แฟน ๆ เจมส์ บอนด์ โหวตให้ "Skyfall" เป็นภาคที่ดีที่สุดในแฟรนไชส์
โพลนี้จัดขึ้นโดย William Hill Vegas เว็บไซต์คาสิโนของสหราชอาณาจักร มีแฟนบอนด์ 3,500 คน มาร่วมกันจัดอันดับภาพยนตร์ 007 ที่พวกเขาชื่นชอบจากมากสุดไปน้อยสุด แล้วผลก็ออกมาว่า
- ‘Skyfall’ ปี 2012 ในยุคของ แดเนียล เครก (Daniel Craig) ได้รับเสียงโหวตมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนน 17.5%
- รองลงมาในอันดับที่ 2 คือ ‘Goldfinger’ปี 1964 ในยุคของ ฌอน คอนเนอรี่ (Sean Connery) ผู้ล่วงลับ ได้คะแนนโหวตแบบทิ้งห่าง อยู่ที่ 8.5%
- อันดับที่ 3 คือ ‘No Time To Die’ ภาคสุดท้ายของ แดเนียล เครก เมื่อปี 2021 ได้คะแนนโหวตไปที่ 7%
ส่วนภาคที่ได้คะแนนบ๊วยสุด ตกเป็นของ ‘Never Say Never Again’ ภาคสุดท้ายของ ฌอน คอนเนอรี่ ในบท เจมส์ บอนด์ เมื่อปี 1983 คว้าตำแหน่งภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ ที่แย่ที่สุดตลอดกาลไป ด้วยคะแนนโหวตเพียง 0.6% ช่างเป็นคะแนนที่โหดร้ายจากแฟน ๆ มาก
‘Skyfall’ กำกับโดย แซม เมนเดส (Sam Mendas) ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์ ได้รับการยกย่องในวงกว้างว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา เป็นภาคที่มีเนื้อหาสุดระทึก เมื่อสำนักงาน MI6 ถูกระเบิดทำลายย่อยยับ และข้อมูลของเหล่าสายลับ MI6 ที่ปฏิบัติงานอยู่ทั่วโลกรั่วไหลออกไป เอ็ม (Judy Dench- จูดี้ เดนช์) จึงเรียกร้องให้บอนด์มาช่วยกู้สถานการณ์เลวร้ายนี้ บอนด์ร่วมมือกับ คิว (Ben Wishaw – เบน วิชอว์) และ มันนี เพนนี (Naomi Harris- นาโอมิ แฮร์ริส) ตามรอยเส้นทางการโจมตีย้อนกลับไป จนเจอว่าเป็นฝีมือของ ราอูล ซิลวา (Javier Bardem – ฆาเวียร์ บาร์เด็ม) ผู้ก่อการร้ายทางไซเบอร์ตัวเอ้ ลงเอยด้วยฉากแอ็กชันสุดมันส์ ทั้งขับรถไล่ล่า สาดกระสุน และอีกมากมายตลอดเรื่อง
หนังประสบความสำเร็จทั้งด้านรางวัลและรายได้ หนังทำรายได้ทั่วโลกสูงถึง 1,100 ล้านเหรียญ และได้คะแนนบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่ 92% แลัวยังคว้ารางวัลออสการ์ได้อีก 2 สาขา คือ เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม และยังคว้ารางวัลอีกหลาย ๆ เวทีอย่างเช่น แกรมมี่อะวอร์ด, ลูกโลกทองคำ และ รางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์
ในปี 2022 หลังจาก แดเนียล เครก โบกมือลาบทบาท เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการแล้ว เขาได้ไปร่วมพูดคุยในรายการพอดแคสต์ ‘Best of Today’ ของทางช่อง BBC Radio 4 ว่า เขาไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยที่ลาออกจากแฟรนไชส์ เจมส์ บอนด์
“ไม่เลยครับ ผมไม่รู้สึกเสียใจเลย”
“เพราะผมถือว่าผมได้รับโอกาสที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อมาตลอด 17 ปีในช่วงชีวิตนี้ของผม จากนี้ผมอยากที่จะใช้ชีวิตอีก 20 ปีจากนี้ ลบล้างตัวตนของบอนด์ออกไป ให้เขาอยู่ในที่ที่สมควรเพราะเขาคือสิ่งที่น่าทึ่งมาก”
“ผมได้หยุดบทบาทนี้ในแบบที่ผมต้องการแล้ว ซึ่งผมได้รับโอกาสนั้นในหนังบอนด์เรื่องสุดท้าย”
เครกยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ถึงแม้ว่าใน ‘No Time To Die’ นั้น เจมส์ บอนด์ ในภาพลักษณ์ของเขาจะเสียชีวิตในตอนจบ แต่ตัวละครนี้จะยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป
“เขายังไม่ตายจริง ๆ หรอก ผมแค่เป็นคนที่จากไป เห็นมั้ยล่ะว่าในตอนจบของหนังยังบอกชัดเจนเลยว่า บอนด์จะกลับมา ดังนั้นเขาจะต้องหาทางกลับมาได้อยู่ดี”
ที่มา : ladbible