ก้อง ห้วยไร่ ระบายความในใจ โดนด้อยค่าเพราะเป็นคนอีสาน ตกเป็นรองตั้งแต่เกิด
ก้อง ห้วยไร่ ระบายความในใจ โดนด้อยค่าเพราะเป็นคนอีสาน ตกเป็นรองตั้งแต่เกิด
ออกมาเผยความในใจถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อ 14 ปีก่อน สำหรับ นักร้องดัง ก้อง ห้วยไร่ กับการเกิดเป็นคนอีสานที่เจ้าตัวว่าถูกด้อยค่าและตกเป็นรองตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบันที่แม้ว่าจะได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่นั้นก็เนื่องมาจากฐานะบทบาททางสังคมเป็นตัวกำหนดอีกเช่นกันว่า…
“อีสาน : ดินแดนที่ส่งให้ตกเป็นรองตั้งแต่เกิด
: ก้องเป็นคนที่ไหน
: ผมเป็นคนจังหวัดสกลนครครับ
: อออออ คนอีสานหรอกหรอ
ผมเคยเข้าไปเรียนในกรุงเทพ เมื่อ 14 ปีก่อน เป็น 14 ปีที่การพูดภาษาถิ่นเป็นเรื่องที่ตลก เป็นเรื่องที่ด้อยค่า เป็นภาพจำที่ทำให้เพื่อนนักศึกษามองเราไปอีกแบบ ด้วยเหตุผลใดก็ตามผมไม่สามารถทราบได้อาจจะเป็นเพราะ คำว่าคนอีสานคือชนชั้นแรงงาน ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านสื่อต่างๆจนกลายเป็นภาพจำ หลายครั้งที่สื่อทางละคร หรือภาพยนตร์ จับเอานักแสดงที่ต้องใช้ภาษาอีสานเพื่อมาเป็นคนรับใช้ คนขับรถ คนใช้แรงงานให้เป็นภาพจำว่าคนอีสาน คือกลุ่มคนที่ไว้รอรองรับคำสั่งและการให้บริการ เพราะฉะนั้นการจะพูดหรือจะแสดงตนว่าคุณเป็นคนอีสานในตอนนั้นเป็นอะไรที่ต้องระวังตัวให้มากเพราะคุณจะถูกมองไปอีกแบบอันนี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมเอง จนผมได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมถิ่นกำเนิดมันถึงมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตจัง #ใคร เป็นคนกำหนดให้มันเป็นแบบนี้แล้วจะต้องแก้ไขมันอย่างไร เพราะลูกของผมคงหนีไม่พ้นที่จะต้องดิ้นรนเพื่อเข้ามาเรียนหนังสือหรือเข้ามาทำงานในเมืองเหมือนผมนั่น คือความคิดผมในตอนนั้น
จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน หลายท่านอาจจะคิดว่าภาษาอีสาน เป็นภาษาที่สวยงาม ที่สามารถเห็นได้ในสื่อเพลง สื่อละคร สื่อภาพยนตร์ เป็นภาษาที่น่ารัก เป็นกลุ่มคนที่มีบทบาททางสังคม ใช่ครับ สังคมปัจจุบันมันเป็นอย่างนั้นจริงๆแต่สำหรับ #คนดัง คนมีชื่อเสียง คนมีเงิน เท่านั้นที่จะได้รับสิทธินี้ พ่อแม่พี่น้องคนอื่น อีกหลายท่าน ยังคงถูกมองว่าด้อยค่า ถูกกดขี่ทางสังคม ไม่ได้รับเกียรติสมกับความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เพียงเพราะคำว่าเค้าเป็น #คนอีสาน
อย่าปล่อยให้ความเชื่อแบบนี้ อยู่กับสังคมเราอีกต่อไปนะครับ หนึ่งคนมีหนึ่งชีวิตเท่าเทียมกัน หนึ่งคนมีเกียรติและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ทุกคนบนโลกเป็นแค่สิ่งมีชีวิต ที่มีเกิดแก่เจ็บตายไม่ต่างกัน ความเท่าเทียมกันควรบังเกิดบนโลกใบนี้ครับ
กวีหลังบ้าน”