วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) ภาพยนตร์ไทยชื่อดัง ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2024 พร้อมกวาดรายได้รวมกว่าหลายร้อยบาทในประเทศ แถมยังได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งปี ติดโผรายชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 และยังได้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต (TIFF) 2024 อีกด้วย นำทัพนักแสดงทั้งหน้าเก่าและใหม่..แต่ผลงานการแสดงไม่มีบกพร่องสักกระเบียดนิ้ว ทั้งเจฟ ซาเตอร์ รับบท ทองคำ, อิงฟ้า วราหะ รับบท โหม๋, หฤษฎ์ บัวย้อย รับบท จึ่งนะ, พงศกร เมตตาริกานนท์ รับบท เสก และ สีดา พัวพิมล รับบท แม่แสง ที่ตอนนี้พร้อมให้เราได้รับชมได้แบบเต็มตาแล้ว รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! รายละเอียด ภาพยนตร์ไทยปี 2024 วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) ชื่อเรื่อง: วิมานหนาม | The Paradise of Thorns ผู้กำกับ: นฤเบศ กูโน บทภาพยนตร์: ทีมเขียนบทจาก GDH และ Jai Studio แนว: ดราม่า, ชีวิต, LGBTQIA+, ความรัก, สังคม ความยาวของภาพยนตร์: ประมาณ 120 นาที วันที่ออกฉายครั้งแรก: 22 สิงหาคม 2567 นักแสดงนำ: เจฟ ซาเตอร์ รับบท ทองคำ / พงศกร เมตตาริกานนท์ รับบท เสก / สีดา พัวพิมล รับบท แม่แสง / อิงฟ้า วราหะ รับบท โหม๋ / หฤษฎ์ บัวย้อย รับบท จึ่งนะ เรื่องย่อ วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) https://www.youtube.com/watch?v=l1gg7dGbUfI วิมานหนาม ความงดงามของรักแท้ท่ามกลางคมหนามของสังคม วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) คือภาพยนตร์ดราม่าสายเลือดไทย ที่พร้อมพาเหล่าผู้ชมดำดิ่งลึกลงไปสู่โลกของความรัก ความซับซ้อนภายในครอบครัว มรดกทรัพย์สินเงินทอง ที่เพิ่มคอมโบความทุกเข็ญด้วยตาชั่งทางสังคมและข้อกำหนดกฎหมาย ผลงานชิ้นเอกที่กำกับโดย นฤเบศ กูโน ผู้กำกับที่มีความสามารถในการถ่ายทอดเรื่องราวที่ทั้งลึกซึ้งและสะท้อนปัญหาสังคมได้อย่างน่าประทับใจ ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของ ทองคำ (รับบทโดย เจฟ ซาเตอร์) และ เสก (รับบทโดย พงศกร เมตตาริกานนท์) คู่รักชายรักชายที่ใช้ชีวิตอย่างธรรมดาสามัญในเขตพื้นที่ชายขอบ จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งคู่หาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกสวนทุเรียนที่เปรียบเสมือน "วิมาน" บนดิน ผืนแผ่นดินแห่งนี้เต็มไปด้วยความรัก หยาดเหงื่อและแรงกาย ทองคำทุ่มสุดตัวเพื่อไถ่ถอนที่ดินมรดกของเสกซึ่งติดจำนองให้กลายมาเป็นทรัพย์สินของเสกได้อีกครั้ง ด้วยหวังว่าโฉนดประทับชื่อของเสกใบนี้จะเป็นตัวแทนของ "ทะเบียนสมรส" แทนใจ ด้วยเพราะสังคม ณ ตอนนั้นยังไม่เปิดรับกลุ่มรักร่วมเพศ แต่แล้ว "วิมาน" บนดินก็พังทลายลงอย่างไม่เป็นท่าเมื่อจู่ๆ เสก สามีสุดที่รักของทองคำประสบอุบัติเหตุพลัดตกจากที่สูงในขณะทำสวนทุเรียน และไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ทันเวลาจนทำให้เสียชีวิต ความรักที่เป็นแค่เพียงสัญญาทางใจระหว่าง เสก และ ทองคำ ดูไร้ราคาค่างวด เมื่อทรัพย์สินที่คู่รักสร้างมาอย่างเหนื่อยเหน็ดไม่ว่าจะเป็นสวนทุเรียนและบ้านหลังน้อยต้องตกไปเป็นของ แม่แสง (รับบทโดย สีดา พัวพิมล) แม่แท้ๆ ของเสก ซึ่งพ่วงมาด้วย โหม๋ (รับบทโดย อิงฟ้า วราหะ) ลูกสาวที่แม่แสงเก็บมาเลี้ยง และ จึ่งนะ (รับบทโดย หฤษฎ์ บัวย้อย) น้องชายของโหม๋ ทองคำจึงต้องสู้ยิบตาเพื่อทวงคืนทรัพย์สินที่เขาควรจะได้กลับคืนมา ทั้งการต่อสู้ทางกฎหมายและจิตใจ ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำจากครอบครัวสามีที่เขาเคยรักและการตีตราทางสังคม ทองคำจะสามารถทวงคืนทรัพย์สมบัติและเกียรติ ศักดิ์ศรี ของเขากลับคืนมาได้หรือไม่? การแก้แค้น ห้ำหั่นระหว่างทองคำ และ โหม๋ จะไปสุดที่ตรงไหน ใครกันแน่ที่จะได้วิมานสวนทุเรียนแห่งนี้ไปครอบครอง ติดตามคำตอบได้แล้ววันนี้ในภาพยนตร์เรื่อง วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) รีวิว วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) สารภาพเลยว่าพักหลังๆ เรามีโอกาสดูหนังในโรงภาพยนตร์น้อยมากๆ อย่างเรื่องวิมานหนามที่กระแสมาแรงสุดๆ ก็ไม่ได้มีโอกาสรับชมในโรงภาพยนตร์เช่นเดียวกัน แต่เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 ที่ผ่านมานี้มีโอกาสได้รับชม วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) หลังจากดูจบก็เข้าใจได้เลยว่าทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงโกยรายได้ไปหลายร้อยล้านบาทไทย พร้อมเดินหน้ารับรางวัลอีกมากมายเพราะทุกๆ รายละเอียดในเรื่องวิมานหนามถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีมิติ บาดลึกลงไปในความรู้สึก แถมงาน production ภาพสวยตระการตาแบบที่สุด จนทำให้เรารู้สึกดีใจที่หนังไทยมาไกลได้ถึงขนาดนี้ บทภาพยนตร์ สะท้อนปัญหาที่กลาดเกลื่อนในสังคมได้อย่างคมคาย ถ้าถามว่า plot วิมานหนามทุเรียนเรื่องนี้มีความสดใหม่ ไฉไล ชนิดหาจากเรื่องไหนไม่ได้เลยไหม? ก็อาจตอบได้ว่าไม่ได้ใหม่ถอดด้าม ถอดปลอกขนาดนั้น แต่เป็นการหยิบเอาสารพัดปัญหาในสังคมบ้านเราที่หลายประเด็นกลายเป็นปัญหาเก่าเก็บ ฝุ่นเกรอะกรัง รอวันฟื้นคืนวันกลับมาจัดระบบระเบียบความคิดกันใหม่ ทั้งปัญหาความหลากหลายทางเพศที่การสู่เสพของคนเพศเดียวกันยังเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับได้ มุมมองความคิดของสังคมโดยเฉพาะสังคมชายขอบที่ยอมรับเรื่องนี้ได้ยากเหลือหลาย ประเด็นความเหลื่อมล้ำทางโครโมโซมกำหนดเพศไม่ได้ส่งผลกระทบแค่พลังแห่งรัก ข้อกำจัดที่ทำให้ไม่สามารถลงชื่อตัดสินใจเรื่องใดได้ก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็นปัญหาวิกฤติที่ปลิดชีพได้ก็ตาม นอกจากปัญหาความเท่าเทียมทางเพศ วิมานหนามยังเคาะประเด็นอื่นๆ ออกมาได้แน่นหนักทั้งความเหลื่อมล้ำทางความเจริญ อาชีพและรายได้ ต้องมีผู้คนมากมายที่ใช้ชีวิตแบบจำกัดจำเขี่ย อด 2 มื้อเพื่อกินหนึ่งมื้อ คุณภาพชีวิตที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินแม้กระทั่งถนนหนทางที่ใช้สัญจรก็เหมือนต้องเสี่ยงดวงรายวัน ตลอดไปจนถึงปมประเด็นทรัพย์สินมรดกในครอบครัวที่กลั้วมาด้วยกิเลส ความแก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่น ที่นับเป็นปัญหาสามัญประจำครัวที่ทุกผู้ทุกคนต่างก็ต้องพบเจอ การแสดงเล่นใหญ่..พลังหลักที่ขับเคลื่อนเรื่องราววิมานหนาม พล็อตว่าทำมาได้ดี และเต็มไปด้วยเรื่องราวหักมุมแบบไม่จบสิ้นทำให้ผู้ชมแบบเราแปลกใจแล้วแปลกใจอีก พลิกโผ หัวทิ่มหัวตำกันไปหลายต่อหลายตลบ แต่บอกเลยว่าทัพนักแสดงมากฝีมือนั้นช่วยชูรส ชูโรงให้เรื่องวิมานหนามกลายเป็นวิมานแห่งสายตาได้เป็นอย่างดี วรกมล ชาเตอร์ (เจฟ ซาเตอร์) รับบท "ทองคำ" ชายหนุ่มหน้าหวาน ดวงใจของเราหลงรักเสกอย่างสุดหัวใจและพร้อมทุ่มเทให้สามีได้ทั้งชีวิต ตัวละครทองคำถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ารักน่าหยอกในช่วงแรกๆ ก่อนที่เนื้อหาจะเริ่มเฟตเข้าสู่บทบาทสีเทาทึบที่เจฟสามารถสื่อถึงความเจ็บปวดรวดร้าวที่เกิดขึ้นได้อย่างลึกซึ้ง ทั้งการถูกเหยียบย่ำหัวใจจากการไม่ยอมรับชายรักชายในสังคม ตลอดไปจนถึงการต้องสูญเสียทุกๆ อย่างไปให้ครอบครัวของเสกตามข้อกำหนดกฎหมายโดยไร้ซึ่งความยุติธรรม เจฟถ่ายทอดทุกอารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในซีนอารมณ์ที่ต้องวอนแม่แสงให้ยกบ้านและที่ดินให้เขา หรือจะเป็นฉากที่ต้องปะทะคารมรวมถึงลงไม้ลงมือกับโหม๋ในช่วงท้ายของเรื่อง บอกเลยว่าจัดเต็มที่สุด อิงฟ้า วราหะ รับบท โหม๋ จากเวทีนางงามระดับประเทศ สู่การรับบทโหม๋ หญิงสาวชายขอบประเทศที่บอกว่าไม่เคยเห็นชีวิตของใครน่าสงสารเท่ากับตัวเองมาก่อน สลัดภาพนางงามสวยเป๊ะไปจนหมดสิ้นเพราะโหม๋นั้นเป็นหญิงสาวยากจนที่หาเลี้ยงชีวิตด้วยการเก็บกะหล่ำปลีเพื่อส่งขาย และเลี้ยงปากท้องด้วยซากเศษกะหล่ำปลีที่พ่อค้าคนกลางคัดทิ้ง เติมความน่าเวทนาของชีวิตด้วยแม่แสง แม่บุญธรรมที่พิการจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ที่โหม๋ต้องรับบทดูแลร่วมกว่า 20 ปี อิงฟ้าสามารถถ่ายทอดความยากลำบากในชีวิตของโหม๋ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งฉากเอาเนื้อหมูในตู้เย็นมาแนบหน้าเพราะตัวเองทนกินแต่ผักหญ้ามาตลอด ชุดนอนสีชมพูที่โหม๋ใช้เช็ดสิ่งปฏิกูลให้แม่โดยไม่ต้องคิดอะไรซึ่งมันเป็นชุดตัวเดียวกันกับที่โหม๋เลือกใส่ตอนออกจากบ้าน ฉากที่พาแม่แสงไปห้างสรรพสินค้าแต่มันก็เป็นแค่เพียงซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก หรือฉากที่โหม๋เทกระเป๋าสตางค์แล้วบรรจงนับเงินให้พอดีจ่ายกับค่าแซนด์วิซอบร้อนให้แม่แสงได้ลองชิมเป็นบุญปาก นอกไปจากความลำเค็ญตัวละครโหม๋ยังนำเสนอความซับซ้อนของอารมณ์และความรู้สึกที่พัวพันอยู่รอบตัวของเธอตลอดเวลา ทั้งกิเลสความอยากได้ทรัพย์สมบัติเพื่อถีบตัวเองออกจากขุมนรกความลำเค็ญ ความรู้สึกเห็นแก่ตัว ตลอดไปจนถึงสำนึกความรู้ผิดชอบชั่วดีที่ ความเศร้าโศกเสียใจที่หลั่งไหลเข้ามาไม่แห้งเหือดตลอดเรื่อง ซูฮกให้ฝีมือการแสดงของคุณอิงฟ้าที่ทำให้ตัวละครโหม๋ดูชัดเจน เป็นรูปร่างขึ้นมาได้อย่างไร้ที่ติ สีดา พัวพิมล รับบท แม่แสง ตัวละครที่ดูเหมือนจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่กลับมีบทบาทต่อเส้นเรื่องวิมานหนามได้มากกว่าที่เข้าใจ แม่แสงเปรียบเสมือนขุมสมบัติที่ทองคำและโหม๋ต่างแย่งชิงมาครอบครอง สมบัติทั้งหมดของบุตรที่ไร้ซึ่งคู่สมรสกลายเป็นของบิดร-มารดาโดยอัตโนมัติ ทุกการตัดสินใจของแม่แสงจึงส่งผลต่อหน้ากระดานเดือดระหว่างทองคำและโหม๋แบบจังๆ ยอมรับว่าตัวละครนี้แอบทำให้เราคันหัวใจอยู่บ้างเพราะการถ่ายทอดบทบาทความเป็นแม่ของคุณสีดาที่ดูเป็นธรรมชาติเสียจริง ทั้งการออกตัวกับทองคำว่าการเข้ามารับสมบัติต่อจากลูกชายของตนเองก็เป็นเพราะตามสิทธิ์ (ถึงแม้ความจริงจะรู้อยู่เต็มอกว่าสวนทุเรียนแห่งนี้เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของทองคำและลูกชาย) บทแม่ผู้ทวงบุญคุณทุกสิ่งอย่าง และพร้อมด่ากราดผู้อยู่เบื้องล่างที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งว่าเป็นคนเนรคุณ เลี้ยงเสียข้าวสุก บทเหล่านี้ของแม่แสงที่มาพร้อมกับการแสดงที่กลืนเข้ากับบทเป็นเนื้อเดียวกับของแม่สีดา จะช่วยให้เรารู้สึก relate กับบทนี้ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีบทตัวละครสำคัญอย่าง พี่เสก ที่ขอมอบตำแหน่ง "ตัวต้นเหตุของปัญหา" ไว้ให้ด้วยตัวเราเอง และ จึ่งนะ ชายหนุ่มที่จับพลัดจับผลูเข้ามาในเกมแย่งชิงสมบัติโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ที่ช่วยเพิ่มมิติของเนื้อเรื่องให้เข้มข้น สุมเพลิงให้ลุกลามใหญ่โตราวกับไฟลามทุ่ง โปรดักชัน งดงามในทุกๆ รายละเอียด งานโปรดักชันของภาพยนตร์เรื่องวิมานหนามสะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้กำกับ ทีมโปรดักชั่นและผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างจริงใจ ฉากสวนทุเรียนและบ้านที่ตั้งอยู่ในชนบทของแม่ฮ่องสอนถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างงดงาม โลเคชั่นที่ปรากฎต่อสายผู้ชมอย่างเราๆ ราวกับได้ชมงานศิลป์สวยๆ แต่ยังเต็มไปด้วยความสมจริง ไม่ว่าจะเป็นฉากในสวนทุเรียน หรือวิมานรักหลังน้อยๆ ของทองคำและเสก ที่เป็นเรือนไม้ตกแต่งได้ตามฐานะ อีกเรื่องที่ต้องชมแบบขาดเสียไม่ได้คือเรื่องของ คอสตูม ชุดเสื้อผ้าของนักแสดงที่ทางกองถ่ายให้ข้อมูลมาว่าเสื้อผ้าที่ใช้ล้วนเป็นเสื้อผ้ามือสอง การแต่งหน้าทาปากก็ไม่ฟู่ฟ่าเน้นงานหน้าแบบธรรมชาติเพื่อช่วยปรับลุคนักแสดงให้เข้ากับบทบาทมากที่สุด เราเลยได้เห็นนักแสดงหน้าสด ผมกระเซิง ชุดเสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ บ้านหลังเล็กๆ ที่ดูพังแหล่ไม่พังแหล่ แต่รายละเอียดเหล่านี้กลับไม่ใช่แผลที่พาให้จ้องจับผิดแต่มันกลายเป็นรายละเอียดความสมจริงที่น่าสนใจและตราตรึงในทุกสายตา นอกจากนี้งานเพลงประกอบภาพยนตร์วิมานหนาม "เหมือนวิวาห์" ที่ถูกถ่ายทอดออกมาโดยเจฟ ซาเตอร์ ก็ดีงามที่สุด และยิ่งเมื่อได้ฟังเพลงนี้อีกครั้งหลังจากรู้เนื้อหาทั้งหมดของหนังแล้ว ความหมายของเพลงที่เราเคยเข้าใจก็เปลี่ยนไปเยอะเลยทีเดียว บทสรุป ภาพยนตร์ที่สมควรถูกจารึกในหัวใจผู้ชม "วิมานหนาม" ไม่ใช่เพียงภาพยนตร์ที่ถูกผลิตออกมาเพื่อเร้าความรู้สึก และความบันเทิงใจ แต่เป็นเสียงสะท้อนที่ทรงพลังเกี่ยวข้องกับความรัก ความเหลื่อมล้ำทางเพศ ความเหลื่อมล้ำในคุณภาพชีวิตและสังคมได้อย่างคมคาย แต่หนังเรื่องนี้ยังฝากคำถามให้ผู้ชมอย่างเราๆ ได้คิดตามว่าการกระทำของแต่ละตัวละครเหมาะสมแล้วหรือไม่? ประเด็นทางสังคมที่ล้าหลังเหล่านี้ควรถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นได้แล้วหรือยัง? หลังรับชมจบแล้ว รับรองได้เลยว่าวิมานหนามจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน เปิดวาร์ปนักแสดง วิมานหนาม (The Paradise of Thorns) https://www.instagram.com/p/DCEeNp6TCHw/?hl=th วรกมล ชาเตอร์ (เจฟ ซาเตอร์) รับบท ทองคำ ครรลองสุข นักแสดง นักร้องชาวไทยชื่อดัง เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2538 เขาเป็นลูกเสี้ยวไทย-จีน-อังกฤษ เริ่มต้นอาชีพในวงการเพลงกับค่ายกามิกาเซ่ในปี พ.ศ. 2556 มีผลงานเพลงเช่น "คิดถึงเธอแทบจะตายแล้ว" และ "ไม่กล้าบอกชัด" ต่อมาได้ย้ายมาสังกัด Garden Music และ GRAND MUSIK ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ปัจจุบันเป็นศิลปินอิสระและสังกัด Warner Music Thailand ซึ่งมีผลงานเพลงชื่อดังหลายผลงาน ไม่ว่าจะเป็น ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade) ซ่อนหา แค่เธอ นอกจากนี้เขายังมีผลงานโดดเด่นด้านการแสดง เช่น "HE SHE IT" (พ.ศ. 2562), "Ingredients" (พ.ศ. 2563), "Love Area The Series" (พ.ศ. 2564) และ "KinnPorsche The Series" (พ.ศ. 2565) https://www.instagram.com/p/DER-HUiPUmI/?img_index=1 อิงฟ้า วราหะ รับบท โหม๋ นางแบบ พิธีกรและนักแสดงขื่อดังในเมืองไทยรวมถึงระดับสากล เธอเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ที่จังหวัดอุทัยธานี และเติบโตมาในครอบครัวนักดนตรีทำให้เธอมีความสามารถด้านการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก เธอเข้าแข่งขันในรายการ The Voice Thailand Season 7 ก่อนที่ต้อมาจะผันตัวเข้าวงการนางงามด้วยการประกวดในเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ และคว้ำตแหน่งชนะเลิศอันดับ 1 มาครอบครอง ควบด้วยตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล 2022 นอกไปจากความสามารถด้านการร้อง การเดินแบบ เธอยังมีความสามารถด้านการแสดงด้วยผลงานชื่อดังหลายเรื่อง เช่น บางกอกคณิกา, Show Me Love The Series - แค่อยากบอกรัก, หยดฝนกลิ่นสนิม https://www.instagram.com/p/DDerO4IyXpk/?hl=th&img_index=1 พงศกร เมตตาริกานนท์ รับบท เสกสรร ดารา นักแสดงชาวไทย เกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ที่จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นบุตรคนโตในครอบครัวที่มีธุรกิจโรงสีข้าว เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เต้ยเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการชนะเลิศโครงการ "The Idol Project 2" ในปี พ.ศ. 2554 และมีผลงานการแสดงที่โดดเด่นในละครโทรทัศน์หลายเรื่อง เช่น "คุณชายรัชชานนท์" (พ.ศ. 2556) รับบทเป็นบักจ่อย, "บางระจัน" (พ.ศ. 2558) รับบทเป็นทัพ, และ "ซ่อนรักกามเทพ" (พ.ศ. 2560) รับบทเป็นอังค์กูณฑ์ นอกจากนี้ เขายังมีผลงานในภาพยนตร์และมิวสิกวิดีโอ รวมถึงได้รับรางวัลในวงการบันเทิงหลายรางวัล สีดา พัวพิมล รับบท แม่แสง นักแสดงหญิงรุ่นใหญ่เกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2498 เธอมีผลงานการแสดงทั้งบทนางเอกและนางร้ายในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์หลายเรื่อง เช่น "เลือดทมิฬ", "รักเธอสุดหัวใจ", "พ่อปลาไหล" และ "ทหารอากาศขาดรัก" เธอเป็นมารดาของอภิชาติ พัวพิมล (อ๊อฟ) นักแสดงชื่อดังผู้ล่วงลับ หลังจากห่างหายจากวงการภาพยนตร์ไปกว่า 30 ปี สีดาได้กลับมารับงานแสดงอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง "แดนสาป" และ "วิมานหนาม" ซึ่งเป็นผลงานจากค่าย GDH ที่ทำให้ชื่อเสียงของเธอกลับมาเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางอีกครั้ง https://www.instagram.com/p/DDR67X5pVC5/?img_index=1 หฤษฎ์ บัวย้อย รับบท จิ่งนะ ดารานักแสดงหน้าใหม่ของเมืองไทย เขาเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2542 ที่อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา เขาสำเร็จการศึกษาสาขาวิชาการศึกษา แขนงวิชาภาษาไทย จากมหาวิทยาลัยพะเยา ในระหว่างศึกษา เก่งได้รับตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยพะเยา ประจำปี 2561 และรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองจากการประกวด Chinese Chiangmai 2021 เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากคลิปไวรัลใน TikTok ขณะเป็นครูฝึกสอนภาษาไทย ต่อมา เขาเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบในสังกัด Redmodels Thailand และได้รับรางวัลชนะเลิศเทพบุตรยี่เป็งเชียงใหม่ 2565 ผลงานการแสดงที่โดดเด่นของเก่ง ได้แก่ บทบาท "พ่อครูภรัณ" ในซีรีส์ "เขมจิราต้องรอด" และบท "จิ่งนะ" ในภาพยนตร์ "วิมานหนาม" จากค่าย GDH ภาพหน้าปก ภาพที่1 จาก GDH ภาพในเนื้อหา 1 9 จาก GDH / 2 3 4 5 7 13 14 , 6 8 10 11 12 จาก GDH คลิปในเนื้อหา คลิป1 จาก GDH instagram: jeffsatur / fa_engfa8 / toey_pongsakorn / harit_keng เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !