“เทอมสองสยองขวัญ” ภาพยนตร์สยองขวัญจากค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ดำเนินเรื่องเกี่ยวกับเรื่องผี เรื่องสยองขวัญ หรือตำนานของมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทางเพจเฟสบุ๊คสหมงคลฟิล์ม ได้มีการปล่อยภาพโปสเตอร์โปรโมทภาพยนตร์ที่นอกจากนักแสดงนำทั้ง 6 คนที่อยู่ในโปสเตอร์แต่ละภาพแล้ว ยังมีเรื่องผีหรือตำนานต่าง ๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยซ่อนอยู่ในโปสเตอร์อีกด้วย วันนี้ผู้เขียนจึงได้หยิบยกเรื่อง “ห้องสีชมพู” มาให้ทุกคนได้ลองอ่านกันครับ “ห้องสีชมพู” เป็นเรื่องสยองขวัญที่สืบทอดกันมาของมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือของประเทศไทย เมื่อนักศึกษาสาวชั้นปีที่ 1 ได้เข้าพักหอพักของมหาวิทยาลัย(หอใน)เพื่อความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของทางมหาวิทยาลัย สำหรับใครที่บ้านอยู่จังหวัดข้างเคียงกับมหาวิทยาลัยอย่างรูมเมทของเธอก็มักจะกลับบ้านช่วงเย็นวันศุกร์และกลับเข้าหอในก่อนช่วงเย็นของวันอาทิตย์ วันดีคืนดีเกิดมีรุ่นพี่ต่างคณะเกิดมาหลงรักนศ.สาวคนนี้เลยชวนให้นศ.สาวไปอยู่ด้วยกันที่หอนอกหลังมหาวิทยาลัย(หลังมอ)ในช่วงเย็นวันศุกร์และจะกลับมาส่งเธอก่อนช่วงเย็นของวันอาทิตย์ ทำให้ทุกช่วงเย็นวันศุกร์และเย็นวันอาทิตย์ที่หน้าหอในมักจะเห็นรถจักรยานยนต์ของรุ่นพี่คนนี้ที่มาจอดรอรับและส่งนศ.สาวอยู่เป็นประจำ เหตุการณ์ดำเนินเช่นนี้เกือบ5เดือน นศ.สาวดีใจเป็นอย่างมาก แต่รุ่นพี่กลับเริ่มที่จะตีตัวออกหากเพราะรู้สึกว่านศ.สาวคนนี้จริงจังกับตนมากจนเกินไป จนกระทั่งวันศุกร์ซึ่งเป็นวันที่รุ่นพี่ควรจะมารับเธอในช่วงเย็นแต่วันนี้กลับมาช้ากว่าปกติ เขามารับเธอไปในช่วงดึกของวันนั้น โดยก่อนหน้านี้เธอได้ยินข่าวลือจากหลายคนว่ารุ่นพี่คนนี้ได้ไปติดพันกับนศ.สาวคนอื่นนอกเหนือจากเธอ แต่เธอก็ไม่กล้าพูดเรื่องนี้ออกไปเพราะกลัวจะสูญเสียคนที่เธอรัก เธอจึงได้แค่ถามถึงเหตุที่เขามารับเธอช้าและเธอเองก็มีเรื่องสำคัญที่จะพูดกับเขาด้วย ทางรุ่นพี่ก็บอกว่าไว้ถึงหอของเขาก่อนค่อยคุยกัน แต่นศ.สาวทนรอไม่ไหวจึงได้พูดออกมาขณะที่กำลังซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของรุ่นพี่เลยว่าขณะนี้เธอตั้งครรภ์ได้3เดือนแล้ว ทางฝ่ายรุ่นพี่ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจึงได้หยุดรถจักรยานยนต์ทันทีแล้วถามว่านศ.สาวพูดว่าอะไรนะ แต่นศ.สาวก็ยืนยันคำเดิมว่าขณะนี้เธอตั้งครรภ์ได้3เดือนแล้ว ทางรุ่นพี่ไม่อยากจะรับผิดชอบจึงได้กล่าวหานศ.สาวว่าเธอนอกกายเขาไปมีอะไรกับชายอื่นจนเกิดตั้งครรภ์ จากนั้นเขาได้บอกเลิกกับเธอในทันใดและให้เธอลงจากรถในทันใด เขาทิ้งเธอไว้ตรงนั้นทำให้เธอต้องเดินจากหลังมอมายังหอในเพียงลำพัง ระหว่างทางกลับหอในนศ.สาวได้คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งความผิดหวังในความรักและกลัวทางบ้านผิดหวังในตัวเธอ เธอจึงตัดสินใจที่จำเอาเด็กออก(ทำแท้ง) แต่เธอไม่ต้องการไปโรงพยาบาลหรือปรึกษากับใคร เมื่อเธอกลับถึงห้องพักของเธอก็พบว่ารูมเมทไม่อยู่เพราะกลับบ้านกันหมด เธอจึงได้ตัดสินใจทำแท้งด้วยตัวเองในห้องพัก เธอได้ใช้ไม้บรรทัดเหล็กกระทุ้งเข้าไปในช่องคลอดของเธอทำให้ช่องคลอดและมดลูกของเธอขาดวิ่น เลือดของเธอได้เปื้อนไปทั่วบริเวณ เธอเกิดอาการตกเลือดอย่างรุนแรงและก่อนที่เธอจะเสียชีวิตเธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายใช้เลือดของตนเองเขียนข้อความไว้บนกำแพงว่าเธอมีเพียงเขาคนเดียว เช้าวันรุ่นขึ้นรูมเมทของนศ.สาวกลับมาที่ห้องและพบศพของนศ.สาวพร้อมสภาพห้องที่เปรอะไปด้วยเลือดและข้อความบนกำแพง รูมเมทเลยได้แจ้งกับป้าคุมหอพัก จากการสอบสวนถึงเหตุที่รูมเมทคนนี้ได้กลับมาหอพักก่อนเย็นวันอาทิตย์ก็ได้ทราบว่าเธอฝันเห็นนศ.สาวที่มาบอกลาและให้ไปนำศพของนศ.สาวลงมาจากหอพัก พร้อมกับฝากบอกป้าคุมหอพักว่าห้ามใครก็ตามมายุ่งกับห้องของเธอ!! หลังจากที่นำร่างของนศ.ลงมาจากห้องพักเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเป็นที่เรียบร้อย ทางหอพักก็ได้ทำความสะอาดห้องนั้นครั้งใหญ่ ทั้งการเปลี่ยนฟูกที่นอน และเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดที่เปรอะรอบ ๆ บริเวณเตียง รวมถึงข้อความที่นศ.ทิ้งไว้บนกำแพง จากนั้นจึงได้ทาสีทับบนกำแพงเพื่อไม่ให้เห็นข้อความเลือดและคราบเลือดที่ไม่สามารถเช็ดออกได้ แต่เรื่องสยองก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันต่อมา กำแพงที่ควรจะเป็นสีที่ถูกทาทับกลับมีข้อความเลือดที่นศ.สาวที่ทิ้งเอาไว้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ทางหอพักจึงได้ทาสีทับใหม่อีกรอบ แต่วันรุ่งขึ้นข้อความเลือดก็กลับปรากฏขึ้นมาอีกเช่นเดิม ทางหอจึงได้เชิญพระที่วัดฝายหินเพื่อมาทำพิธีทางศาสนาให้แต่พระท่านกลับบอกว่าทำพิธีวิญญาณของเธอก็คงไม่ไปเพราะวิญญาณของนศ.สาวผูกพยาบาทเป็นอย่างมาก นอกจากความอาฆาตแล้วเธอยังมีเด็กในท้องอีกด้วยเลยทำได้แค่สะกดวิญญาณไม่ให้ไปหลอกคนในหอพัก หลังจากทำพิธีสะกดวิญญาณแล้วทางหอพักจึงได้ใช้สีชมพูทาทับทั่วทั้งห้องเพื่อที่จะได้มองไม่เห็นคราบเลือดที่ปรากฏขึ้นมาจนกลายเป็นตำนาน“ห้องสีชมพู” ปัจจุบันไม่ทราบว่าห้องสีชมพูถูกใช้เป็นห้องพักหรือไม่แต่หลังจากนั้นก็ได้มีเรื่องสยองขวัญเกิดขึ้นอยู่ตลอด เมื่อห้องสีชมพูถูกใช้เป็นห้องเก็บของที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปเลยได้แต่โยนของเข้าไปเนื่องจากมีข่าวลือของแม่บ้านที่เคยเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้ทั้ง ๆ ที่กลอนและล็อกของลูกบิดประตูก็อยู่ทางด้านในห้อง และมีเรื่องเล่าต่อกันมาอีกว่า ห้องสีชมพูนี้จะอยู่ที่ชั้น 2 ตอนนั้นทั้งแถบนั้นไม่มีนักศึกษาคนใดกล้าที่จะอาศัยอยู่ใกล้ห้องนั้นแม้แต่คนเดียว เพราะกลัวเกี่ยวกับประวัติห้องสีชมพูนั้นมาก แต่มีนศ.หญิงคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่เชื่อกับเรื่องที่เล่าเท่าไหร่ได้บอกว่างั้นถ้าไม่มีใครอยู่จริง ๆ ขออยู่ใกล้ ๆ ห้องนั้นเพราะไม่มีใครพักแถวนั้นน่าจะเงียบดีจะได้ไม่มีใครรบกวน ป้าผู้คุมหอก็เลยถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจเพราะลงชื่อห้องไปแล้วจะเปลี่ยนไม่ได้เพราะห้องจะไม่ว่าง นศ.คนนั้นก็ยังยืนยันคำเดิมว่าจะพักห้องไหนก็ได้ที่อยู่แถบนั้น นศ.หญิงคนนั้นจึงได้อยู่ห้องถัดจากห้องสีชมพูไปอีก 2 ห้อง นศ.คนนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวอะไร ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากรับน้องเสร็จ คืนนั้นเอง หอหญิงก็ต้องตื่นกันทั้งหอตอนตี 2 เพราะได้ยินเสียงกรีดร้องของนศ.คนนั้นดังก้องหอพัก ป้าผู้คุมหอ รปภ.หน้าประตูหอและนศ.ทั้งหมดต่างออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ป้าผู้คุมหอและรปภ.จึงได้ไปที่ห้องต้นตอของเสียงร้องพอจะเปิดประตูห้องของนศ.คนนั้นแต่ประตูห้องกลับล็อกอยู่ ป้าผู้คุมหอเลยบอกให้เปิดประตูห้องและถามว่าเกิดขึ้น เป็นอะไรรึเปล่า นศ.คนนั้นก็ตะโกนออกมาบอกว่าประตูไม่ได้ล็อกแต่มีผู้หญิงคนหนึ่งดึงประตูไว้อยู่ พูดแค่นั้นทั้งป้าผู้คุมหอ รปภ.พร้อมกับนศ.หญิงอีกหลายคนรีบวิ่งแทบเตลิด แต่พอกำลังจะวิ่งลงมาประตูห้องกลับเปิดออกเอง และพบนศ.คนนั้นนอนสลบคาห้อง ทุกคนจึงได้นำตัวออกมาปฐมพยาบาลที่ชั้นล่าง โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่ากว่าจะเข้าไปเอาตัวนศ.คนนั้นออกมาได้ ป้าผู้คุมหอต้องไปเอาองค์พระพุทธรูปที่หิ้งพระขึ้นมาเลยทีเดียว ส่วนรปภ.ก็ต้องเอาสร้อยพระออกมาถือชูไว้ด้านหน้า แล้วค่อย ๆ อุ้มนศ.คนนั้นออกมาโดยให้นศ.คนอื่น ๆ ช่วยกันดันไม่ให้ประตูปิด พอปฐมพยาบาลเสร็จแล้วนศ.คนนั้นก็ฟื้นขึ้นมาก็เอาแต่ร้องไห้บอกว่าจะลาออกไปเรียนที่อื่น จนตอนเช้าพ่อแม่ก็บินมาจากกรุงเทพมาหาที่หอพักแล้วให้นศ.คนนั้นเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะพ่อแม่ไม่เชื่อว่าลูกถูกผีหลอก แต่น่าจะโดนเพื่อนแกล้งมากกว่า นศ.คนนั้นเลยเล่าให้ฟังว่าตอนที่อ่านหนังสืออยู่ ก็ได้ยินเสียงคนหายใจใกล้ ๆ หู จากนั้นก็ได้ยินเสียงขาเตียงเลื่อนเหมือนมีคนนั่ง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าอาจจะเป็นเสียงจากด้านล่าง สักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนคนหายใจไม่ออก แล้วก็ไอเบา ๆ ตนเริ่มที่จะกลัวขึ้นมานิด ๆ ด้วยความสงสัยและอยากรู้เธอเลยพูดออกไปว่า 'อยู่ห้องใกล้ๆกันออกมาให้เห็นเลยดีกว่าไหม' แค่นั้นก็ได้ยินเสียงเล็บขูดกับกำแพงรอบ ๆ ห้อง รอบแล้วรอบเล่าจนทนไม่ไหวจะวิ่งออกจากห้อง แต่พอหันไปทางประตูแค่นั้น ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดนอนสีเหลืองครีม มีเลือดออกมาทางหู ตา จมูก ปากและช่องคลอด ยืนจ้องหน้าพร้อมกับพูดว่า 'อยากเจอไม่ใช่เหรอ มาหาแล้วนี่ไง!!' นักศึกษาคนนั้นจึงร้องออกไปอย่างสุดเสียง หญิงสาวคนนั้นหัวเราะและมองมาทางตนเอง แล้วก็ได้ยินเสียงป้าคุมหอบอกให้เปิดประตูแต่ตนไม่ได้ล็อก พอบอกไปว่ามีหญิงสาวคนนี้ยืนจับประตูอยู่แค่นั้นหญิงสาวคนนี้ก็หัวเราะแล้วเดินทะลุกำแพงห้องข้าง ๆ ไปเลย จากนั้นประตูก็เปิดออกเองแล้วตนก็สลบไป พ่อแม่นศ.คนนี้ได้ฟังยังไม่อยากเชื่อเลยขอดูห้องสีชมพู แต่เพียงแค่อยู่ด้านล่างแล้วมองขึ้นไปยังไม่ทันได้ไปถึงห้องก็เห็นหญิงสาวคนนั้นยืนที่หน้าต่างให้เห็นด้วยใบหน้าโชกเลือด ทั้งพ่อแม่และนศ.คนนั้นเลยรีบออกจากหอพักนั้นทันที และได้ย้ายไปเรียนที่กรุงเทพฯ ส่วนชั้นนั้นก็ไม่มีใครกล้าไปอยู่ใกล้ ๆ ห้องสีชมพูเลย วันดีคืนดีก็ได้ยินเสียงร้องไห้บ้าง เสียงกรีดร้องบ้าง หรือบางทีไฟห้องนั้นก็เปิดเองทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลอดไฟ เป็นอย่างไรกับบ้างครับกับการชวนอ่าน “ห้องสีชมพู” เรื่องผีที่ซ่อนในโปสเตอร์ “เทอมสองสยองขวัญ” บอกเลยว่าครั้งแรกที่ผู้เขียนได้อ่านก็นานมามากแล้วแต่ก็ยังคงความสะพรึงไว้ได้ดีเป็นอย่างมาก แต่ผู้เขียนก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงตำนานที่เล่าสืบทอดกันมาหรือเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผู้เขียนเพียงได้ไปอ่านมาแล้วนำมาเรียบเรียงให้ทุกคนได้อ่านกันเพื่อความบันเทิงเท่านั้นและเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการรับชมภาพยนตร์ “เทอมสองสยองขวัญ” ที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 24 มีนาคม ที่จะถึงนี้ด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบเรื่องสยองขวัญเรื่องใดหรือมีเรื่องสยองที่อยากให้ผู้เขียนไปอ่านและนำมาเรียบเรียงให้ฟังสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันในคอมเมนต์ได้เลยนะครับตัวอย่างภาพยนตร์: ทีเซอร์แรก : เทอมสองสยองขวัญ (Offcial Teaser.)https://www.youtube.com/watch?v=Nlr3WL3C4a4 ขอขอบคุณภาพประกอบบทความ:ภาพหน้าปก, ภาพประกอบที่1และภาพประกอบที่2 จาก สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล Sahamongkolfilm International ภาพประกอบที่3 จาก Bergadder / Pixabayภาพประกอบที่4 จาก KELLEPICS / Pixabayภาพประกอบที่5 จาก Tama66 / Pixabayภาพประกอบที่6 จาก Desertrose7 / Pixabayจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !