หลายคนน่าจะรู้จัก “เก่ง หฤษฎ์” กันมาบ้างแล้ว ทั้งผลงานแจ้งเกิดกับบท “จิ่งนะ” หนุ่มไทใหญ่ใจซื่อจาก “วิมานหนาม” ที่ทำเอาคนดูอินน้ำตาซึมกันมาแล้ว และล่าสุดกับบท “พ่อครูภรัณ” หมอธรรมสุดหล่อแห่งเมืองอุบลฯ ใน “เขมจิราต้องรอด” ก็ยิ่งตอกย้ำความสามารถของเขาเข้าไปอีก วันนี้เราเลยขอพาไปทำความรู้จักกับ “เก่ง หฤษฎ์” ให้มากขึ้น ว่ากว่าจะมีวันนี้ชีวิตในวงการบันเทิงของเขาไม่ง่ายเลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://www.instagram.com/p/Cs0l7K4vk_p/?img_index=1 ประวัติส่วนตัว ชื่อ : หฤษฎ์ บัวย้อย ชื่อเล่น : เก่ง วันเกิด : 19 สิงหาคม พ.ศ. 2542 ส่วนสูง : 180 ซม. การศึกษา : หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษา แขนงวิชาภาษาไทย วิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา เก่ง หฤษฎ์ เป็นหนุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อที่เติบโตมาอย่างเรียบง่ายในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา พื้นเพของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายชนบทแท้ ๆ เพราะครอบครัวทำเกษตรเป็นหลัก ทั้งปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด ทำสวนยาง และยังเปิดร้านขายของชำควบคู่ไปด้วย คุณพ่อของเขาเป็นช่างซ่อมรถ และเคยเปิดอู่ในตัวเมืองพะเยา แต่ก็ปิดกิจการลงตอนที่เก่งยังเป็นเด็ก เก่งช่วยครอบครัวทำงานตั้งแต่เด็กทั้งช่วยเฝ้าร้านและทำสวนยาง เมื่อถึงวัยเข้ามหาวิทยาลัย เก่งเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยพะเยา ซึ่งในตอนแรกเขาตั้งใจอยากเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่า วิชานี้มันยากเกินไปสำหรับใจรักของเขา เขาเคยคิดจะเปลี่ยนมาเรียนเป็นครูพละ เพราะเป็นสายที่เขาถนัดและเขาชื่นชอบการเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก แต่โชคร้ายตรงที่เขาได้รับบาดเจ็บเส้นเอ็นขาด และด้วยความที่หลักสูตรต้องมีการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เขาจึงต้องพับความตั้งใจนี้ไปในที่สุด ท้ายที่สุดเก่งเลือกเรียนในสายที่ใกล้ตัวและยังคงเป็นประโยชน์ต่ออาชีพครูนั่นคือครูภาษาไทย ระหว่างเรียนเก่งได้เข้าร่วมประกวดและคว้าตำแหน่ง “เดือนมหาวิทยาลัยพะเยา ประจำปี 2561” มาครอง และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางในวงการบันเทิง เพราะหนึ่งในคณะกรรมการตัดสินวันนั้นเป็นเอเจนซี่จากเชียงใหม่ ที่มองเห็นแววบางอย่างในตัวเขาและชวนให้ลองเข้าวงการ แม้ตอนนั้นเก่งจะยังไม่สนใจกับอาชีพนี้ แต่พอได้รู้ว่าครอบครัวกำลังเผชิญภาระหนี้สินอยู่ เขาก็ตัดสินใจรับโอกาสนั้นไว้ และเริ่มต้นทำงานเป็นนายแบบที่เชียงใหม่ เพื่อหารายได้เลี้ยงตนเองไม่ขอเงินครอบครัวเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว ตอนนั้นเขาทำงานทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ทั้ง เดินแบบ ถ่ายแบบ และเดินสายประกวด https://www.instagram.com/p/CWQj-wHPVzY/ สมัยเป็นครูฝึกสอนเก่งเคยโด่งดังบน TikTok ในฐานะคุณครูผู้สร้างตำนานครูภาษาไทยหล่อบอกต่อด้วย เก่งเคยมาอยู่กรุงเทพฯ ในช่วงหนึ่ง เขาได้เล่นโฆษณาอยู่หนึ่งตัว แต่ด้วยค่าใช้จ่ายสารพัดทั้งค่าเช่าคอนโด ค่ากับข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ ทำให้เงินที่มีอยู่เริ่มร่อยหรอลงอย่างรวดเร็วอยู่ได้ 3 เดือนก็กลับพะเยา ช่วงนั้นเอง เก่งเริ่มคิดจริงจังว่าจะหันหลังให้วงการบันเทิง และกลับมาโฟกัสกับการสอบเป็นครูเต็มตัว และในตอนนั้นเก่งได้ประกวดเวทีหนึ่งซึ่งเก่งคิดว่าจะเป็นการประกวดเวทีสุดท้ายเพื่อหาเงิน และเก่งได้รับรางวัลชนะเลิศ “เทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ปี 2565” และรางวัลนี้เองที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ เพราะหลังการประกวด เก่งได้รับการติดต่อจากค่าย “Domundi” ซึ่งติดต่อมาพร้อม ๆ กับ “GDH” ว่ามีโปรเจกต์อยากให้ลองมาแคสต์ เก่งได้เข้าร่วมรายการ “DMD Friendship The Reality” ของค่าย “Domundi” รายการที่ให้ศิลปินฝึกหัดต้องมาใช้ชีวิตร่วมกันในรายการเรียลลิตี้พัฒนาทักษะ และแข่งขันทำภารกิจไปพร้อม ๆ กับศึกษาเคมี ในการตามหาพาร์ทเนอร์ที่ต้องเข้ากันได้ทั้งในจอและนอกจอ ซึ่งเก่งเป็นผู้ชนะ “BEST PARTNER DMD Friendship the Reality” เป็นพาร์ทเนอร์คู่กับ “น้ำปิง นภัสกร” และจะได้มีผลงานซีรีส์เป็นของตนเอง ในปี 2567 ภาพยนตร์ “วิมานหนาม (The Paradise of Thorns)” ของ “GDH” ที่เคยติดต่อให้เก่งไปแคสต์ก็ได้ออกฉายอย่างเป็นทางการในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ พร้อมกระแสตอบรับที่ร้อนแรงเกินคาด ทำรายได้รวมทั่วประเทศไปถึง 151 ล้านบาท กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปีนั้น เก่งในบทบาท “จิ่งนะ” ก็กลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงในวงกว้าง และถูกจับตามองในฐานะนักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตาที่สุดคนหนึ่งของวงการ https://www.instagram.com/p/C--WJTwvxok/?img_index=1 และในปี 2568 ซีรีส์เรื่องแรกของ “เก่ง-น้ำปิง” กับ “เขมจิราต้องรอด Khemjira The Series” ก็ได้ออกอากาศอย่างเป็นทางการ และกลายเป็นกระแสไวรัลแบบถล่มทลาย ทั้งตัวเนื้อเรื่องที่ลึกลับ น่าติดตาม และเคมีของนักแสดงทั้งนักแสดงนำและนักแสดงสมทบก็เข้ากันแบบคาดไม่ถึง จนหลายคนที่ไม่เคยดูซีรีส์วายมาก่อนยังต้องหันมาลองดู หากย้อนกลับไปในปี 2567 ตอนที่ปล่อย Pilot ตัวแรกออกมา เสียงวิจารณ์ในตอนนั้นก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะในเรื่องของบท “พ่อครูภรัณ” ที่หลายคนมองว่ายังขาดความขลัง การใช้น้ำเสียงและอารมณ์ดูไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร แต่พอซีรีส์ออกอากาศจริง เก่งก็พิสูจน์ตัวเองได้อย่างชัดเจนว่าฝีมือของเขาพัฒนาขึ้นมาก ทั้งในด้านการแสดง สีหน้า แววตา ไปจนถึงการใช้น้ำเสียงที่ถ่ายทอดตัวละคร “พ่อครูภรัณ” ได้ดูขลังและน่าเคารพ https://www.instagram.com/p/DNLDL06pua3/?img_index=1 ใครที่โดนหนุ่มเก่งตก สามารถรับชม “พ่อครูภรัณ” ใน “เขมจิราต้องรอด (Khemjira The Series)” ได้ทุกวันเสาร์ เวลา 21.30 น. ทางช่อง one 31 และดูออนไลน์เวอร์ชัน UNCUT เวลา 22.30 น. ที่ iQIYI และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและคลิปน่ารัก ๆ ทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ตามด้านล่างนี้ ช่องทางติดตาม Instagram : @harit_keng TikTok : @Harit_keng X : @harit_keng ขอขอบคุณ เครดิตภาพหน้าปก ตกแต่ง : CANVA ภาพประกอบ : รูปภาพที่ 1 : @harit_keng เครดิตภาพและวิดีโอประกอบ รูปภาพที่ 1 - 4 : @harit_keng | รูปภาพที่ 1 | รูปภาพที่ 2 | รูปภาพที่ 3 | รูปภาพที่ 4 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !