ชวนชม Jeongnyeon: The Star Is Born (2024) เหล้าเก่าในขวดใหม่ของ "คิมแทรี" ที่ใส่ใจรายละเอียดเริ่มต้นอย่างครบครันทั้งความฝันและความพยายามตามมาด้วยดราม่าขอบตาอุ่นชื้นตั้งแต่ต้น มาอีกแล้วกับงานที่ผู้เขียนไม่มีทางที่จะไม่ดูหรือปฏิเสธที่จะดูกลับกันคือต่อให้มีร้อยเหตุผลที่จะไม่ดูแต่ถ้ามีเพียงเหตุผลเดียวพอที่จะให้ดูผู้เขียนต้องดูและเหตุผลนั้นคือคิมแทรี ใช่แล้วเธอคือเหตุผลเดียวที่จะเจียดเวลาที่ค่อนข้างจำกัดจำเขี่ยในแต่ละวันมาดูงานใหม่ของเธอที่ออกอากาศทุกคืนวันเสาร์และอาทิตย์แต่ผู้เขียนจะดูค่ำๆวันจันทร์เพราะตอนกลางคืนมักทนง่วงไม่ไหว นั่นเพราะผู้เขียนเมื่อได้แรกพบคิมแทรีใน Mr. Sunshine (2018) เป็นต้นมาก็ตามเก็บและตามดูงานของเธอทุกเรื่องย้ำว่าทุกเรื่องที่หาดูได้ตั้งแต่ The Handmaiden (2016),1987: When The Day Comes (2017),Little Forest (2018),Space Sweepers (2021),Alienoid 1-2 (2022-2024) ที่เป็นงานหนัง ส่วนงานซีรีส์ตั้งแต่ Twenty Five Twenty One (2022),Revenant (2023) และเรื่องนี้ที่เป็นเรื่องล่าสุดเอาแบบเกือบครบกันไป นั่นหมายความว่าผู้เขียนหลงไหลบางอย่างในตัวคิมแทรีแน่นอนส่วนสำคัญคือการแสดงของเธอที่มีพลังสะกดคนดูเสมอมาและเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นในจุดเริ่มต้นนี้ ในช่วงทศวรรษที่ 1950 หลังสงครามเกาหลียุนจองนยอน (คิมแทรี) เด็กสาวที่เกิดมาพร้อมกับเสียงร้องเพลงดั่งสวรรค์ประทานอาศัยในเมืองมกโพกับแม่และพี่สาว แต่แม้เสียงร้องเพลงของจองนยอนจะมีความพิเศษแต่แม่ของเธอซอยองรเย (มุนโซรี) กลับห้ามไม่ให้ร้องเพลงจนกระทั่งเธอร้องเพลงในตลาดแล้วมุนอ๊กกยอง (จองอึนแช) นักแสดงละครเวทีกุกกึกที่เป็นการแสดงหญิงล้วนจากคณะแมรันกุกกึกมาได้ยินเข้าก็ประทับใจจึงให้ตั๋วกับจองนยอนให้ไปดูการแสดง หลังจากที่ได้ดูจองนยอนก็เหมือนกับถูกมนต์สะกดและกลายเป็นมีความฝันที่จะเป็นนักแสดงกุกกึกชื่อดังดั่งเช่นมุนอ๊กกยอง ทว่าปัญหาอยู่ที่แม่ผู้เข้มงวดของเธอที่พอรู้ว่าจองนยอนแอบไปฝึกการแสดงกุกกึกเพื่อออดิชันเข้าคณะแมรันก็โกรธและขังเธอไว้ จนเมื่อมุนอ๊กกยองจะกลับกรุงโซลที่จองนยอนจะไปด้วยยุนจองจา (โอกยองฮวา) ก็ทนไม่ได้ที่เห็นน้องต้องเจ็บปวดจึงแอบปล่อยน้องออกมา และที่คณะแมรันที่มีหัวหน้าคณะจอมเฮี้ยบคือคังโซบก (รามีรัน) คงไม่ง่ายที่ฝันของจองนยอนจะเป็นจริง เหล้าเก่าในขวดใหม่แต่ถูกปรุงเพิ่มอย่างกลมกล่อมก่อนบรรจุอย่างเนี้ยบด้วยการใส่รายละเอียดทั้งดราม่าและเรื่องเชิงวัฒนธรรม แรกเลยต้องชื่นชมการเขียนบทของทางเกาหลีอีกครั้งว่าเก่งจนไม่รู้จะอวยยังไงกับการช่างสรรหาเรื่องมาปรับแต่งให้อะไรที่เป็นของเก่าเล่าซ้ำกลายเป็นเหมือนใหม่ อย่างเรื่องนี้ก็คือเรื่องของการล่าฝันและแรงบันดาลใจที่ต้องฝ่าฟันไปให้ถึงที่เต็มไปด้วยอุปสรรค แถมยังมีการต้องเผชิญกับสถานการณ์และคู่แข่งในฐานะเด็กฝึกที่เป็นเหมือนเรื่องราวในโรงเรียนมัธยมที่เคยเห็นในงานแนววัยรุ่นแน่นอนมีดราม่าอยู่เบื้องหลังแน่เพราะตัวละครแม่ออกตัวแรงขนาดนี้ แต่การเอาเรื่องที่เคยเห็นมาแบบนี้มาเล่าโดยที่ไม่มีสัมผัสเรื่องอื่นเลยต้องนับว่าเยี่ยมคือรู้นะว่ามันคือแนวเรื่องเดิมแต่ปรับฉากทัศน์แต่ไม่รู้สึกว่าหยิบเอามาจากเรื่องไหน แถมยังเล่าเรื่องค่อนข้างตรงไปตรงมามีซับซ้อนหน่อยๆในดราม่าที่เบื้องหลังแต่ความเจ๋งคือการเอาเรื่องเชิงวัฒนธรรมคือการเอาการแสดงโบราณที่ได้รับความนิยมในขณะนั้นมาเป็นเบื้องหลังที่ดูไปก็ไม่ต่างจากลิเกบ้านเรา เมื่อเรื่องถูกประกอบจากหลายส่วนแล้วแต่ละส่วนมีความเร้าใจในตัวเองมาพร้อมรายละเอียดที่ละเมียดจึงออกมาเข้มขลัง หลักๆคือเรื่องของการเดินตามความฝันด้วยอารมณ์ประมาณจะไม่กลับหลังถ้ายังไม่ได้ดีที่ถ้าท่านอ่านเป็นทำนองก็ไม่น้อยแล้วนะอายุ แน่นอนสำหรับบางคนการมีความฝันก็เป็นเรื่องที่เยี่ยมแล้วเพราะบางคนแม้แต่ฝันยังไม่กล้า ทำให้ได้ตอนแรกที่ทรงพลังมีทุกอารมณ์ที่จะทำให้คนดูรู้สึกถึงอิ่มเอมตื้นตันขนลุกขอบตาชื้นเศร้าซึ้งและสงสัยว่าทำไมแม่จึงเป็นแบบนั้นซึ่งก็เดาไม่น่ายาก ตอนแรกจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่พลังแรงจนไม่ควรพลาดก่อนที่เมื่อมาถึงตอนที่สองเมื่อปรับเข้าสู่การเป็นเด็กฝึกที่ต้องอยู่ร่วมกับเด็กวัยเดียวกันก็ปรับมาเป็นงานแนววัยรุ่นวัยเรียนได้ดี เพราะทุกอย่างที่มีในงานแนวนี้ก็มาครบการวางตัวคู่แข่งและสถานการณ์การกลั่นแกล้งที่เคยเห็นกันมาทั้งที่รู้นะว่าตัวจองนยอนเองจะผ่านแต่ละเรื่องไปได้แต่ก็ยังไม่วายลุ้นเอาใจช่วยอยู่ดี และสิ่งเหล่านี้เองที่เป็นความเข้มข้นตามแนวที่มาพร้อมกับฉากหลังเป็นของโบราณที่น่าสนใจจึงเป็นความขลัง อีกครั้งที่ "คิมแทรี" สามารถทำให้ขนแขนแสตนด์อัพได้กับการแสดงของเธอที่มาพร้อมยอดฝีมือที่รายล้อม ด้วยความที่คิมแทรีได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงที่ค่อนข้างเลือกบทเห็นได้จากการที่ฝีมือระดับนี้แต่เครดิตผลงานกลับมีไม่มาก ดังนั้นแรกเลยคือเมื่อเห็นว่าเป็นงานใหม่ของคิมแทรีก็เชื่อไว้ก่อนได้เลยว่าบทต้องออกมาดีมีระดับคิมแทรีจึงรับงานแสดงซึ่งเมื่อมองจากสองตอนแรกที่ได้ดูโดยเฉพาะกับตอนแรกที่คิมแทรีประชันกับมุนโซรีในบทแม่อีกครั้งหลังจาก Little Forest (2018) ซึ่งบอกเลยว่าตอนแรกนั้นเป็นจุดเริ่มที่ยอดเยี่ยมมีครบทุกอารมณ์ในเวลาเพียงเท่านั้นด้วยด้วยการแสดงระดับเยี่ยมๆของทั้งสองแม้ว่าจะชัดเลยว่าเรื่องนี้มีคิมแทรีเป็นศูนย์กลาง ซึ่งคิมแทรีเองยังสามารถทำให้คนดูขนลุกไปกับการแสดงของเธอได้แทบทุกซีนทุกอารมณ์โดยเฉพาะการ้องเพลงที่เชื่อเถอะว่ามันมาจากการทำงานและการฝึกฝนอย่างหนัก แล้วหลังจากนั้นมาทุกการเผชิญหน้ากันของคิมแทรีกับรามีรันก็กลายเป็นฉากที่มีพลังยังไม่รวมถึงความกะโปโลสุดเดชของคิมแทรีที่เยี่ยมจริงๆ ง่ายๆคือแค่ดูการแสดงของ "คิมแทรี" ก็คุ้มค่าสมราคาแต่ยังมีความสนุกมีเรื่องกระชากอารมณ์ให้ต้องติดตาม โดยส่วนตัวแล้วการได้ดูคิมแทรีแสดงและยังแสดงได้ในระดับนี้ก็นับว่าคุ้มค่าแล้วกับสองตอนเริ่มต้น แน่นอนในเนื้อหาที่เป็นแนวประโลมโลกสร้างแรงบันดาลใจไปกับความฝันที่อาจไม่ยิ่งใหญ่แต่ใหญ่พอและอาจใหญ่เกินไปสำหรับบางคนที่ไม่กล้าฝันที่เริ่มต้นแค่การอยากกมีเงินมีทองเลี้ยงปากท้องแม่และพี่ให้อยู่สบาย ก็ไม่ตางจากเนื้อเพลงของราชินีลูกทุ่งพุ่มพวง ดวงจันทร์เพลงนักร้องบ้านนอกที่เอาง่ายๆคือเรื่องประมาณนี้มันไม่เคยง่ายยิ่งฝันนั้นยิ่งใหญ่หนทางยิ่งลำบาก แต่เมื่อเรื่องเดินตามแนวนี้ชื่อเรื่องก็บอกโทนโท่ก็คงพอรู้ว่าบทสรุปจะออกมาแบบไหนแต่ไม่ว่ายังไงก็ยังเอาใจช่วยอยู่ดีด้วยการแสดงที่ได้ใจเต็มที่ไปแล้วโดยคิมแทรี แล้วอุปสรรคนั้นอาจจะมาจากภายในคือตัวเองบ้างหรือไม่ยังไม่อาจทราบได้แต่มาจากภายนอกคือคู่แข่งตัวเอ้มีแน่นอนแล้วเมื่อคนดูเทใจให้จองนยอนไปแล้วความสนุกความกระชากอารมณ์ที่มีจึงทำให้ไม่ว่ายังไงก็ต้องติดตาม ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3,4,5,6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram tvn_drama จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !