สวัสดีผู้อ่านทุกท่านนะคะ ขอต้อนรับสู่โลกของหนอนหนังสือ บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ “วรรณกรรมแฟนตาซี” เรื่อง “The Maze Runner เกมล่าปริศนา ตอน สมรภูมิมอดไหม้” เป็นเนื้อหาภาคต่อจากเล่มแรกที่เคยได้รีวิวไปในบทความก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับวรรณกรรมเล่มนี้แต่งโดย “James Dashner” และเป็นการแปลโดย “แสงตะวัน” เป็นหนังสือขายดีติดอันดับ และแปลมาแล้วหลายภาษาทั่วโลกเนื้อเรื่องในเล่ม 2 นี้เป็นเรื่องราวต่อจากเล่มแรก หลังจากที่เด็กหนุ่มชื่อ “โทมัส” ได้พยายามพาเพื่อน ๆ ออกจากวงกตมาได้ ก็พบว่า การที่พวกเขาถูกส่งไปอยู่ในวงกตนั้นเป็นการทดลองเพื่อเป้าหมายบางอย่างขององค์กรที่มีชื่อว่า “วิคเค็ด” เมื่อพวกเขาออกจากวงกตมาได้กลับต้องเจอกับความจริงที่ปรากฏตรงหน้า นั่นคือ โลกเปลี่ยนไปแล้ว ตึกรามบ้านดูเหมือนจะหายไปบ้านเมืองร้าง มองไปเห็นแต่ทะเลทรายไกลสุดลูกหูลูกตา แสงแดดแผดเผาด้วยความร้อนทวีคูณ ทุกคนต่างงุนงงกับภาพตรงหน้า โทมัสและเพื่อน ๆ ต่างพากันเดินทางต่อไปเพื่อหาที่พักและเอาชีวิตรอด ทำให้พบกับผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งและได้รู้เรื่องราวว่าโลกโดนผลกระทบจากการลุกวาบของดวงอาทิตย์ พายุสุริยะโถมมาที่โลก นอกจากจะทำลายสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตแล้ว ยังก่อให้เกิด “ไข้วาบ” ที่ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อค่อย ๆ กลายเป็นบ้าไป โดยที่เชื้อนี้จะทำลายสมอง อวัยวะภายในจนไม่เป็นมนุษย์ หรือเป็นเหมือน “ซอมบี้” ไปนั่นเองอ่านเล่มนี้แล้วก็สะท้อนถึงในปัจจุบัน ภาวะโลกร้อน น้ำแข็งละลาย พืชพันธุ์ สัตว์หายากต่าง ๆ ล้มหายตายจาก ซึ่งล้วนมาจากฝีมือมนุษย์ ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ในอนาคตโลกอันสวยงามของเราอาจเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันกับที่โทมัสและเพื่อน ๆพบเจอก็เป็นได้ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มาพร้อมกับพลังทำลายล้าง หากเราทุกคนยังไม่ตระหนักในวันนี้สิ่งที่เขียนไว้ในนิยายก็อาจเป็นเรื่องจริงได้สักวันหนึ่ง หลังจากโทมัสและเพื่อน ๆ ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงพยายามหาทางเพื่อเอาชีวิตรอดและตามหาว่าองค์กรชั่วร้ายกำลังทดลองอะไรกันอยู่ ซึ่งการเดินทางของพวกเขาทำให้รู้ว่า ไม่ได้มีแค่พวกโทมัสแต่ยังมีกลุ่มเด็กจากวงกตอื่นอีกด้วยที่อยู่ในการทดลองขององค์กรนี้ และพวกเขาก็ได้ช่วยกันหาทางไปยังดินแดนแห่งใหม่ที่ได้ข้อมูลมาว่า มีกลุ่มคนที่ต่อต้านองค์กรนี้อยู่และมียาที่สามารถรักษาโรคที่เกิดจากไข้วาบนี้ได้ จึงพากันเดินทางไปยังที่แห่งนั้น ระหว่างการเดินทางก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคในหลายเรื่อง ทั้งคนขององค์กรที่ไล่ล่าจับตัวพวกเขา ซอมบี้หรือที่พวกเขาเรียกกันว่า “แคร้ง” รวมถึงความสูญเสียเพื่อนระหว่างการเดินทาง กว่าจะถึงจุดหมายช่างหนักหนานัก แต่พวกเขาก็ทำมันได้และสุดม้ายโทมัสและเพื่อน ๆ ก็ได้เผชิญหน้ากับผู้นำองค์กร “วิคเค็ด” เรื่องราวโดยย่อในเล่ม 2 นี้จบลงทิ้งท้ายให้เราติดตามต่อในเล่ม 3 ว่าหลังจากทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันแล้วเหตุการณ์จะดำเนินต่อไปอย่างไรขอบคุณภาพถ่ายโดย Giorgio Parravicini จาก https://unsplash.com/photos/12IHVEFRacQวรรณกรรมเล่มนี้ให้อะไรเราหลายอย่างมาก นอกจากความสนุกเพลิดเพลินแล้ว ยังทำให้เราตระหนักถึงความเสียหายของโลกที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ เห็นถึงจิตใจของมนุษย์ที่ทำร้ายมนุษย์ด้วยกันได้ลงแม้จะมีเหตุผลใดก็ตาม ความพยายามเอาชีวิตรอดของเด็กกลุ่มหนึ่งที่พวกเขาเองก็ไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องราวชีวิตของตัวเอง แต่กลับต้องมาเผชิญโลกที่แสนโหดร้าย จึงเป็นข้อคิดสอนให้เราเป็นคนที่เข็มแข็ง มีความพยายามและมีเป้าหมายที่ต้องไปให้ถึง ใครชื่นชอบวรรณกรรมแนวนี้หาซื้อได้ที่ร้านขายหนังสือ หรือสั่งออนไลน์ได้นะคะ มีเล่มต่อด้วยอ่านเพลิน ๆ กันไปเลย ภาพถ่ายปกหนังสือถ่ายโดยผู้เขียนภาพทะเลทราย ขอบคุณ Photo by Giorgio Parravicini จาก https://unsplash.com/photos/12IHVEFRacQ