เครดิตภาพ Fast Saga Officialสืบเนื่องจากท้ายภาคที่ 1 ที่ไบรอัน โอคอนเนอร์ (Paul Walker) ได้ปล่อยตัวโดมินิค ทอร์เรตโต้ ผู้ร้ายที่เป็นคู่ปรับไบรอันภาคที่แล้ว โดยไบรอันในขณะนี้ เป็นตำรวจที่ถูกถอดยศ แต่เหมือนฟ้ามีตา เพราะตอนนี้ตำรวจกำลังหาทางที่จะตามจับ คาร์เตอร์ เวโรน (Cole Hauser) นักธุรกิจหนุ่มที่ใช้ธุรกิจนำเข้าส่งออกเป็นฉากบังหน้า เพื่อปกปิดธุรกิจฟอกเงิน โดยเจ้าพ่อฟอกเงินคนนี้ ยังมีความเกี่ยวกันกับการซิ่งรถอย่างผิดกฎหมายบนท้องถนนFBI ที่หมดปัญญาจะตามล่า จึงขำเป็นต้องขอร้อง ไบรอัน โอคอนเนอร์ (Paul Walker) ให้มาทำสิ่งที่เค้าถนัดที่สุด คือการซิ่งรถบนถนน แต่งานนี้ลุยเดี่ยวก็เหมือนจะยากเกินไป FBI จึงหาคู่หูให้กับไบรอัน แต่ก็ไม่ถูกใจ และต้องการจะหาคู่หูเอง โดยเจาะจงเลือก โรมัน เพียรซ์ (Tyrese Gibson) เท่านั้น แต่การมาพบปะกันของสองคนนี้ก็ไม่ได้ราบรื่นซักเท่าไหร่ เพราะโรมันโทษไบรอันเสมอเรื่องที่โรมันต้องเข้าคุก เมื่อเข้ามายังแก๊งค์เป้าหมายได้สำเร็จ ไบรอันก็ได้พับ โมนิก้า ฟูเอนเตส (Eva Mendes) สายลับของFBI อีกคนที่ถูกส่งมาให้อยู่ข้างกายคาร์เตอร์เป็นปีแล้ว แต่ไม่สามารถหาหลักฐานอะไรได้เลย ซึ่งตอนนี้ FBI ก็ไม่แน่ใจว่าตอนนี้โมนิก้ายังไว้ใจได้อยู่ไหม เครดิตภาพ Fast Saga Officialหนังน่าสนใจตั้งแต่เปิดเรื่อง ให้เห็นชีวิตพระเอกที่ต้องมาแข่งรถหาเงินเพราะโดนไล่ออกจากตำรวจ ส่วนคู่ต่อสู้ที่ดูเหมือนจะเก่ง ก็ต้องแพ้ให้พรเอกของเราแน่นอนอยู่แล้ว ความน่าใจของการแข่งรถช่วงฉากเปิดเรื่องคือ สเตปในการขับ การเปลี่ยนคลัช สับเปลี่ยนเกียร์ ทุกอย่างมันคือเสน่ห์ของหนังทั้งหมดหนังเชื่อมต่อเรื่องราวได้ดีหลังจากที่ไบรอันปล่อยตัวโดมินิคไป ให้เห็นถึงผลจากการกระทำ หากปล่อยตัวคนร้ายไป ก็ต้องสูญเสียอาชีพการงาน เพราะในภาคนี้ ไบรอันก็ต้องมาขับรถแข่งหาเงิน เพราะถือว่าติดแบล็คลิสต์ไปแล้วเครดิตภาพ Fast Saga Officialไบรอันไอดอลดังอยู่ระยะหนึ่งเลย เพราะในฉากต้นเรื่องที่พระเอกขับ Nissan Skyline ไฟท้องรถสีฟ้า พวกแฟนคลับพากันเอารถไปติดไฟสีฟ้าใต้ท้องรถกันเพียบ พวกเด็กผู้ชายหันมาสนใจรถนิสสัน สกายไลน์กันอยู่พักนึงเลยภาคนี้หนังเปิดตัวละครจำอวดอย่าง โรมัน เพียร์ซ นักซิ่งสายฮา และ เทจ (Christopher Brian Bridges) วิศวะคอมพิวเตอร์หัวกะทิ ที่จะมีบทบาทอย่างสำคัญในภาคต่อ ๆ ไปคะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 ถ้าจะเอาแค่เนื้อหาและกลิ่นอายในการแข่งรถ หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังที่สามารถเรียกว่าหนังแข่งรถได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ในบรรดาFast ทุกภาค เพราะหนังให้ความสำคัญกับรถ การแข่งรถ และคนขับรถ กลิ่นอายของการแข่งรถเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ยังคงคุกรุ่นในภาคนี้ ส่วนเนื้อเรื่องในการตามล่าผู้ร้าย ไม่ถือว่าโดดเด่นหรือแปลกใหม่เท่าไหร่ ภาคนี้ถ้าไม่ได้โรมันเพียร์ซมาแจม อาจจะไม่สนุกเท่าที่ควรเครดิตภาพ Fast Saga Officialข้อคิดที่ได้จากหนัง1. อย่าปล่อยให้ทิฐิบังตา อย่างเช่น โรมัน เพียร์ซ ที่ตอนแรกพยายามโทษว่าพระเอกทำให้ตนเข้าคุก และก็เชื่ออยู่แบบนั้น ทั้งที่ความจริงแล้ว ตัวโรมันนั้นทำผิดเอง แต่ก็ยังไปโทษเพื่อนที่เป็นตำรวจอย่างไบรอันซะงั้น2. การซ่อนเงิน ทำได้แม้ในผนังบ้าน อันนี้เป็นฉากที่คาร์เตอร์กำลังจะหนี จึงให้ลูกน้องไปที่บ้านหลังหนึ่ง โดยบ้านหลังนั้นดูเป็นบ้านธรรมดา ของคนทั่วไป แต่การออกแบบบ้าน จะทำผนังเป็น 2 ชั้น แต่ว่าด้านในทำแบบโปร่ง เอาไว้ซ่อนเงินได้ (เป็นไอเดียที่ดีสำหรับพ่อบ้านครับ)3. เสียสละ โมนิก้า สายลับสาวที่ยอมเสียสละ เปลืองตัวไปอยู่กับคาร์เตอร์เป็นปีในฐานะสาวข้างกาย การอยู่กับศัตรูในฐานะแบบนั้น ใคร ๆ ก็คงไม่อยากเป็น แต่สำหรับโมนิก้า หน้าที่และความรับผิดชอบย่อมสำคัญกว่าความรู้สึกส่วนตัวเป็นภาพยนตร์ที่เรียกได้เต็มปากว่า หนังแข่งรถ ที่แท้จริง ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องการไล่ล่าตัวร้ายจะไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ฉากหนึ่งที่ผมประทับใจ ก็คือฉากมหกรรมรถป่วนเมือง เรียกได้ว่าคงเป็นฉากที่ลงทุนที่สุดเลยสำหรับหนังเรื่องนี้เครดิตภาพปก Fast Saga Official