เซียวฮื้อยี้ 2020 ดัดแปลงจากนิยายกำลังภายในชื่อดังของ โกวเล้ง ว่าด้วยเรื่องราวของพี่น้องฝาแฝดที่พลัดพรากกันตั้งแต่เกิด ด้วยเรื่องบุญคุณความแค้นทำให้ทั้งคู่ต้องเป็นศัตรูกันซีรีส์เรื่องนี้ให้อะไรผมมากครับ นอกเหนือจากความสนุกปนฮา ลุ้นระทึก ยังแฝงไปด้วยข้อคิดมากมายตามสไตล์นิยายกำลังภายใน ผมได้รวบรวมข้อคิดที่ได้ตามมุมมองส่วนตัว หวังว่าจะชอบกันครับ**ต่อจากนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง ผู้ที่ยังดูไม่ได้โปรดระมัดระวัง** ความรักเป็นเรื่องของ 'คนสองคน'เจียงเฟิงและฮวาเยว่หนู บุรุษรูปงามต้องหนีไปกับสาวใช้ของวังบุปผามู่หรงจิ่วและเฮยจือจู คุณหนูตระกูลอันดับหนึ่งในยุทธภพ จะครองรักกับนักดาบไม่มีชื่อเสียงเรียงนามได้อย่างไรฮวาอู๋เชวและเถี่ยซินหลาน รักต้องห้ามเพราะคำมั่นสัญญากับประมุขเยาเยว่ คู่รักที่ฮวาอู๋เชวช่วยไกล่เกลี่ย ความแค้นของคนเป็นพ่อ แม้ต้องตายก็ไม่ยอมให้ลูกไปแต่งกับลูกสาวของพรรคอธรรมค่านิยมของสังคม ลำดับชั้นทางสังคม ความเห็นคนนั้นคนนี้ กระทั่งเรื่องราวของรุ่นพ่อแม่ ทำให้หลายคู่ในเรื่องประสบความยากลำบาก บางคู่ถึงกับฆ่าตัวตายตามกันไป หากปล่อยให้ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน เรื่องราวคงจะง่ายกว่านี้ ผมได้ข้อคิดว่า ความรักไม่ควรมีกฎเกณฑ์ใด ๆ มาครอบ เราควรเปิดใจให้ทุกคู่ได้ลองใช้ชีวิตร่วมกันครับ บางครั้งอาจต้องมองที่ 'เจตนา'ฉากหนึ่งที่เซียวฮื้อยี้ถามหมอเทวดาว่า จอกใบนี้มีพิษหรือไม่ แต่ยังไม่ต้องการคำตอบในตอนนี้เพราะจะทำให้เสียสมาธิ เมื่อการประลองจบลง หมอว่านชุนหลิวก็บอกกับเซียวฮื้อยี้ว่า"ไม่สำคัญว่าในจอกจะมียาพิษหรือไม่ สำคัญคือเจ้าของจอกมีเจตนาอย่างไร "เซียวฮื้อยี้เก็บมาคิดแล้วจึงปล่อยวาง และไม่ต้องการคำตอบอีก ฉากนี้เป็นฉากที่ผมชอบมากที่สุดฉากหนึ่งในเรื่อง อันดับแรกมันสะท้อนความฉลาดทางอารมณ์ของเซียวฮื้อยี้ อันที่สองมันกำลังบอกเราว่า บางอย่างไม่จำเป็นต้องไปหาคำตอบ แค่รู้ว่าเขาทำไปเพื่ออะไรก็พอ 'คนโฉด' หรือ 'ผู้ดีจอมปลอม'ปีศาจพนัน แม้จะเป็นหนึ่งในสิบคนโฉด แต่ก็เป็นคนตรง จริงใจ น่าเชื่อถือและพึ่งพาได้หลี่ต้าจุ่ย ในเรื่องเฉลยว่า ไม่ได้กินคนจริง ๆ แต่ทำไปเพราะมีเหตุผลเบื้องหลัง หลี่ต้าจุ่ยยังเป็นคนที่รักและเป็นห่วงเซียวฮื้อยี้จากใจจริงเซียวฮื้อยี้ แม้เติบโตในหุบเขาคนโฉด นิสัยเจ้าเล่ห์ซุกซน แต่เนื้อแท้เป็นคนจิตใจดี อนึ่งความเจ้าเล่ห์ของเซียวฮื้อยี้ ก็ทำให้เขาเอาตัวรอดในยุทธภพ และสร้างผลงานได้สิบคนโฉด ภายนอกดูโหดร้าย แท้จริงแล้วกลับไม่ใช่คนชั่วร้าย เพียงแต่มีการกระทำที่แปลกประหลาดไม่เหมือนคนทั่วไป ในขณะที่ เจียงเปี๋ยเฮ่อ ถูกยกว่าเป็นจอมยุทธ์คุณธรรม ใช้ชีวิตสมถะ แท้จริงกลับเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เบื้องหน้าสร้างภาพลักษณ์เป็นคนดี เบื้องหลังทำเรื่องโฉดชั่ว เรื่องนี้บอกเราว่า เราไม่อาจมองคนจากภายนอก คนดีอาจเป็นคนโฉด คนโฉดอาจไม่ได้เลวร้าย อย่าด่วนตัดสินใคร จนกว่าจะได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริง อย่ายอมแพ้ต่อโชคชะตาแม้สองพี่น้องฝาแฝดจะไม่อยากประลองกันแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่มีใครหนีการประลอง เหมือนกำลังบอกเราว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องกล้าเผชิญหน้ากับปัญหา ไม่หนีปัญหา และเป็นฝ่ายของเซียวฮื้อยี้ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ใช้กลยุทธ์ตบตาประมุขวังบุปผาให้คายความจริง ตรงนี้อาจจะตีความได้ว่า ตราบใดที่ยังมีชีวิต ย่อมมีวิธี อย่าได้คิดยอมแพ้ 'เพื่อน' สำคัญเมื่อหลีกเลี่ยงการประลองไม่ได้ ทั้งเซียวฮื้อยี้และฮวาอู๋เชวต่างก็ไม่ได้คิดที่จะสังหารอีกฝ่าย ทางฮวาอู๋เชวจะแกล้งแพ้แล้วยอมตาย ฝั่งเซียวฮื้อยี้ก็มีแผนแกล้งตาย ไม่มีแม้แต่ชั่วความคิดเดียวที่จะคิดร้ายต่อกัน แสดงถึงคุณธรรมน้ำมิตรอันยิ่งใหญ่ของทั้งคู่ ผมคิดว่าในชีวิตหนึ่ง การมีสหายรู้ใจที่ปรารถนาดีต่อกัน เหมือนกับสองคนนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ประเสริฐมาก เชื่อฟัง หรือ ตั้งคำถามฮวาอู๋เชว เติบโตที่วังบุปผา ถูกล้างสมองแต่เด็ก ให้เชื่อฟัง ห้ามตั้งคำถาม บวกกับความที่เป็นคนกตัญญูและไร้เดียงสา ทำให้แพ้ทางไปอีก ขณะที่ เซียวฮื้อยี้ สงสัยและตั้งคำถามอยู่ตลอด ทำไมไม่ฆ่าเอง? ทำไมคนใดคนหนึ่งต้องตาย? รวมถึงต้นตอความวุ่นวายต่าง ๆ ในยุทธภพ สะท้อนให้เห็นว่า เราต้องรู้จักตั้งคำถามถึงสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ ทำไปเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์ มิฉะนั้นอาจตกเป็นเหยื่อของคนอื่นได้เรื่องนี้ยังสอนให้เรามีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องทำตามแบบแผนที่เป็นมา เช่น ฉากที่เซียวฮื้อยี้ไว้ชีวิตเจียงฉิน ให้อภัย หรือ แก้แค้นฉากที่ เยี่ยนหนานเทียนยื่นดาบให้เซียวฮื้อยี้เพื่อสะสางความแค้นที่ฆ่าพ่อแม่ แต่เซียวฮื้อยี้ปฏิเสธ พร้อมกับบอกว่า"ถ้าฆ่าเขา สุดท้ายข้าก็ไม่ต่างจากเขา"ฉากนี้คมกริบครับ เลื่อมใส เลื่อมใส สิ่งที่เซียวฮื้อยี้ทำ คือการทำลายวัฏจักรของการแก้แค้น ไม่ส่งต่อความเกลียดชัง ช่างสมกับที่อ้างตัวว่า เป็นคนที่หลักแหลมที่สุดในโลกแล้วล่ะครับ ฮ่า ๆเจียงฉินเป็นเหยื่อจากการที่ตระกูลถูกทำลาย ในขณะที่พ่อแม่ของเซียวฮื้อยี้คือเหยื่อของเจียงฉิน ถ้าเซียวฮื้อยี้ฆ่าเจียงฉิน ย่อมเกิดเหยื่อต่อไปไม่สิ้นสุด การให้อภัยเจียงฉินจึงเป็นการตัดวงจรของการเป็นเหยื่อทั้งหมดลงจางจิงและมู่หรงจิ่ว ยอมลืมความแค้นในอดีตทั้งหมดกับเซียวฮื้อยี้ และเลือกจำแต่สิ่งดี ๆ เธอเปลี่ยนตัวเองจากเหยื่อ เป็นสหายที่ดีต่อเซียวฮื้อยี้ หากเธอยังคิดแค้น เรื่องก็จะมีแต่บานปลายเท่านั้นเจียงฉิน วางแผนครึ่งหนึ่งของชีวิตกลับล้มเหลว ประมุขวังบุปผาและเว่ยอู๋หยา อดทนรอสิบกว่าปีกลับแก้แค้นไม่สำเร็จ สิ่งที่ได้รับจากการแก้แค้นสำเร็จคืออะไรนั้น อาจมีเพียงความสะใจชั่วคราว กลับกันหากไม่สำเร็จอาจเป็นทุกข์มากกว่าเดิม หากเลือกให้อภัยและปล่อยวาง คงจะมีความสุขกันไปแล้วล่ะครับ ฮ่า ๆผมคิดว่า การกระทำบางอย่างอาจเกิดจากความบกพร่อง ความไม่ประสีประสา ความไม่เข้าใจกัน หากเราเลือกที่จะไม่ถือสา ปล่อยวาง ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้เขาได้เรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเอง ย่อมเป็นสิ่งที่ดีต่อทุกฝ่าย ซึ่งในเรื่องก็สะท้อนออกมาชัดเจนว่า การให้อภัยนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าข้อคิดที่ผมรวบรวมได้ก็มีประมาณนี้ครับ ผมเชื่อว่ายังมีข้อคิดจากเรื่องนี้อีกไม่มากก็น้อย ทว่าด้วยด้วยสติปัญญาอันน้อยนิดจึงเก็บและแกะได้ประมาณนี้ หากจอมยุทธ์ท่านใดมีเพิ่มเติม หรือผิดพลาดประการใดก็ขอคำชี้แนะด้วยครับ เครดิตภาพ 绝代双骄关注组 : หน้าปก / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3 / ภาพประกอบ 4 / ภาพประกอบ 5 / ภาพประกอบ 6 / ภาพประกอบ 7 / ภาพประกอบ 8 / ภาพประกอบ 9เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!