รูปภาพที่ใช้ทั้งหมด Cap จาก มือถือของผู้เขียนบทความเอง สำหรับมือใหม่ที่พึ่งจะลองเล่นเกม Heart Stone จำเป็นต้องรู้ว่าในเกมนี้มีสามารถจัดรูปแบบสำรับไพ่ ( Deck ) หลัก ๆ ออกได้เพียง3 กลุ่มใหญ่ ๆ เท่านั้น และแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นและจุดด้อยและ Style การเล่นที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะไปจัดสำรับแบบไหนมาจากการ์ด 30 ใบก็ตาม แต่สำรับที่คุณจัดออกมายังไงก็ต้องมีลักษณะ 1 ใน 3 อย่างที่ผมกำลังจะอธิบายให้ทราบในส่วนถัดไปนี้ ลองดูแล้วกันว่าตัวเองชอบเล่น Style แบบไหนจะได้เป็นแนวทางในการจัดสำรับเล่นไว้แข่งในโหมดจัดอันดับ หรือลง Tournament ตามรายการต่าง ๆรูปแบบ Deck 3 แบบที่เล่นกันในเกม Hearth Stone1. Aggro Deck (เกมเร็ว) : แบบแรกเป็นแบบที่นิยมเล่นกันในโหมดจัดอันดับมากที่สุดนั่นคือ Deck แบบ Aggro หรือเกมเร็ว Deck แบบนี้เน้นการเล่นแบบกดดันคู่ต่อสู้ตั้งแต่ตอนต้นเกม เป็น Deck ที่ออกแบบมาเพื่อเล่นแบบเกมเร็วและต้องพยายามสังหารอีกฝ่ายให้เร็วที่สุดด้วยทรัพยากรที่มี ใน Deck จะประกอบด้วยการ์ดที่มีค่า Mana curve ส่วนมาก 1 – 3 และไม่เกิน 5 เพื่อให้สามารถครอบครองช่วงต้นเกมได้ดีกว่าอีกฝ่าย เป็น Deck ที่เล่นง่าย มีแนวทางการเล่นชัดเจนจึงเหมาะกับมือใหม่เป็นอย่างมาก Class Hero ที่นิยมนำมาทำ Deck Aggro นี้ส่วนมากจะมี 4 Class คือ Hunter , Warrior , Paladin , Druid และ Warlock- ข้อดี : เล่นง่าย ครอบครองช่วงต้นเกมได้ดีกว่าอีกฝ่าย ชนะ Deck แบบ Control จะอธิบายในส่วนถัดไป- ข้อเสีย : ถ้าต้นเกมครองเกมไม่ได้ หรือสังหารอีกฝ่ายไม่ได้ ปล่อยไปถึง Late game ช่วง Mana 8 – 10 จะมีโอกาสแพ้สูงมากกว่ามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แพ้ Deck แบบ Midrange ในช่วงต้นเกมตัวอย่าง Deck เช่น : Pirate warrior , Zoo warlock , Face Hunter , Token druid นำ key word พวกนี้ไป search google ดูได้เลยจะรู้เองว่าเขาจัด Deck กันยังไง2. Mid range Deck (กลางเกม) : เป็น Deck ที่ออกแบบมาเพื่อตบ Deck แบบ Aggro หรือแบบแรก โดยจะมีลักษณะที่ประกอบด้วยการ์ด ที่มีค่า mana cost พอดีไม่มากไปไม่น้อยไปทำให้เล่นได้ง่ายสบายในช่วงต้นเกมถึงช่วงกลางเกม สไตล์การเล่น Deck แบบนี้ต้องพยายามครองเกมสบาย ๆ และ Combo สังหารคู่ต่อสู้ให้ได้ในช่วงกลางเกม Deck ลักษณะนี้จะประกอบด้วย ค่า Mana curve ของการ์ดช่วงตั้งแต่ 2 - 7 เป็นหลักเพื่อให้เล่นได้สบายตั้งแต่ช่วงต้นถึงกลางเกม Class Hero ส่วนมากที่นิยมนำมาใช้คือ Paladin และ Shaman - ข้อดี : ครองเกมง่ายช่วงต้นเกมถึงกลางเกม ชนะ Deck แบบ Aggro เล่นง่าย การฺดมีความสมดุล- ข้อเสีย : หาก Late game ทำ Combo สังหารคู่ต่อสู้ไม่ได้ ก็แทบไม่มีโอกาสชนะเลย แพ้ Deck แบบ Control ต้องบริหารทรัพยากรดี ๆตัวอย่าง Deck เช่น : Mid range Paladin , Mid range shaman นำ key word พวกนี้ไป search google ดูได้เลยจะรู้เองว่าเขาจัด Deck กันยังไง 3. Control Deck (ท้ายเกม) : เป็น Deck แบบสุดท้ายที่เน้นช่วง Late Game หรือ ท้ายเกม เป็น Deck ที่เล่นยากที่สุดและมันส์ที่สุดเพราะผู้เล่นจะต้องใช้สมองในการคิดวิเคราะห์และคำนวณต่าง ๆ มากมาย Style การเล่น Deck ชนิดนี้หลัก ๆ คือต้องเอาตัวรอดในช่วงต้นเกมและกลางเกมให้ได้ พอถึงช่วงเลทเกมก็เป็นโอกาสที่ Deck ของเราจะแสดงอิทธิฤทธิ์ ให้ฝ่ายตรงข้ามให้เห็นแล้ว แต่ส่วนมากเจอ Deck Aggro ตบตายห่าก่อนในช่วงต้นเกม แต่ถ้าเลทเกมได้แล้วบอกได้คำเดียวว่า Deck แบบนี้โอกาสชนะเราแทบจะ 100 เปอร์เซ็น ถ้าสู้กับพวก Aggro หรือ Mid range แล้วรอดมาได้ Deck แบบนี้เป็น Deck ที่เล่นสนุกที่สุดใน 3 แบบที่กล่วงมาเพราะดัดแปลงกลยุทธ์ได้หลากหลายมากมาย- ข้อดี : ชนะ Deck แบบ Mid range ทรัพยากรเยอะ Combo โหด หากยื้อเกมไปช่วง Late เกมได้เรียกได้ว่าชนะแทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์- ข้อเสีย : แพ้เด็ดเกมเร็ว ช่วงต้นเกมจะอ่อนแอมาก ต้องพายามเอาชีวิตรอดออกมาจาก Aggro ที่รุมกระทืบเราให้ได้ตัวอย่าง Deck เช่น Control priest , OTK Deck , Control Shaman นำ key word พวกนี้ไป search google ดูได้เลยจะรู้เองว่าเขาจัด Deck กันยังไง และทั้งหมดนี้คือ Plat form 3 รูปแบบหลักที่คนมีกจัด Deck เล่นกันในเกม Hearth Stone ชอบแบบไหนก็ไปจัดมาลองเล่นกันดูได้ให้เข้ากับรูปแบบการเล่นที่ตนเองชอบนะ