In My MemoriesTHE CLASSIC : คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต (2003) งานเมโลดราม่าที่สมบูรณ์แบบ เก็บเกี่ยวอารมณ์และหัวใจ คู่ควรเก็บไว้ในความทรงจำ เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ผู้เขียนได้เขียนถึงรำลึกถึงหนังเรื่องหนึ่ง ที่เรียกว่ามาเปิดยุคทองของหนังเกาหลีและสร้างชื่อให้กับนักแสดงอย่าง จอนจีฮยอน กับ ชาแทฮยอน ที่เรียกได้ว่าเป็นงานระดับขึ้นหิ้ง ในส่วนของหนังเกาหลีในบ้านเราอย่าง My Sassy Girl (2001) ซึ่งหนัง ได้นำเสนอความคลาสสิคในแบบโรแมนติคคอมมิชั้นดี ฮาๆ สุข เศร้า เหงา ซึ้ง หักมุม มีทุกรูปแบบทำให้หนังครองใจคนดูได้ตลอดมา สองปีล่วงผ่านไปค่ายหนังที่บุกเบิกหนังเกาหลีอย่าง นนทนันท์เอ็นเตอร์เทนเม้น ก็ได้มอบความคลาสสิคขึ้นหิ้งอีกชิ้นให้คนดูบ้านเรา ที่คราวนี้มาในแบบโศก หวาน ซึ้ง และสมบูรณ์แบบที่สุดเรื่องหนึ่ง ในแง่ความเป็นภาพยนตร์แนวเมโลดราม่า งานชิ้นที่ว่านี้ได้ตอกย้ำคุณภาพของหนังเกาหลีว่า ไม่ได้มาเล่นๆ งานหนังที่สร้างชื่อให้นักแสดงอย่าง ซนเยจิน ให้โด่งดังทะลุฟ้าขึ้นมา ในฐานะเจ้าแม่เมโลดราม่าและค้างฟ้าอยู่ตรงนั้นจวบจนปัจจุบัน ซึ่ง ในชีวิตหนึ่งของมนุษย์ที่ชื่นชอบการดูหนัง จะมีหนังสักกี่เรื่องที่ประทับอยู่ในใจไม่รู้ลืม ในความเป็นจริงจากพรรษาการดูหนังของแต่ละคน ย่อมเจอหนังทั้งดีทั้งแย่มานับไม่ถ้วน และแน่นอนว่ามีหนังอยู่ประเภทหนึ่ง ที่อยู่ในใจและจะติดอยู่ในห้วงแห่งความคำนึง นั่นคือหนังที่ยกไว้บนหิ้งของความทรงจำ หนังที่ใครอย่าได้อาจหาญไปแตะต้อง เพราะมันคือของสูง มันคือหนังที่เรารัก เช่นหนังเรื่องนี้ที่ส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนคิดว่านี่คืองานเมโลดราม่าที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งตัวเรื่องที่เป็นเรื่องราวความรักของคนสองรุ่น ตัดสลับกัน กับความเป็นเรื่องราวรักสามเส้า บทหนังที่สมบูรณ์แบบที่เก็บงำความลับและชี้ทางให้คาดเดา แม้จะไม่ยากที่จะคาดเดานักด้วยทางและหน้าหนัง มันชี้ทางไปในทางความเศร้าและเสียสละ แต่กระนั้นยังดีพอที่จะจบด้วยความเหนือความคาดหมายเล็กๆบทหนังที่มอบความประทับใจให้คนดู ทั้งยิ้มอย่างมีความสุข อิ่มเอม ตราตรึงใจในความรัก และโศกสลดเมื่อความรัก และเส้นชีวิตของตัวละครไม่เป็นไปตามที่หัวใจคนดูต้องการ งานดนตรีที่ขับส่งเรื่องราวอย่างลงตัวหาที่เปรียบไม่ได้ และฉากต่างๆที่เหมือนเป็นตัวแทนของยุคสมัย ทั้งในส่วนของคนรุ่นก่อนที่มาเป็นเพลงสากลคลาสสิคและสำหรับคนรุ่นหลังกับงานแบบป๊อปและอัลเทอร์เนทีฟ (ตามยุคสมัยนั้น) ซึ่งงานดนตรีที่ขับส่งดังว่าสามารถกระตุ้นต่อมความอิ่มเอม ความซาบซึ้งและความโศกเศร้าได้จนกระทั่ง ที่ขอบตารู้สึกอุ่นๆในแทบทุกฉาก หนังมอบความตรึงใจด้วยเรื่องราวที่กินใจ ในส่วนของคนรุ่นก่อนด้วยคำว่า คนแรกของหัวใจ ด้วยเรื่องราวรักครั้งแรกที่ต่างฝ่ายต่างรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ หากแต่ข้างในมันเรียกร้อง แน่นอนว่าหนังมีดีที่จะให้คนดูลุ้น และเอาใจช่วยให้ความรักของ จูฮี (ซนเยจิน) และ จุนอา (โจซึงอู) ได้สมหวังแม้จะมีกำแพงคอนกรีตอย่างหนากั้นขวางไว้ และในทางเดียวกันก็สงสาร แทซู (อีกีอู) สุดใจ ถึงแม้สุดท้ายเป็นความเสียสละของ จุนอา เองที่ไม่ยอมเป็นภาระ และเสียสละให้ จูฮี ได้มีชีวิตที่ดีและเดินต่อไปโดยไม่ฉุดรั้งไว้ด้วยความรัก ส่วนตัวเขาเองคงต้องไปมีชีวิตที่ต่างไป ด้วยคำโกหกเพื่อให้คนที่ตนเองรักยอมปล่อยมือจากไป หากแต่นั่นคือการสร้างความร้าวรานอย่างสุดเปรียบเปรยให้กับ จูฮี ในวันที่รู้ความจริง เมื่อต้องโปรยอัฐิของชายคนที่รักเธอทั้งน้ำตาในแม่น้ำของเขาและเธอกัยเรื่องอีกทางหนึ่ง จีแฮ ลูกสาวของ จูฮี (ซนเยจิน) ที่ซาบซึ้งอิ่มเอมหัวใจ อยู่กับเรื่องราวรักโรแมนติคของพ่อกับแม่ ผ่านจดหมายรักที่พ่อกับแม่เขียนโต้ตอบกัน และได้รับรู้เรื่องราวของรักสามเส้าของคนรุ่นแม่ผ่านสมุดบันทึกเก่าๆ และเหมือนเป็นโชคชะตาที่ตัวเธอเอง ก็ต้องพานพบกับเรื่องราวรักสามเส้าไม่ต่างกัน เมื่อในหัวใจของเธอมี ซังมิน (โจอินซอง) อยู่ข้างใน แต่ยังพยายามขัดขืนเพราะเขาคือผู้ชายที่เพื่อนของเธอรัก ทว่า จีแฮ หารู้ไม่ว่าข้างในหัวใจส่วนลึกของ ซังมิน ก็ไม่ต่างจากจีแฮ ที่ต่างฝ่ายต่างมีใจแต่กลับมีเส้นบางๆกั้นไว้อยู่ แล้วสุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากั้นขวางสิ่งที่อัดอั้นอยู่ข้างในของคนทั้งคู่ เมื่อถึงที่สุดมันก็ทะลักล้นออกมาพร้อมกับการที่ จีแฮ รับรู้ว่า แท้จริงแล้วจดหมายที่แม่เธอเก็บไว้ไม่ใช่สำนวนการเขียนของพ่อเธอ หากแต่เป็นชายอีกคนที่เขียนจดหมายแทน และคนคนนั้นคือคนที่แม่ของเธอรักหมดหัวใจและเขาก็รักแม่ของเธอไม่น้อยกว่ากัน และเหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อ จีแฮ เล่าถึงจุดสุดท้ายของบันทึก แล้วกลายเป็นว่า ซังมิน คือลูกชายของ จุนอา ชายเดียวในดวงใจของแม่ของเธอ ที่คือคนแรกของหัวใจแม่ของเธอ และเธอก็เจอ คนสุดท้ายของชีวิต ที่คล้ายดั่งโชคชะตาได้ลิขิตมันไว้แล้ว ทำไมหนังถึงคลาสสิค จากเรื่องราวที่กล่าวมาทั้งหมด มันมาจากบทภาพยนตร์ชั้นยอด จนเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ใครจะปฏิเสธว่าการดูหนังเรื่องนี้ คุณไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับชะตากรรมของคนทั้งสองรุ่น คุณปฏิเสธหรือไม่ว่า ตลอดเวลาการดูหนังเรื่องนี้ไม่มีสักครั้งที่ขอบตาคุณอุ่นระอุ และนั่นคือความคลาสสิค ถ้านั่นยังไม่พอ หนังมอบฉากจำไว้มากมายให้รำลึก เช่นฉากขี่หลังกลางสายฝน ฉากหิ่งห้อยที่ริมแม่น้ำ หรือแม้กระทั่งฉากวิ่งลุยฝนด้วยเสื้อของ ซังมิน ที่กลายเป็นที่มาของร่มวิเศษ ที่สามารถตัดเส้นแบ่งในความรู้สึกของ ซังมิน และ จีแฮ อีกทั้งหนังได้มอบการแสดงที่แสนประทับใจ ด้วยเคมีที่ลงตัวอย่างที่สุด แน่นอนอย่างที่ทราบกันว่า ซนเยจิน แจ้งเกิดเต็มตัวจากหนังเรื่องนี้ ด้วยการแสดงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เป็นธรรมชาติและคนดูต้องรัก ในขณะเดียวกัน โจซึงอู ก็มอบการแสดงที่ไม่น้อยหน้า เล่นแบบเอาตาย โดยเฉพาะฉากในร้านอาหาร ที่ใครหลายคนดูเมื่อไหร่น้ำตาไหลเมื่อนั้น และหลังจากเรื่องนี้เขาก็มีงานต่อมาอีกมากมาย (Inside Man (2015),Marathon (2005) หรือกระทั่ง Stranger (2017) เป็นอาธิ) ด้วยเรื่องราวที่แม้จะโศกเศร้าในคนรุ่นหนึ่ง และสมหวังและซาบซึ้งในคนอีกรุ่นหนึ่ง หนังที่จบแบบเหมือนจะทำร้ายจิตใจคนดู แต่กลับมอบความสมหวังและตราตรึงให้แบบเหนือความคาดคิด หนังที่บทภาพยนตร์ลงตัวด้วยบทสนทนาที่แสนธรรมดา แต่ก็เป็นบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติความเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้ปั้นแต่งให้ออกมาหวานจนเลี่ยน (กรุณาดูจากฉบับซับไทย) หนังที่นักแสดงแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ และได้หัวใจคนดูจนหมดสิ้น หนังที่อยู่บนหิ้งในความรู้สึกของใครๆหลายๆคน หนังที่คนดูรัก หนังที่มีชื่อไทยที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกภาพยนตร์ The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต "นอกจากชอบคุณแล้ว ผมก็ไม่เก่งอะไรเลย" ประโยคง่ายๆ ประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยินในหนังรักสักเรื่อง เมื่อได้ยินประโยคนี้ออกจากปาก จุนอา เชื่อเถอะว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่น้ำตาไหลบ่าลงอาบแก้ม เพราะคิดไม่ถึงว่า มันจะปักลึกสู่ก้นบึ้งหัวใจได้ แม้ว่า อาจมีบ้างบางคนกังขาว่า เรื่องน้ำเน่าแบบนี้ คลาสสิคตรงไหน บางครั้ง ความคลาสสิคมันอาจขึ้นอยู่ที่ หนังเรื่องนั้น ตั้งใจมามอบอะไรกับคนดู เมื่อหนังทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ หนังก็สามารถก้าวไปสู่คำว่าคลาสสิคได้ เพราะแม้จะเป็นเรื่องน้ำเน่า เรื่องที่เป็นความโรแมนติดดราม่า ทว่า สิ่งที่หนังจัดการกับคนดูได้คือการกอบโกยหัวใจ กอบโกยความรู้สึกร่วม เพราะหัวใจคนดูผูกโยงไปตัวละคร หัวใจคนดูติดยึดกับเรื่องราวน้ำเน่าที่เป็นภาพที่เห็นบนจอ เพราะเมื่อดูแล้ว คนดูรู้สึกได้อย่างที่เจตนาของหนังต้องการ นั่นคือโศกซึ้ง กินใจ และตราตรึงไปกับความรัก และชะตากรรมของตัวละครที่เล่าออกมา นั่นคือหนังทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างหมดจด จนกระทั่ง แม้เวลาจะล่วงผ่านมาถึงเกือบยี่สิบปี การกลับไปดูหนังเรื่องนี้ ที่ไม่ว่าจะดูมาแล้วกี่รอบ ความรู้สึกที่มีต่อหนังเรื่องนี้ อารมณ์ร่วมที่มีกับแต่ละฉากแต่ละซีนของหนังเรื่องนี้ ก็ยังคงไม่แปรเปลี่ยนไป #NETFLIX #ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 จาก Facebook Son Ye Jin 손예진ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Facebook Netflix จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !