รีเซต

หรือว่าปี 2024 จะเป็นปีแห่ง 'ความถดถอย' ของวงการหนังซูเปอร์ฮีโร?

หรือว่าปี 2024 จะเป็นปีแห่ง 'ความถดถอย' ของวงการหนังซูเปอร์ฮีโร?
Jeaneration
14 พฤศจิกายน 2566 ( 12:00 )
124

เป็นเวลาได้ 15 ปีแล้ว ที่โลกได้คลุกคลีและรู้จักกับคำว่าจักรวาลหนังฮีโร การหยิบเอาตัวละครฮีโรจากในหนังสือการ์ตูนมาดัดแปลงสร้างเป็นไลฟ์แอคชันฉบับคนแสดงที่มีการผูกโยงเรื่องราวและสร้างมิติใหม่ ๆ อย่างมีชั้นเชิง ออกมาเป็นปึกแผ่นของโลกใบหนึ่งที่เพิ่มพูนความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไปสู่จุดสูงสุดที่สร้างรายได้อย่างมหาศาลและเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการหนังฮอลลิวูด

จาก Iron Man สู่ Superman ไปถึง Spider-Man ล้วนแต่เป็นตัวละครที่คอหนังคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีบนหน้าจอในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นี่คือแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดใจและดึงดูดเงินได้เป็นกอบเป็นกำ มันเคยเป็นคอนเทนท์ที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นอย่างสูง แต่พอผ่านพ้นช่วงวิกฤตโควิด-19 ไปแล้ว กลับกลายว่าความเชื่อมั่นเหล่านั้นได้มลายหายไป กลายเป็นความสั่นคลอนที่เกิดขึ้นกับวงการหนังซูเปอร์ฮีโรขึ้นแทน

หากย้อนดูผลลัพธ์ภาพรวมกลุ่มหนังฮีโรในปี 2023 ที่ผ่านมา ก็ต้องยอมรับว่าภาพรวมค่อนข้างไปในทิศทางต่ำกว่ามาตรฐานเดิมที่เคยสร้างเอาไว้ โดยที่ทางฝั่งมาร์เวลมี "Ant-Man and the Wasp: Quantumania" (476 ล้านเหรียญ) ตามมาด้วย "Guardians of the Galaxy Vol. 3" (845 ล้านเหรียญ) และล่าสุด "The Marvels" ออกสตาร์ททั่วโลกที่ 110 ล้านเหรียญ

แต่ที่เจ็บตัวหนักสุด ๆ คงจะเป็นฝั่งดีซี ที่มี "Shazam! Fury of the Gods" (133 ล้านเหรียญ), "The Flash" (270 ล้านเหรียญ) และ "Blue Beetle" (129 ล้านเหรียญ) โดยยังเหลือ "Aquaman and the Lost Kingdom" รอฉายอีกเรื่อง โดยทุกโปรเจกต์ในปีนี้ของพวกเขานั้น ทำรายได้ทั่วโลกได้ขาดทุนทุกเรื่อง

สถานการณ์ที่ไม่สู้ดีในแง่ความนิยมที่ลดหลั่งลงไปของกลุ่มหนังฮีโร ประกอบกับเหตุการหยุดงานประท้วงในฮอลลิวูดรอบปีที่ผ่านมา ก็ส่งผลกระทบต่อตัวหนังหลาย ๆ เรื่องอยู่ไม่น้อย ทั้งในแง่การทำงานและการประชาสัมพันธ์หนังได้อย่างไม่เต็มที่ ดังนั้นจึงเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีที่สตูดิโอหนังฮีโรค่ายต่าง ๆ จะพักเบรกและกลับไปแก้เกมในวิกฤตที่เกิดขึ้นครั้งนี้

ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสังเกตได้ว่า ในปี 2024 ที่กำลังจะมาถึงนั้น จะกลายเป็นปีที่ธีมขายหนังฮีโรจะถดถอยลงไปอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่หลาย ๆ โปรเจกต์ประกาศเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม แทบจะทำให้ทั้งปีไม่เห็นหนังแอคชันฮีโรหลงเหลืออยู่ แบบที่คุ้นเคยกันมาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ในปี 2024 มาร์เวลจะเหลือแค่เพียง "Deadpool 3" เป็นหนังฮีโรที่จะออกฉายเรื่องเดียวของปี หลังจากที่ค่ายหนังตัดสินใจเลื่อนฉาย "Captain America 4" และ "Thuderbolts" ออกไป โดยเรื่องแรกมีกำหนดถ่ายทำซ่อมใหม่ หลังจากมีข่าวลือว่าคะแนนในรอบฉายทดลองไม่ค่อยสู้ดี ส่วนเรื่องหลังติดการประท้วงของนักแสดง ทำให้แผนงานต้องล่าช้าออกไปเปิดกล้องช่วงฤดูใบไม้ผลิแทน

ส่วนทางฝั่งดีซีก็มีเพียงแค่เรื่องเดียวทีหลงเหลือเช่นกัน นั่นก็คือ "Joker: Folie à Deux" ของผู้กำกับ ทอดด์ ฟิลลิปส์ แต่ไม่ใช่เพราะติดการประท้วงแต่อย่างใด กลับเป็นเพราะการยกเครื่องใหม่ของค่ายต่างหาก ที่ทำให้เกิดช่องว่างในส่วนการผลิตผลงานในค่าย โดยรูปแบบใหม่ของดีซีจะเริ่มต้นขึ้นในปี 2025 อย่างเป็นทางการ

แต่ถึงแม้ว่า 2 สตูดิโอหลักจะมีหนังออกฉายแค่คนละเรื่องในปี 2024 ก็ยังมีจักรวาลหนังไอ้แมงมุมของโซนี พิคเจอร์ส มาช่วยอุดรอยรั่วให้ได้อยู่ เพราะปี 2024 นั้น โซนีมีส่งหนังออกมาถึง 3 เรื่อง ที่่น่าจะพร้อมฉาย ประกอบด้วย "Madame Web" หนังวายร้ายตัวฉกาจอีกตัวของสไปดี้ ที่จะฉายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ตามมาด้วย "Kraven the Hunter" ที่เดิมจะฉายในปีนี้ แต่ตัดสินใจเลื่อนไปปลายเดือนสิงหาคม 2024 แทน และปิดท้ายปีด้วย "Venom 3" ภาคใหม่ของเวน่อม ที่เลื่อนไปฉายในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่งานโปรดักชันต้องชะงักไปเพราะการประท้วง และเชื่อว่าหนังน่าจะถ่ายทำแล้วเสร็จได้ทันในช่วงปลายปีตามลำดับ

ดังนั้น หากลงนับ ๆ ดูด้วยนิ้วมือก็พบว่าในปี 2024 จะมีหนังซูเปอร์ฮีโรเหลือออกฉายแค่เพียง 5 เรื่องเท่านั้น ซึ่งแบ่งเป็นหนังฮีโรจริง ๆ เพียง 1 เรื่อง กับอีก 4 เรื่องเป็นภาคแยกโฟกัสที่ตัวละครวายร้ายเป็นหลัก และนี่ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า ถึงแก่เวลาที่ควรจะพักเบรกของเทรนด์หนังฮีโรอย่างแท้จริง

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa