วัฒนธรรม ‘วาย’ เสรีของโลกวรรณกรรมที่มีศักดิ์ศรีและความรักเสมอกันทุกชั้นชน‘คู่รักชาย-หญิงเองที่เรามองว่ามันเป็นความรักกระแสหลัก มันยังมีความรักที่เป็นไปไม่ได้เลย เช่น ความรักข้ามชนชั้นใช่ไหม ? ยังเป็นไปไม่ได้เลย...ตระกูลเธอไม่สูงศักดิ์ก็ยังมีมากีดกันกัน คือแม้แต่ความสัมพันธ์แบบชาย-หญิงมันยังมีเส้นเลย...เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ความสัมพันธ์ในหมู่คนเพศเดียวกันจะไม่ถูกตั้งคำถาม’ งานวรรณกรรมที่นำเสนอเรื่องราวความรักระหว่างชาย-ชาย หรือหญิง-หญิง ได้ถูกนำมาวางขายในร้านหนังสืออย่างเปิดเผยเทียบเท่ากับวรรณกรรมที่นำเสนอเรื่องราวความรักระหว่างชายหญิงอย่างอิสรเสรี วัฒนธรรมกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าหนุ่มวาย หรือสาววายเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน นักเขียนหลาย ๆ คนที่หันมาจับปากกานำเสนอเรื่องราวความรักที่ไม่จำกัดอยู่เพียงพระเอกต้องเป็นผู้ชาย นางเอกต้องเป็นผู้หญิงก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกับวรรณกรรมรักที่มีมาก่อนหน้า ไม่เพียงแต่ในสังคมไทยเท่านั้นที่วัฒนธรรมวายเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้แต่บางประเทศที่ถึงแม้จะมีข้อจำกัดทางด้านศาสนา การเมืองการปกครองเข้ามากดทับ สิ่งเหล่านั้นก็ไม่อาจบดบังให้วัฒนธรรมวายเติบโตงอกงามในหัวใจผู้คนได้อยู่ดีขอบคุณภาพจาก : https://mgronline.com/live/detail/9620000036312The People : ทำความเข้าใจวัฒนธรรมวาย - นัทธนัย ประสานนามขอบคุณภาพจาก : The People : ทำความเข้าใจวัฒนธรรมวาย - นัทธนัย ประสานนาม รศ.ดร.นัทธนัย ประสานนาม อาจารย์ประจำภาควิชาวรรณคดี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ศึกษาวัฒนธรรมวายในบริบทสื่อเพื่อมองเห็นการขยับขยายของวัฒนธรรมนี้พบว่าวัฒนธรรมวายเริ่มขึ้นจากความนิยมในนักร้องเกาหลีซึ่งต่อมาก่อให้เกิด ‘แฟนฟิคชัน’ หรือบันเทิงคดีสำหรับแฟนโดยมีเนื้อหาพื้นฐานมาจากความสัมพันธ์ของนักร้องที่มีต่อเพื่อนร่วมวง นี่ถือเป็นยุคแรกและมีการพัฒนาขอบข่ายเรื่องราวของเนื้อหาไปทั่วทุกบทบาท และการเข้าถึงวรรณกรรมแบบวายนี้จากที่เคยแพร่หลายในอินเทอร์เน็ต จนตอนนี้สามารถขยายมาสู่วัฒนธรรมการพิมพ์นำมาสู่การวางขายอย่างแพร่หลายในร้านหนังสือทั่วไปอย่างที่พบเห็นในปัจจุบัน อาจารย์นัทธนัยได้ให้ข้อเสนอแนะว่า จุดเด่นของนิยายวายที่ทำให้ผู้อ่านรักและให้ความสนใจก็คือเรื่องของความสัมพันธ์ที่ไม่มีวันเลิกกัน ทุกความสัมพันธ์ที่แท้จริงอาจจะมีจุดสิ้นสุด แต่ในการเป็นคู่วายมันก็มักจะมีคำพูดของสาววายที่ว่า ‘ขอให้อยู่ดูแลกันไปเรื่อย ๆ’ นอกจากนี้ แม้เราจะเห็นว่าวัฒนธรรมวายมีความแพร่หลายและได้รับการยอมรับมากก็จริงอยู่ แต่วัฒนธรรมวายที่ปรากฏในวรรณกรรมก็ไม่อาจทำให้คนเข้าใจได้ว่า ความรักไม่ได้มีแค่ชาย-หญิง อาจารย์นัทธนัย : เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่เรากำลังทำผ่านวัฒนธรรมคือการเปิดเสรีความรัก ว่าทุกคนรักกันได้...คือความรักมันเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ แต่เราไม่สามารถทำให้คนทั้งโลกเข้าใจหรือยอมรับความรักที่หลากหลายได้...ลองคิดง่าย ๆ อย่างเช่นคู่รักชาย-หญิงเองที่เรามองว่ามันเป็นความรักกระแสหลัก มันยังมีความรักที่เป็นไปไม่ได้เลย เช่นความรักข้ามชนชั้นใช่ไหม ยังเป็นไปไม่ได้เลย...ตระกูลเธอไม่สูงศักดิ์ก็ยังมีมากีดกันกันใช่ไหม คือแม้แต่ความสัมพันธ์แบบชาย-หญิงมันยังมีเส้นเลย...เพราะฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ความสัมพันธ์ในหมู่คนเพศเดียวกันจะไม่ถูกตั้งคำถาม...ความรักทุกแบบมันเป็นไปไม่ได้ เรื่องโรมานซ์จึงขายได้ และความรักที่สมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง...ถ้าความรักในชีวิตจริงไม่มีอุปสรรคเลย เรื่องพวกนี้มันขายไม่ได้ หน้าที่อย่าหนึ่งของวรรณกรรมคือเป็นเสมือนหลุมหลบภัยจากความไม่สมหวัง ความไม่สมปรารถนาในโลกจริง และมันก็เป็นเครื่องมือทางวัฒนธรรมในการหล่อเลี้ยงจิตใจและความหวังของคน(รศ.ดร.นัทธนัย ประสานนาม : ทำความเข้าใจวัฒนธรรมวาย)ขอบคุณภาพจาก : https://readthecloud.co/takeout-4/ ทุกความรักย่อมมีอุปสรรค ไม่ว่าคุณจะถือครองวัฒนธรรมความเป็นเพศใดอยู่ก็ตาม โดยเฉพาะวัฒนธรรมวาย ในโลกของวรรณกรรมถือเป็นเครื่องปลอบประโลมและสร้างสิทธิเสรีภาพเรื่องความรักให้กับกลุ่มวัฒนธรรมวายอย่างแท้จริง สร้างเรื่องราวที่อาจเป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้ ถึงแม้รักที่ไม่มีอุปสรรคจะไม่มีจริงในทุกเพศฐานะ แต่เสรีภาพในการเลือกที่จะรักมีอยู่จริงอย่างแน่นอน แหล่งอ้างอิงThe People. (2019, November 1). ทำความเข้าใจวัฒนธรรมวาย - นัทธนัย ประสานนาม [Video file]. Video posted to https://www.youtube.com/watch?v=snqpSYU_k2E