เครดิตภาพ WarnerBrosมาถึงภาคที่ 2 กันแล้วนะครับสำหรับภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ หลังจากที่ภาคแรกทำรายได้ไปถล่มทลายทั่วโลกได้รู้จักหนุ่มน้อยแดเนียลในบทบาทของพ่อหมดแฮร์รี่ พอตเตอร์แม้ว่าฮอร์กวอร์ตจะเป็นโรงเรียนประจำแต่ก็ต้องมีปิดเทอมซัมเมอร์เช่นกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แฮร์รี่ไม่แฮปปี้เลยเพราะเค้าต้องทนอึดอัดอยู่กับครอบครัวดัสลี่ย์ที่รับเลี้ยงเค้า ลุงเวอร์นอน (Richard Griffiths) และ ป้าเพ็ตทูเนีย(Fiona Shaw) ที่หวาดกลัวพลังวิเศษของเขา และความน่าเบื่อยิ่งมากขึ้นไปอีกเมื่อ รอน (Rupert Grint ) เฮอร์ไมโอนี่ (Emma Watson) ก็หายไปเลย ไม่มีเขียนจดหมายมาสักฉบับแต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ ก็มีเอลฟ์ประจำบ้านชื่อ ด็อบบี้ ปรากฎตัวขึ้นในบ้านของแฮร์รี่และพยายามขัดขวางไม่ให้แฮร์รี่กลับไปเรียนยังฮอร์กวอร์ต ด็อบบี้แอบเก็บจดหมายทุกฉบับที่เพื่อนรักของเขาเขียนมาหา ขัดขวางทุกวิถีทางไม่ให้ได้ติดต่อกันแต่ก็ไม่สำเร็จ รอนก็ยังแอบเอารถเหาะของพ่อเขาแอบมารับแฮร์รี่ และสิ่งที่น่าประหลาดคือชานชาลารถไฟ 9 3/4 ปกติจะเป็นทางผ่านให้เข้าไปยังชานชาลารถไฟไปยังฮอร์กวอร์ต กลับถูกปิดอย่างมีเงื่อนงำรอนกับแฮร์รี่จึงต้องไปฮอร์กวอร์ตทางช่องทางรถเก่า ๆ เหาะได้ของรอนเครดิตภาพ WarnerBrosความเป็นฮีโร่ของแฮร์รี่ในในปีก่อน สร้างชื่อเสียงให้กับแฮร์รี่อย่างมากและทำให้ จินนี่ย์ วิสลีย์ (Bonnie Wright) น้องสาวของรอนดันแอบชอบแฮร์รี่ซะงั้น และศาสตราจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่ กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต (Kenneth Branagh) ก็พยายามตีสนิทกับแฮร์รี่เนื่องจากเขาเป็นคนชอบให้เป็นจุดสนใจและแฮร์รี่ก็กำลังโด่งดังเนื้อเรื่องของภาคที่ 2 ยังคงเข้มข้นพอสมควร มันไม่ใช่สเต็ปการดำเนินเรื่องจาก 1 ไป 2 แต่ระหว่างการดำเนินเรื่องก็ซ่อนปมและปริศนาไว้มากมาย เช่น ทำไมแฮร์รี่กับรอนถึงไม่สามารถผ่านชานชาลา 9 3/4 เข้าไปได้ ถ้าลองจับดีเทลดี ๆ หนังภาคนี้กำลังเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบันและอนาคตไว้ครับ เพราะตัวละครสำคัญสำหรับภาคนี้อย่าง โวลเดอร์มอร์ ที่หนังจะพาเราไปรู้จักอดีตนักเรียนหนุ่มนิสัยดีแต่เลือกเดินทางผิด และสิ่งที่จับจุดได้คือโวลเดอร์มอร์แค้นเคืองโรงเรียนฮอร์กวอร์ตนี้มากซึ่งหนังก็ยังไม่เฉลยซะทีเดียวครับ แต่คนดูแบบผมก็เริ่มคิดตามว่า เป็นเพราะตัวลอร์ดโวลเดอร์มอร์เค้าอยู่บ้านสลิธิรินรึเปล่านะ ถึงได้มีพฤติกรรมในเชิงนี้ (เด็กบ้านนี้จะเกเรหน่อย ๆ)เครดิตภาพ WarnerBrosการขยายปม และการคลี่คลายปมของหนังภาคนี้ บางอย่างก็ดูง่ายเกินไปซะจนเดาได้ แต่สิ่งที่น่ารักคือรอนตัวละครขี้แพ้ขี้กลัว แต่กลับมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก และสิ่งที่น่าสนใจของหนังภาคนี้อย่าง "น้ำยาสรรพรส" ที่ทำให้คนที่กินเข้าไปสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นคนที่ต้องการได้ ซึ่งเราจะได้เห็นความสามารถและข้อควรห้ามในการใช้ เพราะการทำน้ำยาต้องใช้เส้นผมของเป้าหมาย แต่เฮอร์ไมโอนี่ดันเอาหยิบขนแมวมาซะงั้น เพราะงั้นหนังจะอธิบายให้เราเห็นถึงข้อควรใช้และความผิดพลาดครับ คะแนนเนื้อเรื่อง 9/10 หนังมีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าภาคเก่าในเรื่องของการดำเนินเรื่องพร้อมกับปมต่าง ๆ และฉากต่อสู้กับโวลเดอร์มอร์ในภาคนี้ ถึงแม้ว่าโวลเดอร์มอร์จะเป็นเพียงภาพอดีต แต่ก็มีพิษสงทำร้ายแฮร์รี่ได้อยู่ดีรวมถึงปมสำคัญของการที่ทุกคนกลายเป็นหิน ว่าเกิดจากสาเหตุใดคะแนนเอฟเฟคต์ 8/10 หนังทำ CG งูดึกดำบรรพ์ให้การเคลื่อนไหวสมจริง ดูเนียน ให้ความรู้สึกว่างูยักษ์จู่โจมและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่หนังระดับบล็อกบัสเตอร์ขนาดนี้ คงไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนเครดิตภาพ WarnerBrosข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. ความเฉลียวฉลาดของแฮร์รี่ ในฉากการต่อสู้สุดท้าย ที่แฮร์รี่ใช้ความฉลาดในการปราบปิศาจงูยักษ์บาซิลิส แม้จะเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ แต่ก็มีความสามารถใช้เทคนิคในการสู้กับงูและโวลด์เดอร์มอร์ในภาพอดีต โดยเอาเขี้ยวของบาร์ซีลิสแทงลงไปบนสมุดบันทึก ในขณะผมนั่งดู ผมยังนึกไม่ถึงเลยขนาดผมอายุมากกว่าแฮร์รี่2. ความรักเพื่อนของรอน การใช้รถเหาะได้ในโลกมักเกิ้ล (มนุษย์) ถือเป็นเรื่องต้องห้ามเพราะจะเป็นการเปิดเผยการมีตัวตนของผู้วิเศษมากเกินไป แต่รอนก็ฝ่าฝืนคำสั่งไปช่วยแฮร์รี่ที่ถูกขัดขวางการกลับมาเรียนฮอร์กวอร์ต โดยไม่คิดว่าตัวเองจะโดนลงโทษหรือไม่ภาคที่ 2 เองก็ทำออกมาได้ดีพอสมควร ทั้งในตัวปมเรื่องและการเดินเรื่องที่ทำให้คนดูสนใจและติดตาม มาเฉลยทุกอย่างในตอนท้ายทำให้ระหว่างการเดินเรื่องทำให้คนดูได้คิดตามไปตลอดเวลา เครดิตภาพปก WarnerBros