หนังแนวซอมบี้คืออีกแนวหนังที่คนดูมักสนใจและรักที่จะดูมันมายังสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี กี่ยุค ท่ามกลางแนวหนังยอดนิยมที่เปลี่ยนไปมาทุกปีไม่เคยซ้ำ แต่ดูเหมือนว่าหนังแนวซอมบี้ก็ยังคงเป็นอีกแนวหนังที่ผู้ชมยังคงถวิลหาความสดใหม่ แตกต่าง ที่มีมากกว่าแค่การหนีซอมบี้เพียว ๆ จากยุคสองพันต้น ๆ ที่มีไว้มากมายหลากเรื่องมาโดยเสมอ ฟากหนังไทยเองก็มีหนังซอมบี้คอยปล่อยสู่สายตาผู้ชมคนดูมานับไม่ถ้วน นับย้อนกลับไปตั้งแต่ผลงานหนังซอมบี้สุดคัลท์ไม่เน้นระทึกแต่เน้นน่าจดจำอย่าง ขุนกระบี่ผีระบาด และเสริมด้วยสไตล์ที่จริงจังน่ากลัวมากขึ้นใน 5 แพร่ง ผีห่าอโยธยา ก่อนจะเริ่มกลายพันธุ์มีองค์ประกอบแปลกใหม่ให้เข้ากับยุคหนังในช่วงนี้อย่าง อีสานซอมบี้ และ ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ หรือในฟากของซีรีส์เองก็มีการหยิบรีเมคดัดแปลงจากฉบับเกาหลีมาเช่นกันอย่าง Happiness ที่ TrueID จนมาถึงคิวล่าสุดของทาง Netflix กับโปรเจกต์มากมายในหลายปีที่ผ่านมาที่ล้วนพิสูจน์แล้วว่าบุคลากรคนผลิตหนังและซีรีส์ไทยล้วนมีของและไปได้สุดในแนวของมัน "ปากกัดตีนถีบ" เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่มุ่งเน้นจะเล่าหนังซอมบี้ไทยเรื่องแรกที่ส่งตัวจาก Netflix Thailand Original ที่ผสมองค์ประกอบอย่างแม่ไม้มวยไทยเข้าไปในเรื่องและเชื่อมโยงประเด็นภัยอากาศในโลกปัจจุบันอันใกล้ให้ขับเคี่ยวดูไปด้วยกัน นี่เลยเป็นอีกหนังแนวซอมบี้ที่แฟนหนังคอซอมบี้น่าสนใจพอตัวอยู่ไม่น้อย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ปากกัดตีนถีบ หนังซอมบี้ที่อัพเดทระบบด้วยงานสร้างที่ทำถึงและต่อยอดไปไกล ความรู้สึกหลังดูจบ ขอชื่นชมในตัวภาพรวมของหนังก่อนว่านี่คือหนังซอมบี้ไทยที่ถูกอัพเดทงานสร้างให้ต่างจากเรื่องอื่น ๆ ได้เห็นอย่างชัดเจนมาก ๆ และน่าจะดีที่สุดตั้งแต่หนังซอมบี้ไทยเคยทำมาเลยด้วยซ้ำ ด้วยงานสร้างของตัวโรงพยาบาลที่ดูเซ็ตติ้งเข้ากับเรื่องราวที่เพิ่งเกิดการระบาดใหม่ ๆ ได้อย่างดีเยี่ยมคมกริบ ดูสยองขวัญ วุ่นวาย แต่ขณะเดียวกันดูไม่ได้เซ็ทจนผิดธรรมชาติ และยังให้ความรู้สึกน่ากลัวคาดเดาสถานการณ์หนังได้ยากดี พร้อมกับเนรมิตตัวซอมบี้ของเรื่องนี้ที่ดูสยดสยองน่ากลัว อาจจะไม่ได้แปลกใหม่ในภาพรวมไปทั้งหมดแบบยกแผง แต่การกลายพันธ์ุและบางจังหวะที่เป็นกิมมิคก็ยังสามารถโชว์ศักยภาพที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องได้ดีกับที่มาที่ไปของต้นตอไวรัส ซึ่งที่ว่ามามันคือส่วนสำคัญชององค์ประกอบหลัก ๆ ที่จะเนรมิตให้คนดูรู้สึกซื้อและอินตามเรื่องราวพล็อตหนังซอมบี้หนังสมัยนี้ที่แค่วิ่งไล่ตามคงจะไม่พอ ออกมาได้ตอบโจทย์ตัวเองดี เรียกว่าเป็นผลงานที่ดึงกลิ่นอายมูดโทนความสยองขวัญจากตัวซอมบี้ออกมาใช้คุ้มสุดในบรรดาหนังซอมบี้ไทย นำกิมมิคการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยมาเติมแต่งให้มีลูกเล่น ถ้าคาดหวังเป็นแนวซอมบี้ระทึกขวัญเอาตาย แบบไร้ทางสูงมีเพียงแค่ทางหนี เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่แนวที่คาดไว้ แต่ในอีกเวย์ที่ผู้สร้างเน้นเปลี่ยนมาเป็นแอ็คชั่นระทึกขวัญก็ได้รสชาติใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์คนดูยุคนี้ได้ดีโดยเฉพาะการสตรีมมิ่งฉายบนแพลตฟอร์ม Netflix ยิ่งเวิร์คแบบเห็นได้ชัด จึงเกิดเป็นการได้ลุ้นหนีตายซอมบี้และสนุกกับท่าทางการต่อสู้ของตัวเองที่เป็นอดีตนักมวย เหมือนได้ความรู้สึกได้ดูหนัง Resident Evil ฉบับ มิลล่า โจโววิช หรืออารมณ์คล้ายกับเกม Dead Rising ที่สนุกกับการที่ตัวเอกคว้านั้นจับนี้เอามาตีกับซอมบี้ได้สนุกมือและเมามันส์ เมคอัพซอมบี้ที่ดูเป็นซอมบี้จริง ๆ อีกครั้งของหนังซอมบี้ไทย ซอมบี้ เป็นชื่อที่เราได้ยินบ่อย ๆ ในวงการหนังและซีรีส์ แต่ก็มีหลายคราที่หลายเรื่องตีความสร้างซอมบี้ออกมาให้ไม่ได้ดูเป็นซอมบี้ แต่เหมือนคนแต่งหน้าเป็นซอมบี้จนเห็นได้ชัดและขัดอารมณ์มาแล้วหลากนักต่อนักเรื่อง กลับกันกับ ปากกัดตีนถีบ ที่สร้างสรรค์ซอมบี้เหล่านี้ออกมาได้สมจริง น่ากลัว ดูไม่เป็นการแต่งคอสเพลย์เป็นซอมบี้เลยสักนิด พร้อมกับแต่งเสริมพิเศษของซอมบี้ในบางตัวก็ดูครีเอทสร้างสรรค์ให้แปลกตาสำหรับหนังซอมบี้ไทยได้ดีมาก พยายามสอดแทรกประเด็นโลกร่วมกึ่ง Apocalypse เป็นอีกครั้งที่หนังซอมบี้ไทยเรื่องนี้เน้นจะเชื่อมโยงเซ็ตติ้งแบ็คกราวไปในด้านของโลกในอนาคตอันใกล้ และตีความเป็นผลจากโลกเผชิญวิกฤติพลังงานพร้อมภัยธรรมชาติที่ทำให้ประเทศไทยและทั่วทั้งโลกเปรียบเสมือนโลกกึ่ง Apocalypse ซึ่งมีต้นตอไวรัสมาจากนายทุนที่นำเข้าตัวปลาหายากจากทะเลประเทศภายนอกที่ปนสารปนเปื้อนติดเชื้อมาให้ฟีลคล้ายสะท้อนโลกความเป็นจริงในการรับมือการเกิดวิกฤติการณ์หนัก ๆ ขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งทั้งมวลเรื่องราวก็เล่าให้ผู้ชมเห็นออกมาดีเพียงแต่มันออกสำเร็จแค่เปลือกมากกว่าเนื้อจนเสียดาย เน้นบันเทิงจนลืมความคมของตัวบทหนัง แม้จะชื่นชมในความสนุกและงานสร้างของหนังซอมบี้ไทยเรื่องนี้ ที่ภาพรวมเข้าขั้นเข้าที่เข้าทางมากที่สุดในช่วงหลัง ๆ ทั้งงานสร้างบวกกับกิมมิคเสริมความสนุก แต่กิมมิคและองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าสนใจที่ถูกนำเสนอผ่าน ๆ ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมง 36 นาทีก็ไม่เพียงพอจะสร้างมิติอิมแพ็คให้ลึกซึ้งตึงใจได้ยอดเยี่ยมเลย ทั้งเซ็ตติ้งเรื่องราวของประเทศและที่มาที่ไปของการระบาดที่ดูล่องลอย และใช้กิมมิคชกมวยเป็นแค่ทางผ่าน รวมถึงมิติตัวละครที่แบนราบ แต่ทั้งนี้ถ้ามองย้อนกลับไปเป็นหนังยุคซอมบี้ในช่วงปีสองพันต้น ๆ ก็ถือว่าเป็นหนังเสิร์ฟบันเทิงที่ดูสนุกรสชาติใช้ได้ ไม่ต้องถามความสมจริงและมิติคมคายมากขึ้น เนื้อเรื่องเรียบง่ายทุกอย่างเกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ แต่กลับกันในปี 2025 ความบันเทิงเพียว ๆ อาจจะไม่เพียงพอ นอกเหนือความบันเทิงที่หนังทำได้ หนังก็ไม่สามารถนำความสมจริงที่โอเคและความคมคายของบทที่สนุกหรือสถานการณ์ในบางจุดที่ไม่ควรปล่อยให้มีเอ๊ะหรือไม่สมบูรณ์แบบนี้มาทำให้คนดูอินได้เท่าไหร่ ก็นับว่าน่าเสียดายอีกครั้ง ที่ตัวบทหนังซอมบี้ไทยเรื่องนี้ยังไม่สามารถมีสักยภาพจะก้าวข้ามจุดบอดของหนังและซีรีส์ไทยไปได้อีกเรื่อง หนังซอมบี้ไทยที่สอบผ่านฉลุยเรื่องความบันเทิงแต่ยังวนอ่างในเรื่องของบทที่เบาหวิวจนน่าใจหาย ภาพรวมแล้ว "ปากกัดตีนถีบ" คือหนังซอมบี้ไทยรสชาติที่ยังไม่ได้ใหม่บ้าง แต่มีบางองค์ประกอบที่พอจะชวนว้าวและผลักดันในแง่งานสร้างให้แตกต่างจากเรื่องอื่นได้ดีอยู่ แม้ในภาคส่วนของตัวบทจะยังเข้าขั้นธรรมดาและมิติแบนราบไปเสียนิด แต่ความกิมมิคแม่ไม้มวยไทยยังพอทำให้เราเอนจอยไปกับหนังได้ดีอยู่พอสมควร อบคุณแหล่งที่มาของภาพ ภาพหน้าปก 1 จาก Facebook : Netflix ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook : Netflix จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !