เปลือยชีวิต! กุ้ง สุทธิราช เปิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำตระกูล พร้อมเคลียร์สถานะหัวใจ (มีคลิป)
ข่าวบันเทิงวันนี้
นักร้องลูกทุ่ง และ พระเอกลิเกชื่อดัง กุ้ง สุทธิราช ที่วันนี้จะมาเผยชีวิตกว่า 22 ปี ในวงการเพลง พร้อมเปิดเผยความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตระกูล วงศ์เทวัญ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี หนิง ปณิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกร พร้อมเผยเรื่องหัวใจ เคลียร์คำครหาไม่แมน
เป็นยังไงสถานการณ์โควิด?
กุ้ง : ก็ได้รับผลกระทบพอสมควร การงานโดยเฉพาะลิเก ผมได้รับผลกระทบมาตั้งแต่โควิดรอบที่แล้ว ปกติงานลิเกจะเป็นช่วงธันวา มกรา กุมภา มีนา เมษา คือเป็นช่วงที่รับงานจริงๆ แล้วพอโควิดริบที่แล้วมันก็เป็นช่วงนี้พอดี งานการก็เลื่อนมาเป็นปีนี้คือ 64 ก็มาโดนรอบที่2อีก
เขาบอกว่าตระกูลวงศ์เทวัญเป็นตระกูลศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องไปกราบไหว้ที่ไหนเลย เป็นสิ่งที่คนนอกอยากมากราบไหว้ด้วยซ้ำ นั่นคืออะไร?
กุ้ง : ตั้งแต่เด็กๆ ที่บ้านจะนับถือองค์หญิง องค์หญิง ณ ที่นี้ก็คือพี่สาวของคุณยายเป็นคนทรง แล้วทรงมาตั้งแต่ผมยังเล็กๆ แล้วพอโตขึ้นมาเรานับถือองค์หญิงคือ องค์หญิงประไพมณี ศรีสังวาลย์ ซึ่งในชั้นเทพที่เรานับถือจะมีหลายๆ องค์ ที่เราจะนึกถึง ซึ่งเป็นเฉพาะในครอบครัวเราที่นับถือ
ทำไมถึงมาประทับที่ตัวพี่สาวคุณยาย เคยมีเรื่องเล่าไหม?
กุ้ง : พูดง่ายๆ เราเกิดไม่ทัน เราเกิดมาคุณยายก็เป็นคนทรงแล้ว แล้วคุณพ่อ คุณแม่นับถือมาตั้งแต่เริ่มตั้งคณะลิเก แล้วก็นับถือมาโดยตลอด เรียกได้ว่าไปขอพร ไปบูชามาตลอดเลย จนผมโตขึ้นมาผมได้สัมผัสว่าอันนี้มันคือของจริงที่เราสัมผัสได้
องค์หญิงประไพมณี ศรีสังวาลย์ จริงๆ แล้วมีตัวตนจริงๆ ไหม หรือว่าแค่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกพูดขึ้นมา?
กุ้ง : คือเราก็รู้จักจากคุณยายอีกทีเหมือนกัน คุณยายที่เป็นคนทรงว่าองค์หญิงที่มาประทับชื่อ องค์หญิงประไพมณี ศรีสังวาลย์
เคยเห็นหน้า เห็นตาไหม?
กุ้ง : ไม่เคยครับ ไม่มีภาพวาด ไม่มีเทวรูปอะไรทั้งนั้น
เคยเข้าฝันไหม?
กุ้ง : ตัวผมเองไม่เคยถูกเข้าฝัน แต่เหมือนเรามีสื่อกลางก็คือคุณยายเป็นคนที่สื่อจากองค์หญิงมาบอกกับพวกเรา เราเติบโตมาก็เคารพนับถือตามพ่อแม่ที่เขาบอกมา เราก็นับถือองค์หญิง
แล้วเราเคยขออะไรแล้วได้จริงๆ ไหม?
กุ้ง : คือตอนนั้นลิเกเราก็เป็นลิเกชาวบ้าน อยู่ต่างจังหวัด คือจังหวัดชัยนาท แล้วก็พอโตขึ้นมาสัก 3-4 ขวบ แม่ก็จะบอกว่าไปขอพรองค์หญิงกัน ประมาณวันสงกรานต์เราจะกินเจกันแล้วก็มาขอพรต่อหน้าองค์หญิง องค์หญิงก็ประทับทรงแล้วเราก็ขอพร เมื่อก่อนเด็กๆ ก็รำให้ดูบ้าง ร้องเพลงให้ฟังบ้าง แล้วขอพรว่าโตขึ้นอยากเป็นพระเอกลิเกที่ดังในประเทศไทย อยากจะเป็นนักร้องที่ดังในประเทศไทย ซึ่ง ณ เวลานั้นมันไม่มีหนทาง ก็คือเป็นลิเกบ้านๆ ธรรมดาคณะนึงเท่านั้นเอง
มีเหตุการณ์ประหลาดใจอเไร หรือเหตุการณ์ที่ทำให้คนทั้งครอบครัวรู้สึกว่าไม่ใช่แค่การขอพรอย่างเดียว องค์หญิงมีตัวตนจริงๆ ?
กุ้ง : เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวเองเลย คือเมื่อก่อนมีบ้านหลังเดียวในหมู่บ้านตรงนั้น บ้านผมมีทีวี แล้วเด็กๆ จะมานั่งดูทีวีกัน ตอนเด็กๆ ค่อนข้างใจร้อน ประมาณ 4-5 ขวบ เรากินขนมอยู่ แล้วเด็กอีกคนเป็นรุ่นน้องมันก็มาแย่งของกินเรา เราก็โมโห ไล่เขากลับบ้าน เขาก็เดินกลับไป หน้าบ้านผมเป็นต้นโพธิ์ใหญ่ แล้วเขาเดินไปถึงต้นโพธิ์เขาก็ล้มพับไปเลย แบบคนไม่มีกระดูก เขาก็เลยพาไปหาองค์หญิง องค์หญิงก็เอาน้ำมนต์สาดให้ลุกขึ้นมาเลย แบบกลับบ้านๆ ด้วยความตกใจว่ามาที่นี่ได้ยังไง แล้วองค์หญิงก็เล่าให้ฟังว่าเหตุเกิดจากหน้าบ้านผม บริเวณบ้านเป็นที่วัดเก่า ซึ่งค่อนข้างแรงมาก แล้วต้นโพธิ์ใหญ่เปรียบเสมือนเทวดา อารักษ์ที่ดูแลผมอยู่ แล้วพอเด็กคนนี้มีปัญหากับเราไปล้มตรงนั้น ซึ่งหน้าบ้านเขามีต้นมะขามใหญ่เขาลองของกัน ก็เลยทำให้เด็กคนนั้นพอถึงต้นโพธิ์แล้วล้ม
เห็นว่ามีเหตุการณ์นึง พี่ปู ผู้จัดการของพี่จิ้งหรีดขาว เกิดอะไรขึ้นเหรอ?
กุ้ง : ตอนนั้นคือคุณตาเสียไปแล้ว แล้วมีอยู่วันนึง น้าหรีดเขาโทรมาบอกว่าเข้ามาดูที่บ้านหน่อย เหมือนจะเป็นพ่อ ก็คือคุณตา มาเข้าร่างพี่ปูแน่เลย เราก็พากันไปดู ไปนั่งคุย ซึ่งน้าปูแกก็หลับตาแล้วก็คุย คือน้าปูมาทำงานกับน้าหรีดเขาไม่เคยเจอคุณตา ไม่รู้จักเลย รู้แค่ว่าหน้าบ้านมีเจดีย์เก็บกระดูกของคุณตาอยู่หน้าบ้าน แล้วเขาก็คุยในขณะที่เขาหลังตา แล้วก็ถาม ผมจะเรียกตาว่าพ่อใหญ่ใช่ไหม เออ กุเอง พ่อใหญ่ยังไงถึงได้มาเข้าน้าปู เขาบอกว่ามันกลัวกู มันไม่ไหว้กู คืออารมณ์ว่าน้าปูเขาเข้าบ้านมา เขาลืมยกมือไหว้ แล้วหลังจากที่เขาฟื้นเขาลงไปแล้วไม่ได้ไหว้ พอขึ้นมาปุ๊บเขาก็ไม่รู้สึกตัวเลย ก็เลยคุยกันว่ามีอะไร พ่อใหญ่ทำไมถึงมา เขาบอกว่า กูจะมาบอกข่าวเรื่องน้าชายของผม ซึ่งตอนนั้นป่วยมาก ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เดินสอง สามก้าว เหนื่อย ก็เลยถามว่าตามาเพราะอะไร เขาก็บอกว่าพี่สาวของยายมึง ก็คือคนทรงที่เสียไปแล้วบอกว่าให้กูลงมาบอกว่าไอโต๊ดมันเหงามันอยากเอาน้องมันที่กำลังป่วยไปอยู่ด้วย เขาบอกว่าให้จุดธูปบอกน้าโต๊ด บอกว่าให้อยู่ล่วยแม่ทำงานก่อน เพราะเขาเป็นลิเกเหมือนกัน ก็เลยมีการจุดธูปบอกกล่าว ซึ่งก็ดีขึ้นอยู่จนถึงทุกวันนี้
มีแฟนคลับเอายาคุมมาให้พี่กุ้งถึงหน้าเวทีจริงเหรอ?
กุ้ง : จริงๆ ยาคุมเอามาให้น้าจิ้งหรีดหน้าเวทีเลย เพราะว่าตอนนั้นผมเล่นเป็นพระเอก นางเอกคู่กัน เหมือนเป็นคู่จิ่นเลย แล้วก็เล่นด้วยกันแบบจริงจังมาก ทั้งหน้าเวทีและหลังเวที คนเลยเข้าใจว่าเป็นแฟนกัน เขานินทากันว่าคู่นี้มันผัวเมียกันแน่นอน
แล้วทำไมต้องเอายาคุมมาให้?
กุ้ง : เขาเห็นหน้าเวทีแล้วเขาอินมาก เขาเอามาให้น้าหรีดเลย บอกว่าเอาไปกินซะ จะได้ไม่ท้อง
ข่าวก็ออกมาว่าเป็นน้า หลานกัน พี่ไปทำอะไรให้เขาคิดไปแบบนี้?
กุ้ง : จริงๆ แล้วมันเป็นตั้งแต่สมัยที่เล่นคู่กัน แล้วตอนนั้นมันยังคลุมเครือ เพราะว่าพระเอก นางเอก มันอยู่ใกล้กันมาก เล่นกัน อยู่หลังเวทีก็นอนกอดกัน นอนเล่นกัน คือเราเด็กกว่าเราก็เล่นแบบปกติ เล่นหน้าเวทีเราก็เล่นจริงเหมือนกัน จูบจริง หอมจริง จับจริงคนก็เลยเข้าใจไปอีกแบบ
มันเป็นฟิลเหมือนคู่จิ้นสมัยนี้ไหม พอคนเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น มันเลยต้องเป็นแบบนั่น?
กุ้ง : เข้าใจแบบนั้นว่าเป็นคู่จิ้นกุ้ง จิ้งหรีด ขาว คือเล่นด้วยกัน ไม่ว่าจะออกซีดี หรืออะไรก็ตามเราจะเล่นกันจริงจังมาก
สรุปชัดๆ เลยดีว่าว่าจริงๆ ไม่ได้เป็นแฟนกัน?
กุ้ง : ไม่ได้เป็นแฟนกันครับ น้าหรีดเป็นน้าครับ เป็นน้องคนสุดท้องของคุณแม่ เป็นลูกหลงอายุเลยใกล้เคียงกัน
กับประเด็นว่าเราไม่แมน เรามีคำอธิบายยังไงบ้าง?
กุ้ง : ผมว่าคนที่ได้สัมผัส คนที่ได้เจอตัวผมจริงๆ เขาจะรู้ว่าผมเป็นยังไง ผมมีโลกส่วนตัวสูงในเวลาที่เป็นตัวเอง เวลาที่เราทำงานเราก็จะเป็นแบบที่เราเป็น
สเปคพี่เป็นแบบไหน?
กุ้ง : ต้องเป็นคนที่เข้าใจเรา ต้องเข้าใจเรามากๆ
เพศหญิงหรือเพศชาย?
กุ้ง : หญิงครับ
คนวงในเขาคุยกันจริงๆ แล้วกุ้ง สุทธิราช แอบเจ้าชู้เหมือนกัน?
กุ้ง : ผมว่ามันเป็นธรรมาของผู้ชาย มันก็แบบอดไม่ได้หรอกที่จะชอบคนนั่น คนนี้ แต่ว่าผมเป็นคนเงียบๆ ไง ไม่ค่อยแสดงออก เป็นคนแบบนี้ก็เลยไม่ค่อยมีข่าว
แฟนพี่มีหรือไม่มี?
กุ้ง : ยัง
แต่ที่รู้มาคือพี่มี แต่ไม่กล้าเปิดเผย เพราะพี่เป็นพระเอกลิเก กลัวเรตติ้งตก?
กุ้ง : จริงๆ แล้วต้องบอกว่าแฟนๆ เรา เขาไม่อยากให้เรามีหรอก อยากให้เราอยู่แบบนี้ไปนานๆ ซึ่งผมเองเป็นคนห่วงความโสดเหมือนกันนะ ก็อยากโสดไปนานๆ ก่อน ไม่รีบ
ที่ผ่านมาเคยมีแฟนไหม?
กุ้ง : ก็มีบ้างธรรมดา ปกติ เหมือนมนุษย์ทั่วไป ตอนนี้อยู่อย่างนี้ดีกว่า แต่ก็มีคนคุย