Series Full ReviewFlower Of Evil : ดอกไม้ปีศาจบทแน่น เรื่องย่อยเรื่องหลักสัมพันธ์กันสมดุลลงตัว น่าเสียดายที่ความไม่กล้าบางอย่างทำให้คนที่ต้องการแบบพิเศษใส่ไข่มองว่ายังไม่สุด แต่ก็อยู่ในมาตรฐานงานงานดีในแนวสืบสวนเข้มๆNETFLIX , viu , TrueD : 1 Season 16 Episodes (2020)ถ้าเอ่ยถึงซีรีส์เกาหลีสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนจะนึกถึงอันดับแรกๆคือความแน่นและความแข็งแรงของบทจนคล้ายเป็นเอกลักษณ์ น้อยครั้งที่จะได้เห็นซีรีส์เกาหลีที่สร้างมาเพื่อดาราหรือเขียนบทมาเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง กลับกันคือเขียนบทให้น่าสนใจแล้วคัดเลือกนักแสดงให้เหมาะกับบท ผู้ชมจึงมักจะได้เห็นนักแสดงเกาหลีในบทบาทที่ไม่ค่อยซ้ำไม่ผูกขาดบท ไม่เชื่อลองนึกถึงนักแสดงอย่างยูแฮจินที่หน้าตาอาจชวนฮาแต่ว่าเล่นบทดราม่าได้เข้มมาก หรือลองนึกถึงพัคแฮซูที่ทั้งซื่อเซ่อซ่าใน Prison Playbook แล้วพอมารับบทนักฆ่าเลือดเย็นที่สบตาแล้วเสียวสันหลังวาบใน Time To Huntสิ่งนั้นคือการที่ใช้บทเป็นตัวตั้งแล้วหานักแสดงที่เหมาะกับบทที่สุดมาสวมผลลัพธ์มันเลยออกมาดีไปจนถึงยอดเยี่ยม และการทำเช่นนี้ก็ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และละครของเกาหลีไปไกลสุดกู่ เช่นซีรีส์เรื่องที่ผู้เขียนกำลังจะแนะนำเรื่องนี้ที่คัดเลือกนักแสดงได้ลงตัวมากที่สุดด้วยความที่บุคลิกพระเอกต้องอ่านสีหน้าลำบาก และนักแสดงที่มารับบทก็เป็นคนที่เก่งทางด้านนี้ที่เขาสามารถซ่อนและซ้อนอารมณ์ได้อย่างน่าทึ่ง เพียงแต่ด้วยความที่นักแสดงที่มาเป็นพระเอกเป็นนักแสดงแม่เหล็กแต่เจตนารมณ์ของบททิ้งน้ำหนักไปทางนางเอก ผู้ชมจึงได้เห็นความพยายามที่จะขายพระเอกอย่างเต็มที่ และมันก็ทำให้มันไปไม่สุดทางในบางเรื่องสำหรับสายฮาร์ดคอร์ Flower Of Evil เรื่องย่อแพคฮีซอง (อีจุนกิ) ช่างฝีมืองานศิลปะโลหะที่มีครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ เขามีชาจีวอน (มุนแชวอน) ภรรยาที่เป็นสายสืบคดีฆาตกรรมอยู่เคียงข้าง มี แพคอึนฮา (จุงโซยอน) ลูกสาววัยน่ารักเป็นพยานรัก แล้วเรื่องก็ใช้เวลาไม่นานในการเผยให้เห็นว่าพ่อแม่ของฮีซองไม่ได้มีทัศนคติที่ดีต่อลูกสะใภ้อย่างจีวอนนัก กระทั่งเมื่อจีวอนได้ร่วมสืบสวนคดีฆาตกรรมที่มีส่วนคล้ายกับคดีฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังในอดีต คดีที่ไม่มีใครปิดได้เพราะฆาตกรตายไปแล้วแต่เมื่อสืบสวนกลับพบว่าเป็นการเลียนแบบ แต่ยังมีอีกคดีที่ยังต้องตามหาที่สืบเนื่องจากคดีนั้นคือคดีฆาตกรรมผู้ใหญ่บ้านที่ฆาตกรยังคงหลบหนีอยู่ก็คือโทฮยอนซูลูกชายของฆาตกรต่อเนื่องโทมินซอกแต่แล้วการมาของนักข่าวคิมมูจิน (ซอฮยอนวู)ที่มาเจอกับแพคฮีซองแล้วมาพบกับความจริงที่น่าตกใจคือแพคฮีซองที่อยู่ตรงหน้าคือโทฮยอนซู เมื่อรูปการณ์เป็นเช่นนี้แพคฮีซองหรือความจริงคือฆาตกรโทฮยอนซูจึงจับคิมมูจินขังไว้ในห้องใต้ดินแต่ที่สุดก็เจอจุดอ่อนที่ทำให้ทั้งสองต้องร่วมมือกัน ขณะเดียวกันก็มีเหตุการณ์ฆาตกรรมแบบเดียวกับคดีดังในอดีตเกิดขึ้นอีกครั้งและชาจีวอนก็ได้ร่วมสอบสวน แล้วกลายเป็นว่าเบาะแสต่างๆชี้มาทางแพคฮีซองสามีของเธอ ซ้ำยังไม่พอสัญชาตญาณสายสืบของเธอทำให้เธอยิ่งสงสัยเมื่อแพคฮีซองเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ แต่นั่นเป็นเพราะว่าแพคฮีซองหรือโทฮยอนซูก็กำลังพยายามตามหาตัวฆาตกรเช่นกันเพราะเขาเองไม่ได้เป็นคนทำเรื่องราวจึงน่าสงสัยว่าแท้จริงแล้วโทฮยอนซูเกี่ยวอะไรกับเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องที่โทมินซอกพ่อของเขาเคยก่อไว้หรือไม่ และคดีต่างๆก็เริ่มเชื่อมกันติดแต่ความรักและความไม่น่าไว้ใจเริ่มเผชิญหน้ากันในใจของชาจีวอนเมื่อหลักฐานกับสัญชาตญาณเริ่มชี้ว่าสามีเธอคือฆาตกรโรคจิต แต่ความรักความอบอุ่นที่เขามีให้เสมอก็ย้อนแย้งในใจชาจีวอน สุดท้ายสายสืบชาจะเชื่ออย่างไหน เมื่อดอกไม้ (Flower) หรือความชั่วร้าย (Evil) ฝ่ายไหนจะชนะ ด้วยชั้นเชิงที่ไม่ใหม่แต่ได้ผลดีอีกครั้งแต่เมื่อความเสียดายบางอย่างทำให้ไปไม่สุดทางในบางอย่างทีควรไป แล้วอาจจะทำให้ผู้ชมบางคนที่ต้องการมากกว่านี้พิเศษว่านี้ผิดหวังไปตามกัน แต่ถ้าวัดกันที่มาตรฐานงานแนวนี้ก็จัดว่าอยู่ในระดับงานดีบทแน่นแต่ลืมเจตนาเพราะความเสียดายเลยทำให้แสนเสียดายงานด้านบทของเรื่องนี้ถือว่าแน่น การผูกเรื่องให้สัมพันธ์กันอยู่ในระดับดีมาก การเก็บรายละเอียดปมประเด็นและตัวละครรายทางให้มีบทสรุปไม่ค้างคา จัดว่าอยู่ในมาตรฐานที่พึงมีของซีรีส์สืบสวนที่ท้าทายสมอง เพียงแต่เจตนารมณ์ของบทตามที่เห็นและควรจะเป็นคือต้องเป็นเรื่องของ Sleeping With Enemy ที่เล่นกับความรู้สึกให้ตั้งอยู่บนความไม่ไว้ใจและสงสัยคนที่นอนข้างกันในทุกคืนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนทั้งหญิงหรือชาย และตัวละครที่เป็นคนสงสัยจะเป็นตัวเดินเรื่องเสมอและเรื่องนี้ตามหน้าเสื่อวางตัวไว้ที่ตัวละครภรรยาคือชาจีวอนต้องรู้สึกสงสัยในตัวสามีแพคฮีซองที่จะพาการปะทะกันในความรู้สึกซับซ้อนข้างใน และเชือดเฉือนกันในการเผชิญหน้ากันแต่สิ่งที่เป็นคือบทไปไม่สุดทางอารมณ์นี้คือ เพราะเมื่อถึงเวลาบทเลือกเอาใจผู้ชม หรือเจาะจงลงไปอีกคือเลือกถนอมน้ำใจแฟนคลับอีจุนกิซึ่งจะไม่เป็นไรเลยถ้าสลับเอาอีจุนกิมาเป็นคนเดินเรื่องแทนมุนแชวอน เดาว่าอาจตั้งใจให้อีจุนกิรับผิดชอบบทที่ต่างไปมีสีสันกว่าที่เคยเป็น แต่ความไม่กล้าหักหาญน้ำใจเลยทำให้เจตนารมณ์ที่ต้องการมาได้แค่ครึ่งเดียวเมื่อเลือกที่จะเผยให้เห็นว่าโทฮยอนซูใม่ใช่อย่างที่คิด ซึ่งพอถึงจุดที่เปิดตรงนี้สำหรับผู้ชมที่ต้องการอะไรมากกว่านี้รู้สึกทันทีว่าพลังตก เพราะความน่าสงสัยในตัวพระเอกหายไปสิ้นเหลือเพียงเป็นการร่วมกันค้นหาความจริงและเคลียร์ตัวเอง ซึ่งกลายเป็นกั๊กกันระหว่างบทตัวเดินเรื่องที่ต้องเป็นภรรยาที่เป็นตำรวจกับสามีที่พยายามสืบเพื่อเคลียร์ตัวเอง ทั้งที่ความจริงต้องหนักทางภรรยาที่มีสามีเป็นฆาตกรแต่ความเสียดายที่ว่าเลยต้องเทมาที่อีจุนกิแล้วกลายเป็นกั๊ก ซึ่งถ้าหากว่ากล้าที่จะให้พระเอกโหดกว่านี้หรือน่าสงสัยไปถึงที่สุดแล้วปล่อยหมัดเด็ดในเวลาที่ถูกต้อง มันจะกลายเป็นงานที่ไปถึงระดับเหนือชั้นได้ หรือลองหลับตานึกถึงงานอย่าง Bad Guys ที่ดาร์คสุดขีด โหดทุกคน ไม่มีตัวดีเลย แต่ละคนล้วนมีของ แล้วความเกี่ยวข้องกันในคดีที่คลี่คลาย และเผยในเวลาที่ถูกต้องทำให้ผู้ชมว้าวและไปถึงระดับขึ้นหิ้ง หรืองานที่มาทีหลังอย่าง Mouse ที่ไปสุดทางเลยที่ทำให้เป็นที่กล่าวขานจึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับเรื่องนี้ที่วัตถุดิบพร้อมแล้ว ถ้าลองจินตนาการว่าพระเอกน่าสงสัยว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือไม่แล้ววางตัวให้ร้ายไปให้ไกลกว่านี้ หม่นกว่านี้ ดาร์คกว่านี้เรื่องจะไปสุดขีดได้อีกปานไหน แต่เท่าที่เป็นไม่ใช่ว่ามันไม่ดีมันยังมีดีอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ก็เต็มไปด้วยความน่าเสียดายด้วยเหตุที่ว่า เลยทำให้เป็นงานที่ดูสนุก เดินเรื่องน่าติดตาม แต่ก็อยู่ในระดับงานดี เป็นงานที่ได้มาตรฐานของแนวทางนี้ที่คิดแล้วก็ยังเสียดายที่น่าจะไปถึงในระดับขึ้นหิ้งได้ชั้นเชิงเดิมที่คุ้นชินกับการเสนอในมุมที่แหวกทำให้ตัวละครดูฉลาดและเท่ชั้นเชิงที่คุ้นชินสำหรับเกาหลีที่เปิดหน้าก่อนแล้วย้อนมาเฉลยยังคงได้ผลเสมอ และการที่จะได้ผลซ้ำๆมันก็ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบคือ บทต้องแน่นให้ยากที่จะคาดเดา การเล่าเรื่องต้องเนี้ยบแต่ต้องไม่ยากเกินจนดูไม่รู้เรื่อง และการแสดงต้องเป๊ะทั้งสีหน้าแววตาภาษากาย เพราะบ่อยครั้งที่การแสดงหลุดก็ทำให้ผู้ชมเดาได้แล้ว ซึ่งกับเรื่องนี้ชั้นเชิงเดิมการเล่าเรื่องแบบเดิมของแนวสืบสวนยังได้ผลดี แม้จะเหมือนเคยดูผ่านตามาบ้างกับบางอย่างแต่ก็ยังสนุก ลุ้น และสงสัย จะมีบ้างด้วยเหตุผลที่ว่าความเสียดายพลังดารา ทำให้ตัวร้ายตัวจริงไม่ยากต่อการคาดเดา และทำให้คาแร็คเตอร์ตัวร้ายยังไม่สุด แต่สำรับการวางกับดักผู้ชมในแต่ละเรื่องนับว่าได้ผลเพราะความสงสัยไม่เคยลดระดับ มีหลอนนิดๆเมื่อเล่าเรื่องของพ่อพระเอกที่เป็นฆาตกรตัวจริงส่งผลให้ความน่าติดตามอยู่ในระดับสูงสุด กับอีกส่วนที่นับว่าแหวกแนวคือการเสนอการสืบสวนสอบสวนของตำรวจให้ออกมาแบบใช้สัญชาตญาณมากกว่าเสนอผ่านพยานหลักฐาน ซึ่งมันทำให้ตัวละครตำรวจดูเท่ ฉลาดทันเกมส์ ไม่ได้ถูกต้อนจนมุมตลอด และมันยิ่งเพิ่มพลังให้ตัวละครชาจีวอนที่เป็นหญิงเก่งและฉลาดแต่ต้องมาสับสนว่าตนเองอยู่กับการโกหกปกปิดของฆาตกรมาได้ยังไงถึงสิบสี่ปี สับสนว้าวุ่นใจว่าสามีที่แสนดีและอบอุ่นจะกลายเป็นคนเลือดเย็นไร้ความรู้สึกเช่นนั้น หรือความถูกต้องกับความรักจะเลือกทางไหนแต่เพราะเรื่องแนวนี้มันต้องดำดิ่ง มืดหม่น สงสัยไปสุดทางแล้วเปิดมาอ้าปากค้างโล่งใจทั้งผู้ชมและนางเอก แต่เมื่อมันออกมาแบบที่เห็นผลที่ได้ก็ยังโอเคเพราะเรื่องก็ไม่ได้หลุดออกนอกทาง แค่ลดความสับสนในใจผู้ชมต่อพระเอกลงจนสิ้นเมื่อเลือกให้เป็นพระเอกในอุดมคติ เพียงแต่มันดันไม่สุดทางของคำว่า "ดอกไม้ปีศาจ" เพราะมันไม่ไปให้ถึงขีดสุด เป็นเพียงชายจิตใจดีที่ถูกกระทำและป่วยเป็นโรคไซโคพาธ ซึ่งมันเบสิคเกินไปถ้าจะมองจากหน้าเสื่อและชื่อเรื่อง มันต้องพิเศษใส่ไข่สองใบไปให้สุดของคำว่า Evil ที่จะให้อารมณ์ที่แปลกและแหวก ที่ผู้เขียนมองว่าน่าจะเจ๋งกว่าด้วยซ้ำถ้าผู้ชมจะสับสนปนความขัดแย้งในใจไปพร้อมกับนางเอกจนสุดทาง แล้วถอนหายใจโล่งว่า "นึกแล้วว่าต้องไม่เป็นแบบนี้"การวางตัวนักแสดงในระดับที่ต้องชื่นชมชัดเจนในการขายในสิ่งที่อยากขายนั่นคือเสน่ห์และพลังดาราที่เรียกคนดูได้ของอีจุนกิ และกลายมาเป็นการวางตัวนักแสดงในบทโทฮยอนซูหรือแพคฮีซองตามจินตนาการที่มีสองตัวตนและต้องเร้นหลบความรู้สึก ตัวตน และอารมณ์ไว้ให้แนบเนียน แล้วมองเห็นว่านี่คือบทที่เขียนมาเพื่ออีจุนกิโดยเฉพาะหรือไม่ ซึ่งถ้าจะลองคิดดูก็คือตอนที่ท่านดูจบ ท่านลองจินตนาการนักแสดงชายคนไหนที่จะมาแสดงแทนอีจุนกิในบทนี้ดูท่านคิดว่าใครจะมาแทนเขาได้ มันจึงเป็นความลงตัวที่สุดที่บทนี้เป็นของอีจุนกิเพราะเขาคือนักแสดงที่เก่งมากในเรื่องการแสดงอารมณ์ซ้อนอารมณ์ หรือการแสดงความขัดแย้งทางอารมณ์ผ่านสีหน้าที่ขัดกับแววตาซึ่งอีจุนกิเก่งมากลองจินตนาการถึงสีหน้าเรียบเฉยแต่แววตามีความรู้สึกอ่อนโยน หรือสีหน้าไม่แคร์แต่แววตาห่วงใย หน้าระรื่นแต่แววตาเจ้าเล่ห์ ยากหรือไม่ลองทำกับคนข้างๆดู และเรื่องนี้ก็เปิดทางให้เขาเล่นแบบนี้บ่อยมากเพราะบทของตัวละครมันต้องไปทางนี้ มันคือจุดเด่นของตัวละครที่เขาต้องรับผิดชอบและคงมีแค่เขาเท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้ผ่านสีหน้าแววตาได้ในระดับนี้ มันจึงเป็นการวางตัวนักแสดงในระดับที่ต้องชื่นชมงานเลยออกมาดูดี เสน่ห์ส่วนตัวออกมาเต็มที่ พลังดาราเปล่งประกาย แต่น่าเสียดายที่น่าจะลองไปให้สุดขีดกว่านี้ เพราะเท่าที่เป็นเขาหลับตาเล่นก็คงได้ แต่ถ้ากล้าที่จะลองให้เขารับผิดชอบบทที่ดำดิ่งกว่านี้อาจจะทำให้อีจุนกิได้เล่นอะไรที่แสบๆร้ายๆเห็นภาพการแสดงที่เป็นในอีกรูปแบบที่ต่างไป แล้วมันอาจจะให้ผลลัพธ์ในระดับขึ้นหิ้งได้ ซึ่งที่ต้องย้ำจุดนี้บ่อยๆเพราะเสียดายที่ว่ามันน่าจะทำให้เรื่องนี้ไปสุดขีดทางอารมณ์ร่วมของผู้ชม เพราะอาจบางทีการไปให้สุดทางในทางอาจจะทำให้เกิดมิติที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้นด้วยมิติของพระเอกที่แตกต่าง (ลองนึกถึงคิมฮเยซูใน Coin Locker Girl หรืออีซึงกิจาก Mouse) เพราะความจริงแล้วสารตั้งต้นของตัวบทและแนวทางที่วางไว้แบบ Sleeping With Enemy ที่ต้องวางตัวชาจีวอนของมุนแชวอนให้เด่นกว่าในทางตรง และโดยทั่วไปแล้วตัวละครนี้ต้องมีมิติที่ลึกกว่า ซับซ้อนกว่า หลากหลายกว่าเพราะข้างในต้องรับศึกหลายทาง สับสนหลายอย่าง ไม่แน่ใจ ไม่ไว้ใจ และไม่อยากเชื่อความรู้สึกตัวเอง และแล้วผู้ชมก็ได้เห็นมุนแชวอนใส่เต็มที่กับบทนี้ และมันเป็นไปตามสารตั้งต้นที่มีเมื่อเธอเป็นแกนกลางของเรื่องไปจนกระทั่งบทเลือกที่จะลดระดับตัวเองลงมาเป็นงานสืบสวนชั้นดีแต่มีให้เห็นทั่วไป ทำให้ระดับความสับสนในใจผู้ชมลดลงไปพร้อมๆกับชาจีวอนเมื่อเธอและผู้ชมแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่คิดไม่เป็นอย่างที่คิด แต่ด้วยชั้นเชิงและบทที่แน่นหนาพอในเรื่องการเก็บรายละเอียด แล้วการวางกับดักใส่สมองผู้ชมยังคงทำให้เดินหน้าไปอย่างสนุกแต่กับผู้ชมสายฮาร์ดคอร์อาจจะร้องกันระงม แต่กระนั้นบนความตั้งใจขายเสน่ห์ของอีจุนกิเต็มที่แบบนี้มุนแชวอนกลับไม่โดนข่ม ซ้ำยังไม่พอด้วยเจตนารมณ์ตั้งต้นของไอเดียทำให้บางช่วงเวลาเธอดูเด่นกว่าอีจุนกิด้วยซ้ำ ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆก็มาในมาตรฐานงานสืบสวนชั้นดีที่ไม่น่าไว้ใจใครเลยสักคนและการแสดงยังอยู่ในระดับตามมาตรฐาน อาจไม่ใช่งานที่สมบูรณ์แบบแต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเป็นที่น่าจดจำ ความจริงนอกจากการลดลงของความน่าสงสัยเมื่อเฉลยว่าที่เห็นเป็นอย่างที่คิดหรือไม่ ทำให้ความมั่นใจในตัวละครไปดึงความตึงของความโรคจิตและความดาร์คจนทำให้ไปไม่สุดทางที่ควรไป อีกสิ่งที่ยังดูล้นคือบทสนทนาที่บางจังหวะดูเยอะยืดไปโดยไม่จำเป็น เดาว่าเพราะความต้องการให้ละเอียดและเก็บได้ทุกประเด็น แต่ถ้าตัดบทสนทนาที่ไม่จำเป็นออกบ้างแล้วปล่อยให้ภาพทำงานของมันผ่านความเงียบและอารมณ์บรรยากาศน่าจะดีกว่า แต่ก็มีแค่นั้น เพราะส่วนอื่นๆไม่มีอะไรให้ตำหนิ เพราะนี่คืองานสืบสวนสอบสวนที่เข้าที่เข้าทางมีความสมดุลทั้งในภาวะจิตใจของตัวละครอันส่งผลมายังอารมณ์ร่วมบนความตื่นเต้นและลุ้นอย่างสนุกไปกับตัวละคร ยังมีความรัก ความเกลียด การให้อภัยและการไถ่บาป และเรื่องก็มีความสมดุลระหว่างแนวสืบสวนกับเลิฟไลน์ ทำให้ได้ใจผู้ชมทั้งสองกลุ่ม มันจึงให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นงานที่อยู่ในระดับดีถึงดีมาก ทั้งการเก็บรายละเอียดประเด็นและตัวละครที่มีบทสรุปในตัว การวางเงื่อนปมที่ต้องให้นิยามว่าขุดหลุมพรางวางกับดัก การเล่นกับอารมณ์ผู้ชม ชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่อาจไม่ได้ใหม่แต่ว่าใช้ออกมาได้ถูกที่ถูกเวลาและผ่านบทที่แน่นยังได้ผลดี ทำให้เรื่องราวน่าติดตามเพราะถ้านับว่านี่คืออารมณ์สืบสวนหาความจริงก็จัดว่าเป็นงานที่มาตรฐานสูง และด้วยเสน่ห์ของนักแสดงเลยมีมุมมองของความรักเด่นออกมาแต่ว่าไม่ล้นแค่มีทะลักนิดๆในตอนสุดท้ายมีเรื่องความเสียสละและการไถ่โทษออกมาให้สัมผัส ส่งผลให้งานเรื่องนี้ออกมาในระดับที่น่าพอใจ ส่วนที่พลังตกลงไปและไม่สาแก่ใจสายฮาร์ดคอร์นั้นไม่ใช่ว่าไม่ดีมันยังดีอยู่แค่ไม่สะใจเท่านั้น และที่ว่าดีนั้นคือความชัดเจนที่จะขายในสิ่งที่ต้องการจะขาย ก็จริงที่อาจจะทำให้เรื่องไปไม่สุดทางในบางด้านแต่ก็ยังอยู่บนถนนเส้นเดิมที่เดินทางไปสู่ปลายทางที่ตั้งไว้ เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนเลนจากวิ่งเลนขวาด้วยความเร็วแรงกล้าได้กล้าเสี่ยงแล้วเปลี่ยนมาเลนซ้ายที่เน้นความปลอดภัย แต่เมื่อถึงจุดหมายก็พิสูจน์ว่าโทฮยอนซูคือ Evil จริงหรือไม่ นับเป็นงานชั้นยอดที่เกือบจะไปถึงความเยี่ยมถ้ากล้ากว่านี้อีกนิดเดียวเท่านั้นดูไปบ่นไปNETFLIX ชื่อไทย ดอกไม้ปีศาจ viu ไม่มีชื่อไทยTrueID ชื่อไทย รักซ่อนลับ ขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 / จาก Facebook tvN dramaภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 11 จาก Facebook tvN (International)ภาพที่ 12 จาก Facebook Netflixภาพที่ 13 จาก Facebook TrueIDภาพที่ 14 จาก Facebook Viu Thailandอัปเดตข่าว ดูหนังละครซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!