Movie Review Ransomed (2023) คู่ระห่ำ ไถ่ข้ามโลก เอาเรื่องควรซีเรียสมาเล่าในโทนเบาได้อย่างสนุกถึงกึ๋นเอาจริงก็ได้เอาฮาก็ดีตื่นเต้นลุ้นระทึกเร้าใจแม้จะไม่ใช่งานที่มาบู๊สะบั้นหั่นแหลก รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ผู้เขียนมีอะไรติดในใจนิดหน่อยว่าถ้าว่ากันถึงหนังที่สร้างจากเรื่องจริงหรืออ้างอิงจากเหตุการณ์จริงโดยเฉพาะกับสถานการณ์ในตะวันออกกลางดูเหมือนเกาหลีจะมีบ่อย นั่นคือสร้างบ่อยเพราะเกิดเหตุการณ์บ่อยๆหรือสร้างไม่บ่อยแต่เมื่อทำออกมาแล้วมันกลายเป็นที่จดจำก็ไม่ทราบเช่นเอาที่นึกออกเลยทันทีก็หนังชั้นเยี่ยมอย่าง Escape from Mogadishu (2021) ที่ตัวหนังถึงทั้งคุณภาพและความบันเทิงเลยกลายเป็นที่จดจำ ประกอบกับการได้นักแสดงนำชั้นแนวหน้าอย่างคิมยุนซอก,โจอินซองและฮอจุนโฮหนังเลยถึงพร้อมทุกอย่างที่อาจไม่ได้เกิดในตะวันออกกลางแต่ก็คล้ายๆ กับอีกเรื่องที่เมื่อดูเรื่องนี้ในวันนี้ที่ไม่มีทางไม่คิดถึงคือ The Point Men (2023) ที่อาจไม่ถึงขนาดเป็นความยอดเยี่ยมแต่หนังก็ดูสนุกลุ้นระทึกได้ตามต้องการกับการกดดันทางอารมณ์ แต่เรื่องหลังทางเนื้อหาอาจไม่ได้เป็นที่จดจำนักแต่การแสดงนี่ยังไงก็ต้องติดในใจหลังดูจบแน่นอนเพราะเป็นการประชันกันระหว่างสองตัวพ่อฮยอนบินและฮวังจองมินและคราวนี้สถานการณ์คล้ายกันก็มาอีกแล้ว อีมินจุน (ฮาจองอู) นักการทูตเกาหลีไต้ที่ไม่มีอะไรโดดเด่นหน้าที่การงานก็ถูกรุ่นน้องแซงหน้าแต่เขาอยากไปประจำอยู่ที่สหรัฐอเมริกาทว่าความเป็นไปได้มันน้อยนิดเสียเหลือเกิน เขาจึงอาสาไปปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการเพื่อเอาค่าไถ่ไปไถ่ตัวนักการทูตชาวเกาหลีที่ถูกลักพาตัวไปในปี 1986 เพราะเขาเป็นคนรับโทรศัพท์ที่ยืนยันว่านักการทูตคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเขายื่นเงื่อนไขว่าถ้าทำสำเร็จเขาต้องได้ย้ายไปอเมริกาเพราะงานนี้เหมือนเอาชีวิตไปทิ้งอีมินจุนจึงเดินทางไปยังกรุงเบรุตประเทศเลบานอนเพียงลำพัง แต่สถานการณ์ก็พลิกผันเพราะเขาหอบเงินมหาศาลจนกลายเป็นที่หมายตาเขาจึงต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปขึ้นรถแท็กซี่ของคิมพันซู (จูจีฮุน) คนเกาหลีที่จับพลัดจับผลูได้มาใช้ชีวิตที่นี่ แล้วคิมพันซูก็ไม่ใช่คนที่น่าเชื่อถือเพราะแม้จะพูดอาหรับได้และรู้เส้นทางเป็นอย่างดีแต่ก็กะล่อนใช่เล่น แล้วอีมินจุนจะช่วยชีวิตนักการทูตคนนั้นได้หรือไม่เพราะนอกจากจะต้องเอาข้างหน้าเป็นไปแล้วยังไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากรัฐบาล เดินหน้าไปแบบไปตายเอาดาบหน้าที่มีอะไรหลายอย่างที่น่ากังขาแต่เมื่อออกตัวว่าอ้างอิงจากเรื่องจริงก็พอทำใจยอมรับได้ หนังออกตัวและปิดท้ายว่าอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงที่เป็นความลับสุดยอดซึ่งมันแน่นอนว่าจะต้องมีการเติมแต่งเรื่องบันเทิงลงในเรื่องจริง ซึ่งความเจ๋งคือคนดูที่อาจเฉพาะที่ไม่ใช่คนเกาหลีที่ไม่รู้เรื่องราวนี้จะไม่รู้เลยว่าอันไหนเรื่องจริงอันไหนคือเรื่องที่เติมแต่งลงไป แล้วก็ได้แต่คาดเดาเพราะบทหนังเต็มไปด้วยความบันเทิงหาทางไปง่ายๆผิดวิสัยหรือปฏิบัติการนี้ไม่ได้มีอะไรตื่นเต้นมากมายเท่าที่เป็นในหนังก็ไม่ทราบ กระนั้นเมื่อบทหนังพาหนังไปข้างหน้าได้เรื่อยๆมุดช่องนั้นโผล่ช่องนี้แบบไปตายเอาดาบหน้าแต่การที่ออกตัวว่าอ้างอิงจากเรื่องจริงนั่นสามารถทำให้คนดูทำใจยอมรับได้และไปตายเอาดาบหน้าพร้อมๆกับหนัง เพราะอย่างน้อยยังมีทิศทางที่จะไปคืออาจเหมือนลื่นๆไหลๆไปแบบคนกะล่อนเอาตัวรอดเก่งแต่เป้าหมายของหนังยังชัดนั่นคือความบันเทิงแบบไม่ควรคิดมากแบบนี้ทำให้บทหนังที่อาจไม่ถึงดับดีมากแต่ก็พาไปยังจุดที่ต้องการได้ เป็นแอ็กชันคอมมิดี้คู่หูที่ดูสนุกใช้ได้มีลุ้นระทึกแบบอารมณ์ไหลตามน้ำไปไม่รู้ว่าเรื่องจะจบลงยังไงทำให้ลื่นไหลชวนติดตาม จะว่าไปถ้าไม่นับว่ามีการออกตัวว่าอ้างอิงจากเรื่องจริงหนังก็เป็นหนังสูตรอยู่เต็มประดาด้วยการเป็นหนังแอ็กชันปนตลกคู่หูที่ต่างกันแต่ต้องมาทำอะไรร่วมกันเพื่อเป้าหมายสำคัญ แล้วก็เหมือนจะตั้งใจมาแบบนั้นเพราะการเผชิญหน้ากันของนักการทูตที่ไม่เคยออกภาคสนามกับคนขับแท็กซี่เจ้าถิ่นจอมกะล่อนมันสนุกชวนฮาได้ แน่นอนเมื่อหนังตั้งใจพาอารมณ์คนดูไหลไปเรื่อยๆโดยที่มองไม่ออกว่าเรื่องจะไปต่อยังไงและจะจบลงยังไงท่ามกลางสถานการณ์ที่ก็ตามสูตรอีกแหละในการเอาชีวิตรอดของสองคู่ฮา แล้วสถานการณ์ที่ใส่มาก็พาให้ลุ้นระทึกตื่นเต้นได้เรื่อยๆเพราะนี่ไม่ใช่พระเอกเป็นยอดคนจารชนสายลับขั้นเทพแต่แค่หยิบปืนยังสั่น ทำให้เมื่อหนังเดินหน้าไปอย่างไม่มีหยุดพักความบันเทิงก็จัดเต็มเพราะหนังเหมือนมาเอาฮาแต่เมื่อถึงเวลาเอาจริงก็ทำได้ทำให้หนังออกมาน่าติดตามเพราะความที่ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรต่อและจะรอดไปได้ยังไงนั่นเอง การรับบทไม่หนักไม่เบาแบบนี้มันขนมหวานชัดๆของนักแสดงระดับนี้ทั้งสองคนที่ชัดเจนว่าเป็นจุดขาย เอาจริงเมื่อผู้เขียนเห็นว่าเป็นหนังของฮาจองอูที่อยู่ในการปฏิบัติการภาคสนามในดินแดนมิคสัญญียอมรับว่าคิดหนังจะออกมาเป็นงานแอ็กชันมันส์ทะลุตับ นั่นคือยังติดกับภาพฮาจองอูในบทสายลับยอดจารชนอยู่เพราะเห็นเขาแล่นหนังแอ็กชันโทนประมาณนี้มาหลายเรื่อง แต่กลายเป็นว่าเรื่องนี้มาเหนือด้วยการให้ฮาจองอูเป็นตัวเห่ยไม่มีทักษะใดทำให้ดูไปก็คิดว่าอีตานี่เนี่ยนะจะมาช่วยตัวประกันเพราะลำพังตัวเองยังอาจเอาตัวไม่รอดในพื้นที่นี้ ส่วนจูจีฮุนมาในมาดเซอร์จอมกะล่อนลื่นเป็นปลาไหลแถมกลัวเมียทำให้บุคลิกของสองพระเอกที่ออกที่น่าขันมันชวนติดตามตั้งแต่ต้นว่าจะรอดแน่หรือพี่จ๋า แล้วสิ่งที่ว่ามามันมาจากการแสดงของทั้งสองพระเอกที่การได้ดูทั้งคู่แสดงมามากก็สามารถเปรียบเทียบกับอีกหลายบทบาท ทำให้เห็นว่าบทบาทในเรื่องนี้มันคือขนมหวานกรุบๆสำหรับทั้งสองเพราะบทมันอาจมาแค่เท่าที่เห็นแต่ทั้งคู่ยังสามารถทำให้เป็นจุดขายได้ อาจไม่มันส์ระห่ำถึงใจแถมยังมีอารมณ์ขันมาใส่ในหนังที่ควรซีเรียสแต่หน้าหนังมันออกมาแบบนั้นซึ่งมันก็สนุกอยู่ดี เมื่อไม่ใช่หนังแอ็กชั่นเพื่อมาขายความมันส์ระห่ำแตกแต่กลายเป็นแอ็กชันคอมมิดี้ที่มาเพื่อสนุกตามสถานการณ์ความมันส์ถึงใจจึงไม่ค่อยมีเพราะพระเอกไม่ได้บู๊สะบัด แต่เป็นการลื่นไหลเอาข้างหน้าเป็นไปเอาตัวรอดไปตามสถานซึ่งอันที่จริงถ้าว่ากันตามสถานการณ์และเรื่องราวที่หยิบเอามาเล่ามันควรจะเป็นเรื่องที่ซีเรียสชวนเครียดและเข้มข้นอึดอัดกดดัน เพราะนี่คือสถานการณ์ระดับชาติเป็นเรื่องความเป็นความตายแต่ไม่รู้ใครเข้าฝันให้ทำออกมาเป็นงานแอ็กชันขายอารมณ์ขันตลกร้ายไหลตามน้ำไปตายเอาดาบหน้า แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นคือเอาอารมณ์ขันมาใส่ลงในเนื้อหาที่ควรจะซีเรียสแต่ก็ต้องยอมรับว่าหนังมันดันออกมาดูสนุกนี่สิ เพราะแม้จะไม่เข้มข้นอึดอัดกดดันอย่างที่เนื้อหาควรไปทางนั้นแต่หนังก็ดูเอามันส์ได้เอาฮาได้แถมเนื้อหาที่ตั้งใจวางไว้กับการปิดทองหลังพระและเป้าหมายหลังเป้าหมายบางอย่างยังทำให้หนังดูสนุกอยู่ดีแค่นี้ก็น่าพอใจแล้วมั้ง ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7,8 จาก Instagram showbox.movie เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !