#ขอรีวิว EVANGELION: 3.0+1.01 THRICE UPON A TIME อีวานเกเลียน 3.0+1.01 สามครั้งก่อน เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว การันตีด้วยรางวัลภาพยนตร์ดีกรีชนะรางวัลแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมของ Japan Academy Film Prize ครั้งที่ 45 ที่เรียกว่าเป็นออสการ์ของประเทศญี่ปุ่นจบได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับ Neon Genesis Evangelion อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา อนิเมะมานานตั้งแต่ปี 2538 ต้องยอมรับเลยว่าเป็นอนิเมะในใจของผู้เขียนอีกเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะอนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้เน้นไปที่ความสนุกเท่านั้นแต่ตัวอนิเมะสอดแทรกและได้หยิบสัญลักษณ์ทางศาสนา มาเป็นแนวดำเนินเรื่องมันเลยทำให้อนิเมะเรื่องนี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูงในการเล่าเรื่อง ไม่ใช้แค่ตัวอนิเมะที่ดีจนต้องยกนิ้วให้แต่ตัวมังงะนั้นก็ดีไม่แพ้กัน เพราะเขียนโดย อาจารย์ โยชิยูกิ ซะดะโมโตะ ที่ผู้เขียนมีไว้ในครอบครองในตอนนั้นจำได้ว่าซื้อที่ สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ หลังจากที่ผู้เขียนได้อ่านมังงะก็ได้ตามเก็บรวบรวมชุดอนิเมะในตอนนั้นจำได้ว่ามีทั้งหมด 26 ตอน และเป็นการจัดจำหน่ายโดย TIGA ที่ได้นักพากย์จากทีม TIGA มาให้เสียงจำได้ขึ้นใจเลยว่าเสียงนี้เป็นอย่างไรเพราะมันสนุกมากๆ (ในช่วงท้ายจะมี End Credits ท้ายเรื่องเป็นรายชื่อนักพากย์ทำให้ได้รู้ว่าใครพากย์เป็นใคร) จนในที่สุดก็เก็บสะสมเดอะมูฟวี่มาไว้ดูอยู่เรื่อยๆและแล้ว EVANGELION: 3.0+1.01 THRICE UPON A TIME ก็ลงให้ดูในรูปแบบ Video On Demand ที่ตอนนี้ก็ยังปล่อยให้คนดูสามารถดูได้ฟรีผ่าน อเมซอน ไพร์ม และในปีที่ผ่านมานั้นจึงเป็นการที่จิปาถะและอรรถรสก็ได้ดูและซื้อแผ่น BLU-RAY DISC เก็บสะสมไว้ นั้นจึงเป็นการมาเขียนรีวิวในวันนี้ เพราะว่าในวันที่ 13 ตุลาคม 2022 จะเป็นการรับชมผ่านเสียงไทยครั้งแรก ต้องไม่พลาดอย่างแน่นอนเล่าย่อๆเรื่องราวก็เล่าต่อถึงกลุ่มของ อิคาริ ชินจิ ที่ต้องมาเจอกับหมู่บ้านที่ยังเหลือรอดจากผลกระทบโฟร์ธอิมแพกต์ดังกล่าว หมู่บ้านที่แสนสงบสุขแห่งนี้ทำให้พวกของ อิคาริ ชินจิ ที่มาพักรักษาตัวต้องช่วยกันทำงานต่างๆร่วมกับกลุ่มคนที่เหลือรอดในที่แห่งนี้ และการตัดสินใจของ อิคาริ ชินจิ ในครั้งสุดท้ายนี้จะสามารถช่วยทุกคนที่เหลือรอดและช่วยโลกใบนี้ไว้ได้หรือไม่ต้องติดตาม“กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน” 1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / ภาคนี้เป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์นี้เลยก็ว่าได้กับการเดินทางอันยาวนานของตัวละครที่ผู้เขียนรัก ฉากต่างๆของอนิเมะภาคนี้นึกว่าจะมาในรูปแบบที่น่าจะดูและรู้สึกเศร้าๆแต่ที่ไหนได้กลับในความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปเพราะได้เห็นฉากที่มีผู้คนเหลือรอดรวมกันเป็นหมู่บ้านฉากต่างๆมันทำให้นึกถึงโลกเก่าที่ยังคงเป็นปกติผ่านฉากนี้ ถึงแม้ธีมหลังและธีมหลักจะดูโลกร้ายมากก็ตามเพราะทุกพื้นที่ของโลกถูกฉาบไปด้วยสีแดง ความก็สื่อให้เห็นถึงความวินาศสันตะโรมากกว่าที่อนิเมะจะฉายให้เราเห็นด้านที่สวยงาม เพราะนั้นแหละความเป็นอนิเมะเรื่องอีวานเกเลียนมันก็คือความวายป่วงแบบนี้นี่แหละ Mood & Tone ของอนิเมะก็ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสนุกสู้กันมันส์แทบลืมหายใจ ฉากตระการตาที่ส่งมาสู่สายตาของผู้ชมได้อย่างสุดต็าซ แต่ที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดก็คือการที่อนิเมะเปิดเรื่องมาแค่ 3.44 นาที ก็ทำให้เราหวนถึงเรื่องราวทั้งหมดของอนิเมะเรื่องนี้ได้และฉากเก่าๆจากภาคก่อนหน้าพอเสียงเพลงคลอไปเบาๆมันและกลุ่มของ อิคาริ ชินจิ เดินไปมันก็ทำให้เราเหล่าคนดูหดหู่ไปกับมันได้จริงๆ2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / ต้องยอมรับเลยว่าอนิเมะเรื่องนี้กระจายบทได้ดีมากๆโดยเฉพาะการกระจายบทมาที่ตัวสำคัญของเรื่องอย่าง อิคาริ ชินจิ และ อิคาริ เก็นโด ที่เป็นฉนวนของความวินาศสันตะโรในเรื่องนี้ทั้งหมดในเรื่องนี้ ที่สื่อให้เห็นความคิดและแรงจูงใจทั้งหมดในเรื่องว่า ทำไปทำไมเพื่ออะไรและมีเหตุผลลองรับมากมายแค่ไหน มันเป็นจุดแข็งของอนิเมะเรื่องนี้เลยก็ว่าได้เพราะมันทำให้ตัวละครเข้าใจในตัวเองและความคิดของตัวเองมาขึ้นถึงแม้ช่วงท้ายๆตัวอนิเมะจะใช้ Flash back ในการเล่าเรื่องของตัวละครที่ชื่อ อิคาริ เก็นโด และนั้นมันก็ทำให้เราเข้าใจในความพยายามของเขาที่จะทำลายโลกใบนี้ใน DIALOG หนึ่งที่เขาพูดกับ อิคาริ ชินจิ ว่า “ฉันเลือกโลกที่แกปฏิเสธ โลกที่ไม่มีสนามพลังเอที ที่มนุษยชาติแบ่งปันหัวใจและสติปัญญาอย่างเท่าเทียม ไม่มีกำแพงกั้นระหว่างบุคคล ไม่มีคนรวยคนจน ไม่มีการแบ่งแยกไม่มีสงครามไม่มีการทำร้ายไม่มีความเจ็บปวดและโศกเศร้า โลกที่มีแต่ดวงวิญญาณบริสุทธิ์ไร้มลทิน” แค่บทนี้บทเดียวก็ทำให้เราเข้าถึงบทของตัวละครตัวนี้และหากใครได้ติดตามอนิเมะเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2538 ก็จะเกิดความสงสารได้ในทันที ถึงแม้ตัวอื่นๆจะไม่ค่อยมีบทแต่ก็ยังคงมีความเด่นในรูปแบบและการกระทำของมันผ่านฉากที่อนิเมะนำเสนอ 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / ลายเส้นที่ยังคงความต้นฉบับไม่เปลี่ยนแปลงและเรื่องของตัวละครที่เข้มข้นจนถึงภาคสุดท้าย มันเป็นการจากลาที่สวยงามมากจริงๆสำหรับอนิเมะเรื่องนี้ตัวละครต่างๆในภาคนี้ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญไปกับเส้นเรื่องเล่าล้อกันไปได้ดีจนหน้าตกใจและเราก็ได้เห็นว่าตัวละครต่างๆรู้จักที่จะยอมเสียอะไรไปก็แล้วแต่เพื่อให้ได้มาซึ่งความถูกต้องถึงแม้ตัวละครในเรื่องจะแบ่งกันเป็นสองส่วนก็ตาม ผู้เขียนขอแบ่งออกเป็นตัวดีกับตัวร้ายก็แล้วกันเน้อ ตัวดีที่อยากปกป้องโลกจากทุกสิ่งอย่างที่มีทำลายโลกใบนี้และกลุ่มตัวร้ายที่หวังจะสร้างโลกขึ้นมาใหม่ในรูปแบบที่พวกเขาต้องการ มันเลยกลายเป็นว่า ตัวละครทั้งหมดในเรื่องนี้ถูกทำให้เป็นสีเทา เพราะไม่มีใครขาวและดำหรือที่เรียกกันว่าซ้ายสุดกับขวาสุดตัวละครในเรื่องไม่มีทั้งสองอย่างนี้ทุกตัวล้วนอยู่กลางๆและต่างก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง ซึ่งผู้เขียนมองว่าดีกับการออกแบบตัวละครมาแบบนี้เพราะในจะมีความหมายในเราเหล่าคนดูได้ค้นหาและก้าวเดินไปกับตัวละครต่างๆในเรื่องที่ถูกเผยออกมาและเล่าล้อไปกับฉาก บางตัวก็เติบโตได้อย่างสวยงามจนน่าดีใจแต่บางตังก็เหมือนกับโดนทิ้งและตามไม่ทันเพื่อนแต่กับพลิกเรื่องราวต่างๆให้กลับดีขึ้นมาได้ นี้ก็เป็นอีกสุดเด่นของตัวละครในเรื่องนี้4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / ความหมายในภาคนี้ดีมากๆตกผลึกได้งานๆจากคำผู้ของตัวละครในบาง DIALOG “มันป้องกันฉันจากเสียงของคนอื่นช่วยให้ฉันแกล้งทำเป็นเฉยชาได้ ฉันไม่เคยได้สัมผัสความรักจากพ่อแม่ แต่แล้วฉันเองก็กลายเป็นพ่อคน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกใบนี้มันช่างไม่แน่นอนไม่สมบูรณ์แบบและไม่มีเหตุผล มันเป็นโลกที่สิ่งต่างๆพังทลายถ้ารับฟังแต่เพียงผิวเผิน คนพูดไม่เหมือนกันในเวลาที่แตกต่างกันไป เรื่องไหนคือความจริงฉันควรจะหันไปฟังใคร ทั้งสองอย่างอาจเป็นความจริงสำหรับพวกเขา” ในโลกใบนี้มันไม่เคยมีอะไรสวยงามและจะมีเพียงบางสิ่งเท่านั้นที่สวยงามสำหรับบางคนผู้เขียนชอบมากกับความหมายนี้ หรืออีก DIALOG “ความแตกต่างขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ในใจตอนนั้น ฉันกลัวที่จะสร้างความผูกพันกับคนอื่น ฉันเกลียดโลกที่มีแต่พวกเขา ฉันตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยว แต่สังคมดูหมิ่นเหยียดหยามการใช้ชีวิตแบบนี้ ฉันเกลียดการไปบ้านคนอื่น การไปหาเพื่อนที่ไม่ได้สนใจฉันหรือการไปเยี่ยมญาติที่บ้าน ถูกบีบบังคับให้รับรู้เหตุการณ์ในชีวิตของพวกเขาและบังคับให้มีส่วนร่วม การอยู่ร่วมกับคนอื่นเป็นเรื่องที่ทรมานฉันแค่อยากอยู่คนเดียวตลอดเวลา สองสิ่งที่ฉันชอบคือความรู้กับปีโน ไม่มีการหลอกลวงใด ไม่มีการทรยศหักหลังไม่มีความผิดหวังเกิดขึ้น” นับว่าเป็นความหมายที่ดีและตกผลึกได้ทันทีและอนิเมะเรื่องนี้ที่นำเสนอความหมายเล่านี้สื่อออกมาได้ดีจนไม่มีที่ติและลึกซึ้งมากๆ5 “คัท !!!!”เป็นฉากสุดท้ายที่แสนสวยงามมากๆสำหรับอนิเมะที่ยาวนานเรื่องนี้ ถึงอย่างไรก็ตามการนำกับมาใส่เสียงพากย์ไทยในครั้งนี้ผู้เขียนก็ต้องดูให้ได้และน่าจะได้แผ่น BLU-RAY DISC เสียงไทยมาเก็บสะสมไว้อีกแน่นอน เป็นบทสรุปที่สวยงามและเดินทางมาไกลจริงๆกับตัวละครที่ผู้เขียนรักมากอีกตัวหนึ่ง ถึงแม้จะไม่อยากให้มันจบลงแต่ก็คงต้องจบลงอยู่ดี หากผู้อ่านไม่ได้เป็นแฟนอนิเมะเรื่องนี้การจะดูภาคนี้ให้เข้าใจนั้นเป็นเรื่องยากมากๆ อนิเมะเมะน้ำดีเรื่องนี้มีความโดดเด่นจนทำให้ใครหลายๆคนหลงไหลไม่ว่าจะเป็นแนวคิดของตัวอนิเมะเองที่รวมทุกสิ่งอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเชื่อในศาสนาที่มีมาให้เห็นตั้งแต่ตอนแรกที่ออกฉายในปี 2538 แล้ว มันเลยเอามาอยู่ในหัวใจ เอาเข้าจริงๆปีนี้ก็มีของสะสมของอนิเมะเรื่องนี้อยู่นั้นก็คือ ASUS ROG x EVANGELION เป็นคอมประกอบที่จัดได้ว่าเเรงสะใจ (ใครรักอนิเมะเรื่องนี้ต้องจัดสักเครื่อง) สรุปง่ายๆรวมๆสำหรับภาคนี้ EVANGELION: 3.0+1.01 THRICE UPON A TIME อีวานเกเลียน 3.0+1.01 ชื่อไทย สามครั้งก่อน เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว เป็นความลงตัวในทุกด้านไม่ว่าจะเป็น งานภาพสีแสงเสียง (ผู้เขียนชอบเพลงคลอในตอนดำเนินเรื่องช่วงแรกๆ) ด้านงานสร้างเทคนิคกราฟิกก็จัดได้ว่าจัดจ้านสมการรอคอยรวมไปถึงงานด้านความหมายที่ภาคนี้เน้นหนังเป็นพิเศษเปิดปมของตัวร้ายได้อย่างหมดเปลือกกันเลยทีเดียว สรุปอีกทีต้องดูเน้อชอบคำพูดหนึ่งของ คาโอรุ ที่บอกว่า ไม่มีความผิดบาปใดที่ชดใช้ไม่ได้ มันยังมีความหวัง ยังมีความหวังเสมอ(สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก Major Group / DEXclub.com / Japan Anime Movie Thailand - ปก / 1 / 2 / 3 / 4ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม อเมซอน ไพร์ม / ASUS ROG x EVANGELION / Japani Academy Film Prize ครั้งที่ 45 (1) / Japani Academy Film Prize ครั้งที่ 45 (2) / Japani Academy Film Prize ครั้งที่ 45 (3) ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !