล้วน การที่คุณแม่อยู่ในอาชีพต้องแสงซะขนาดนั้น เราก็เป็นเป้าได้ง่ายมากอันที่จริงมันไม่ได้ผิดที่คุณแม่หรอก แต่การจะบูลลี่ใครสักคนมันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก ก็โดนหนักบ้าง โดนเบาบ้าง แล้วแต่ ตอนเด็กๆ ก็ไม่เข้าใจนะทำไมโดนล้อชื่อแม่แล้วเราโกรธ

 

เราผ่านจุดนั้นได้ยังไง?
บั๊บ : มันต้องใช้หลายๆ อย่าง แล้วช่วงที่มันเต็มที่แล้ว แบบฉันจะไปต่อไหวไหม แต่สุดท้ายแล้วสังคมมันไม่ได้มีแค่คนที่ชอบแกล้ง หรือไม่โอเคกับเรามันก็มีเพื่อนที่แบบอยู่ด้วยกันต่อเถอะ

เคยคิดไหมว่าแม่เราน่าจะทำอาชีพอื่น ไม่น่าเป็นดาราเลย?
บั๊บ : เคยครับ บ่อย อย่างที่บอก ตอนเด็กๆ จะไม่เข้าใจหรอก

แม่คุยกับลูกเรื่องเพศศึกษา ทำไมถึงไม่อายเหมือนครอบครัวอื่น?
ดี้ : อย่างที่บอกพี่ดี้เป็นผู้หญิงล้ำ คือถ้าเราไม่คุย แล้วลูกจะไปคุยกับใคร ถ้าลูกไม่ได้ข้อมูลที่แท้จริง ลูกจะยังไง การมีลูกก็ต้องขอบคุณเขานะทำให้ดี้ได้เรียนรู้ได้เติบโตมาพร้อมๆ กับลูกด้วย โดยเฉพาะการเป็นผู้หญิง โตมากับผู้หญิง แล้วต้องมาเลี้ยงผู้ชาย 2 คน เราจะทำยังไงให้เอาอยู่ ต้องศึกษาวิชาผู้ชายเยอะมากเลย

ลูกปลื้มมากที่แม่เลิกบุหรี่ได้ ตอนนั้นพี่เลิกได้เพราะอะไร?
ดี้ : เลิกตั้งแต่อายุ 30 คือพื้นฐานก็ไม่ได้สูบจริงจังอยู่แล้ว แล้วปรากฏว่าลูกเข้าอยุบาลแล้วมาติดโปสเตอร์ บ้านหนูสุขสันต์ปลอดควันบุหรี่ ก็เลยเลิกก็ได้

ชีวิตจริงหวงลูกไหม?
ดี้ : ไม่หวงนะ แค่ห่วงนิดๆ หน่อยๆ

กล้าพาสาวๆ มาหาแม่ไหม?
บั๊บ : ต้องเปิดตัวแล้วว่าคนนี้คบกันนะ

พี่ดี้เหมือนในละครไหม ที่รู้สึกว่าไม่ชอบผู้หญิงคนนี้เลย?
ดี้ : ไม่มีเลย ทุกสิ่ง ทุกอย่างในละครมันตรงข้ามกับชีวิตจริงแทบทุกอย่าง

 

มีสแกนไหม?
ดี้ : ไม่มี เพราะส่วนมากลูกจะสแกนมาหมดแล้ว

มีคนมาจีบแม่เยอะไหม?
บั๊บ : ไม่เยอะ แต่มาเรื่อยๆ เราก็ให้เขาตัดสินใจเอง เราโอเค

ติดตามชมรายการ “คุยแซ่บShow” ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง 📸เมาท์ข่าวดารา กับเจ๊รุงรังขังรวม
ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ 🍿ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล 😍ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี