รีวิวหนัง "The Piano Lesson บทเรียนจากเปียโน" จากสเตทสู่ซีนีเมติกที่ทรงพลังด้วยการแสดง

หนึ่งในหนังดรามาที่รวมทัพนักแสดงผิวสีเอาไว้คับคั่งในปีนี้ จนกลายเป็นหนังที่ถูกจับตามองว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งคอนเทนท์ที่น่าจะไปได้สวยในสายรางวัล "The Piano Lesson บทเรียนจากเปียโน" หนังชีวิตที่หยิบเอาบทละครเวทีมาขึ้นจอใหญ่อีกครั้ง พร้อมกับยังเชิญทีมนักแสดงจากบนเวทีมาโลดแล่นในเวอร์ชันหนังใหญ่ครั้งนี้ด้วย

The Piano Lesson บทเรียนจากเปียโน ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตครอบครัวในบ้านตระกูลชาร์ลส์ ที่กลายเป็นประเด็นโต้เถียงกันระหว่างพี่น้องที่ต่างมีแนวคิดที่ต่างกันเกี่ยวกับเปียโนหลังเก่าที่เต็มไปด้วยความทรงจำ บอย วิลลี่ ชาวไร่รับจ้างต้องการที่จะขายเปียโน เพื่อหาเงินไปซื้อที่ดินของอดีตนายจ้างที่เพิ่งตายไปจากอุบัติเหตุ แต่เบอร์นีซยืนกรานที่จะเก็บเปียโนไว้ ซึ่งเปียโนหลังนี้ได้มีรูปสลักของต้นตระกับเอาไว้ในช่วงเวลาที่พวกเขายากลำบากในช่วงยุคแห่งทาสรับใช้

นี่ก็คือผลงานการสร้างหนังใหญ่เรื่องแรกของ "มัลคอล์ม วอชิงตัน" ลูกชายของดาราซุปตาร์ดาวค้างฟ้า เดนเซล วอชิงตัน ที่มารับหน้าที่สร้างและเขียนบทหนังด้วยตัวของเขาเอง โดยดัดแปลงมาจากบทละครเวทีฉบับปี 1987 ของ ออกัส วิลสัน ที่กลายเป็นหนึ่งในละครเวทีระดับตำนานที่อยู่บนหึ้ง ที่ยังคงร้อยเรียงประเด็นความเข้มข้นในครอบครัวของคนผิวสีที่เป็นลูกหลานของบรรพบุรุษในยุคก่อนเลิกทาสของอเมริกา ที่คมคายและเข้มข้นตลอดทั้ง 2 ชั่วโมง

The Piano Lesson จัดได้ว่าเป็นหนังหมวดสร้างเพื่อโดดเด่นบนเวทีรางวัล มันคือหนังดรามาที่เต็มไปด้วยประเด็นในบทสนทนา ผ่านถ้อยคำในการเล่าเรื่องจากอดีตที่ขมขื่นสู่ปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างพี่น้องในครอบครัว ที่แต่ละข้อความเต็มไปด้วยจิ๊กซอว์หลากหลายชิ้นมากมาย ที่ค่อย ๆ มาช่วยแต่งเติมชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเรื่องราวนำมาประติดประต่อกันออกมาเป็นชิ้นเป็นอันทีละเรื่อย ๆ

หนึ่งในเอกลักษณ์ของ The Piano Lesson ก็คงจะเป็นทีมนักแสดงที่เป็นไฮไลต์ เพราะถือว่าได้หยิบเอานักแสดงจากฉบับละครเวที เวอร์ชันล่าสุดในปี 2022 มาทำการแสดงในฉบับหนังเรื่องนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น "ซามูแอล แอล. แจ็คสัน", "จอห์น เดวิด วอชิงตัน" และ "เรย์ ฟิชเชอร์" มาสวมบทบาทเดิมที่พวกเขาเคยทำเอาไว้บนเวทีบนแผ่นฟิลม์อีกครั้ง และพวกเขาก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างไหลลื่นในระดับมืออาชีพ ที่ต้องมีสักคนมีโอกาสได้โดดเด่นบนเวทีรางวัลแน่ ๆ

แต่ที่เจิดจรัสและเปล่าปลั่งมากก็คือ "แดเนียล ดีดไวล์เลอร์" ที่เชื่อว่าเธอจะต้องมีชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงในหลาย ๆ สถาบันแน่นอน เพราะนี่ก็อีกหนึ่งผลงานการแสดงที่จัดจ้านและดีงามของเธอ การแสดงอารมณ์จากบทที่ค่อนข้างส่งอยู่แล้วทำออกมาได้ เธอทำได้ถึงและทำได้จัดจ้านมาก การระเบิดอินเนอร์ที่สง่างาม ไมได้ฟูมฟายและโวยวาย แต่ควบคุมอยู่ในมือเธอได้อย่างทรงพลัง

ส่วนงานสร้างและโปรดักชันของหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าทำได้ดี แม้ว่าจะวนเวียนอยู่แค่กับฉากในบ้านโต๊กเกอร์เป็นหลัก ๆ แต่องค์ประกอบฉากต่าง ๆ ก็ค่อนข้างเสริมแต่งขึ้นมาจากฉบับละครเวที เพิ่มชีวิตชีวิาและความรู้สึกเข้ามาใหม่ด้วยการสาดแสงและโทนสีให้กับหนัง สร้างบรรยากาศที่คมคายออกมาได้อย่างเกรียงไกรได้ยิ่งขึ้น อาจจะเป็นลักษณะถ่ายทอดฉากละครเวทีผ่านเลนส์หนังในมุมมองที่เคลื่อนไหวได้ดียิ่งขึ้น

The Piano Lesson อาจจะมีกลิ่นอายความเป็นสเตทโชว์ที่เคารพต้นฉบับอบอวลไปทั้งเรื่อง นั้นเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้ชมและผลักไสคนดูได้ในพร้อม ๆ กัน นี่คือหนังหวังรางวัลที่อาจจะไม่ใช่ผู้ชมทุกคนเข้าถึงมันได้ได้อย่างถ่องแท้ เพราะหนังก็ยังเต็มไปด้วยสัญญะต่าง ๆ ที่สอดแทรกเอาไว้ให้ได้ขบคิดตามไปตลอดทั้งเรื่อง สะท้อนมุมชีวิตของคนผิวสีในช่วงยุคที่กำลังเผชิญหน้ากับการตอกย้ำรอยแผลเป็นที่สั่งสมมานาน

ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว The Piano Lesson ก็จัดได้ว่าเป็นหนังที่ร้อยเรียงออกมาได้ค่อนข้างทรงพลัง ถึงแม้ว่าจะยังตราตรึงดึงในส่วนไฮไลต์ตามสไตล์ละครเวทีมาใส่เอาไว้ในฉบับซินีเมติก สอดแทรกประเด็นดรามาครอบครัว ร่วมด้วยปมลี้ลับความสยองที่หาคำตอบไม่ได้ แต่บางคนอาจจะไม่ค่อยปลื้มกับหลาย ๆ ซีนที่โหวกเหวกโวยวายจากการใช้อารมณ์ของตัวละคร แต่มันก็คืองานสร้างที่เต็มไปด้วยพลัง กับทีมนักแสดงที่ผนึกกำลังในการสร้างงานที่เปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพในแง่การแสดงที่ตรึงใจ

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Piano Lesson บทเรียนจากเปียโน

• ประเภท: ดรามา
• ผู้กำกับ: มัลคอล์ม วอชิงตัน
• นำแสดงโดย: ซามูแอล แอล. แจ็คสัน, จอห์น เดวิด วอชิงตัน, แดเนียล ดีดไวล์เลอร์, เรย์ ฟิชเชอร์
• ความยาว: 125 นาที
• กำหนดฉายในไทย: 22 พฤศจิกายน 2024 (ที่ Netflix)

Movie.TrueID METRIC: The Piano Lesson บทเรียนจากเปียโน

• ภาพรวม
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.4/10)
• การเล่าเรื่อง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.7/10)
• การแสดง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9.1/10)
• เทคนิคงานสร้าง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.2/10)
• บทภาพยนตร์
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.5/10)