(ภาพปกถ่ายโดยผู้เขียน)หลายคนคงคุ้นเคยกับหนังสือ ชาร์ล็อตต์ แมงมุมเพื่อนรัก เพราะเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาสมัยเรียนมัธยม เราเองก็เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ ต้องยอมรับว่าตอนน้ัน "เหมือนถูกบังคับให้อ่าน" เพราะเป็นหนังสือนอกเวลาวิชาภาษาไทย ตอนที่อ่านเลยไม่ได้รู้สึกอะไรกับเนื้อหาของหนังสือมากนัก พูดง่าย ๆ ก็คือ อ่านเพื่อให้สอบผ่านแค่น้ันเอง เรามาซื้อแมงมุมเพื่อนรักอีกทีตอนมีลูกแล้ว และลูกกำลังเริ่มต้นอ่านหนังสือ ที่เลือกเล่มนี้ให้ลูกเพราะยังจำได้ว่าเนื้อหาไม่เป็นพิษเป็นภัยและเหมาะกับเด็ก ผู้แต่งหนังสือเล่มนี้คือ อี. บี. ไวท์ แปลเป็นภาษาไทยโดย คณา คชา (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ปกหน้า(ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ผู้แต่งและผู้แปลหลังจากซื้อมาเราก็ปล่อยให้ลูกอ่านเอง ไม่ได้อ่านให้ฟังหรือนั่งอ่านด้วยกัน พออ่านจบลูกก็มาเล่าเนื้อหาให้ฟังคร่าว ๆ ซึ่งเราเองก็ลืมไปเกือบหมดแล้ว จำได้แค่เนื้อหาหลัก ๆ เท่าน้ัน การที่ลูกเล่าให้ฟังกระตุ้นให้เราหยิบเล่มนี้มาอ่านเองอีกคร้ัง เพราะส่วนที่เขาเอามาเล่าให้ฟังทำให้รู้สึกเศร้า ซึ่งเราสงสัยว่ามีอารมณ์นี้ด้วยหรือ นอกจากนี้เราก็อยากอ่านเพื่อจะได้ร่วมกันแสดงความเห็นกับลูกด้วยเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ฟาร์ม ชาวไร่คนหนึ่งกำลังจะฆ่าลูกหมู แต่ลูกสาวของเขาชื่อเฟิร์นขอเลี้ยงลูกหมูตัวนี้ไว้และตั้งชื่อมันว่า วิลเบอร์ ถึงเฟิร์นจะรักวิลเบอร์มาก แต่ในที่สุดมันก็ถูกขายไป วิลเบอร์ย้ายไปอยู่ในโรงนาแห่งใหม่และมีเพื่อนเป็นสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยยู่ที่นั่นอย่างห่าน วัว ไก่ แกะ หนูชื่อเทมเปิลตัน รวมถึงแมงมุมอย่างชาร์ล็อตต์ด้วยเมื่ออ่านจบ เรารู้สึกว่าถึงหนังสือเล่มนี้จะเป็นวรรณกรรมเยาวชน แต่ถ้าผู้ใหญ่ตั้งใจอ่านก็ได้ข้อคิดดี ๆ ที่เอามาแบ่งปันกับเด็ก ๆ ได้เยอะทีเดียวความสัมพันธ์ระหว่างวิลเบอร์กับชาร์ล็อตต์สอนเราเรื่องมิตรภาพอันงดงาม จริงใจ ไม่มีข้อแม้ ชาร์ล็อตต์ชักใยดักแมลงและอาศัยอยู่ในคอกของวิลเบอร์ ในตอนแรกที่วิลเบอร์เห็นชาร์ล็อตต์จับแมลงกิน มันคิดว่าชาร์ล็อตต์โหดร้าย แต่ในที่สุดก็ตระหนักว่าแมงมุมตัวนี้มีจิตใจที่งดงาม ทั้งคู่สนิทกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แมงมุมตัวเล็ก ๆ อย่างชาร์ล็อตต์พยายามช่วยขีวิตวิลเบอร์ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ตรงข้ามกับเทมเปิลตันที่จะช่วยก็ต่อเมื่อได้ผลประโยชน์เท่านั้นข้อคิดอีกอย่างที่ได้จากเรื่องนี้คือ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ถึงมิตรภาพจะงดงามเพียงใด ท้ายที่สุดการจากลาก็เป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่พ้น เป็นสัจธรรมที่เกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกใบนี้ แต่เราก็สามารถเก็บความทรงจำดี ๆ ไว้ในใจได้ข้อคิดสำคัญอีกข้อคือ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป แม้ว่าสิ่งที่เรารักจะจากเราไปก็ตาม หลังจากผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ท้ายที่สุดแล้ววิลเบอร์ก็ต้องดำเนินชีวิตของตัวเองต่อไป ในช่วงแรก ๆ อาจจะทำใจได้ยาก แต่สุดท้ายความทุกข์และความเศร้าจะผ่านไป แล้วเราก็จะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) ปกหลังพออ่านจบ เราแชร์ข้อคิดหลัก ๆ สามข้อนี้กับลูก ไม่แน่ใจว่าลูกจะเข้าใจทั้งหมดหรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือ สิ่งที่ตัวเขาเองได้จากเรื่องนี้คือ มิตรภาพเป็นสิ่งที่มีค่า แต่มิตรภาพที่จริงใจต่อกันนั้นดีกว่าแค่มีเพื่อนเยอะ ๆ (ภาพถ่ายโดยผู้เขียน) คำโปรยปกหลังการอ่านแบบผ่าน ๆ เมื่อสมัยเรียนเทียบไม่ได้กับการอ่านแบบตั้งใจ พอได้อ่านแบบจริงจังถึงรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ววรรณกรรมเยาวชนเล่มนี้สนุก อ่านง่าย มีหลายอารมณ์ทั้งความอิ่มเอมใจจากมิตรภาพ ความเศร้าโศกที่ต้องจากลา การเริ่มต้นใหม่ ขอแนะนำให้ผู้ใหญ่อ่าน แล้วจะรู้ว่าหนังสือเด็กน้ันสนุกและคู่ควรกับการใช้เวลาอ่านอย่างตั้งใจ