รีเซต

[รีวิวซีรีส์] Crash Course in Romance: โรแมนซ์แบบพอดีแต่ตีแผ่การศึกษาเกาหลีแบบต่อยหนัก!

[รีวิวซีรีส์] Crash Course in Romance: โรแมนซ์แบบพอดีแต่ตีแผ่การศึกษาเกาหลีแบบต่อยหนัก!
แบไต๋
22 มกราคม 2566 ( 09:30 )
2.3K

ชุบชูหัวใจเริ่มต้นปีไปกับ Crash Course in Romance ซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องใหม่แกะกล่องจากช่อง tvN ที่ถึงแม้จะออกฉายทาง Netflix ไปได้เพียง 2 ตอน ก็ทำเราตกหลุมรักจนอยากให้ถึงวันเสาร์อาทิตย์เร็ว ๆ ซะเลยล่ะ

เอาจริง ๆ แค่เห็นชื่อผู้กำกับ ยูเจวอน เจ้าของผลงานซีรีส์น้ำดีอบอุ่นหัวใจอย่าง Hometown Cha-Cha-Cha (2021), Hi Bye, Mama! (2020) และยางฮีซึง ผู้เขียนบทซีรีส์ดัง ๆ มาแล้วมากมายอย่าง Weightlifting Fairy Kim Bok-Joo (2016) หรือ Oh my ghost (2015) ก็รู้ได้เลยว่าซีรีส์เรื่องนี้จะต้องเป็นอีกหนึ่งผลงานที่อบอวลไปด้วยเรื่องราวหลากหลายรสชาติ ทั้งสุข เศร้า เคล้าน้ำตา จนติดอยู่ในใจใครหลายคนไปอีกนานแน่นอน!

Crash Course in Romance เป็นเรื่องราวของ ‘นัมแฮงซอน’ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอดีตนักกีฬาทีมชาติระดับประเทศ ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นเจ้าของร้านเครื่องเคียงชื่อดัง จนกระทั่งวันหนึ่งเธอต้องกลับเข้ามาพัวพันในวังวนของการศึกษา เพราะว่า ‘นัมแฮอี’ ลูกสาวที่กำลังเรียนอยู่มัธยมปลายต้องการติวเตอร์คณิตศาสตร์แบบด่วน ๆ เพื่อมาช่วยเธอเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้นัมแฮงซอนโคจรมาพบกับ ‘ชเวชียอล’ ติวเตอร์คณิตศาสตร์ตัวท็อปกับดีกรีความเก่งกาจอันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่พ่อแม่ทุกคนต่างก็แย่งชิงที่นั่งให้ลูกตัวเองได้เข้าเรียนในคลาสสุดพิเศษของเขา

แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างหนักนั่นเอง มันก็ได้ทำให้เขากลายเป็นคนเมินเฉยต่อการมีความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวไปแถมยังรวมไปถึงการเมินเฉยในการดูแลตัวเองอีกด้วย จนกระทั่งหลังจากวันที่เขาได้พบกับนัมแฮงซอนผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานบวก ความรู้สึกดีแสนประหลาดจึงค่อย ๆ ก่อตัวเป็นความสัมพันธ์เชิงโรแมนติกแบบไม่คาดคิดและค่อย ๆ คลายปมในใจของทั้งคู่ไปพร้อม ๆ กัน

‘Crash Course in Romance (일타 스캔들)’

ผู้กำกับ : ยูเจวอน (จากซีรีส์ Hometown Cha-Cha-Cha)

เขียนบท : ยางฮีซึง (จากซีรีส์ Once Again)

ช่องทางการรับชม : Netflix

ความรู้สึกหลังดู

ถึงแม้ Crash Course in Romance จะมีคำว่าโรแมนซ์อยู่ในชื่อ และเหมือนจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ ดูเพลิน ๆ สบาย ๆ แต่พล็อตสำคัญของเรื่องที่สะท้อนภาพการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ ทั้งค่านิยมการเรียนพิเศษอย่างหนักแบบเช้ายันค่ำในหมู่นักเรียน ทั้งภาระงานของครูที่ต้องดูแลงานอื่น ๆ จนไม่สามารถโฟกัสกับการสอนอย่างเดียวได้ ทั้งเหล่าผู้ปกครองผู้เคร่งครัดที่ถึงขั้นต้องมารวมตัวกันหาที่เรียนพิเศษที่ดีที่สุดให้กับลูกหลาน ลามไปจนถึงปัญหาภายในครอบครัวที่เกิดจากความคาดหวังที่มากเกินไปของพ่อแม่และบาดแผลทางใจของตัวละครที่ค่อย ๆ พาเราดิ่งลึกลงไปในความรู้สึกสับสนของตัวละครทีละน้อย

ในขณะเดียวกันซีรีส์ที่รายล้อมไปด้วยความสัมพันธ์และความรักหลากหลายรูปแบบก็ค่อย ๆ พาเราไปรู้จักกับทุกตัวละครอย่างช้า ๆ เรียกได้ว่าทุกตัวละครต่างมีสีสันน่าสนใจซึ่งพอมาอยู่ในการดำเนินเรื่องที่ฉลาดแต่เรียบง่าย ก็ยิ่งทำให้เรื่องราวดูมีเสน่ห์อย่างประหลาด บทจะฮาก็พากับยิ่งมุกโบ๊ะบ๊ะเบาสมอง บทจะซึมก็พากันดึงอารมณ์ให้ดิ่งลึกจนรู้สึกอินไปกับเรื่องราวได้ไม่ยาก ความกลมกล่อมลงตัวที่เรารู้สึกได้จากการที่ซีรีส์ค่อย ๆ ปล่อยพลังงานความอบอุ่นชวนให้รู้สึกเข้าอกเข้าใจเหมือนได้เห็นไปถึงหัวใจและความรู้สึกนึกคิดของตัวละครได้อย่างชัดเจน เพียงไม่กี่ตอนซีรีส์ก็ได้ระเบิดฉากเรียกน้ำตาที่ซ่อนไว้อยู่ทั่วทั้งเรื่องออกมา จนทำให้คนดูอย่างเรา ๆ อดไม่ได้ที่จะขบคิดและหวนคิดถึงประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา ไปพร้อม ๆ กัน เกิดเป็นความสัมพันธ์แห่งความเข้าอกเข้าใจกันระหว่างซีรีส์และคนดูได้อย่างน่าประทับใจ

ในส่วนการเดินเรื่องของซีรีส์ก็ทำได้ฉับไว ไม่เยิ่นเย้อ ลำพังเพียง 2 ตอนแรกก็ปูให้เราได้รู้จักที่มาที่ไปและมิติตื้นลึกหนาบางของตัวละครได้อย่างน่าสนใจ แต่ละ EP. ครบทุกอารมณ์สนุกและเศร้าได้ในคราวเดียว แถมตัดจบแบบลุ้น ๆ ค่อย ๆ ทิ้งปมต่าง ๆ ไว้ให้ชวนติดตามในแต่ละตอนอีกด้วย

ที่สำคัญจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแค่มีพล็อตที่เข้าใจง่ายและชวนติดตามเท่านั้น แต่งานนี้ยังได้นักแสดงสาวชื่อดังแห่งวงการหนังเกาหลีใต้อย่าง ‘จอนโดยอน’ โคจรมาเจอกับ ‘จองคยองโฮ’ นักแสดงหนุ่มสายโรแมนติกคอมเมดี้จากซีรีส์ดัง Hospital playlist มาร่วมงานด้วยกันเป็นครั้งแรก! ซึ่งเชื่อมือได้เลยว่าทั้งฝีมือการแสดงและการเลือกรับบทบาทของทั้งคู่ก็การันตีความดีงามของซีรีส์เรื่องนี้ได้อย่างดีเลยทีเดียว(ใครเคยดู Hospital playlist คงจะเข้าใจดี)

เคมีการแสดงของนักแสดงหลักทั้งคู่เป็นอะไรที่เรียกได้ว่าเข้าขากันได้ดีแบบสุด ๆ เพราะในช่วงที่ตัวละครทั้ง 2 ต้องแสดงความขัดแย้งกันด้วยบทบาทหน้าที่ระหว่างคนเป็นแม่ที่ต้องคอยอุ้มชูดูแลลุกสาวให้ดีที่สุดอย่างที่สังคมรอบข้างต้องการไปพร้อม ๆ การรับมือกับติวเตอร์หนุ่มผู้หยิ่งยโสเข้าถึงยาก ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ตีความโจทย์ของตัวละครได้อย่างแตกฉานและปะทะคารมกันได้อย่างเผ็ดมันส์ หรือแม้จะในตอนน่ารักกุ๊กกิ๊กกันเราก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นหัวใจที่ค่อย ๆ แสดงออกมาทีละนิดจากทั้ง 2 คาแรคเตอร์ บอกเลยว่าแม้ 2 นักแสดงนำจะดูอายุห่างกัน ก็ไม่ทำให้ความฟินน้อยลงไปแต่อย่างใด

แม้ว่าตอนนี้ตัวซีรีส์จะยังมีจำนวนตอนให้ดูไม่มาก แต่เราก็เชื่อว่า Crash Course in Romance จะเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างความประทับใจและน่าจะทำงานกับหัวใจของใครหลายคนได้เป็นอย่างดีสำหรับต้นปีนี้แน่นอน ใครที่ลังเลใจอยู่ว่าจะเริ่มดูเลยดีไหม ก็บอกได้คำเดียวว่าไม่ต้องรอแล้ววว!

ซีรีส์ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.10 น. ทางช่อง tvN และแฟนซีรีส์ชาวไทยรับชมได้ทาง Netflix